Coworking Space ในประเทศไทยถึงยุคที่มีมากเกินความจำเป็นหรือเปล่า | Techsauce

Coworking Space ในประเทศไทยถึงยุคที่มีมากเกินความจำเป็นหรือเปล่า

office-269451_640

Coworking Space ถ้าพูดคำนี้เมื่อ 3 ปีก่อน คนคงเกาหัวแครกๆ ว่ามันคืออะไร อะไรคือที่ทำงานร่วมกัน ทั้งนี้ก็เพราะความเคยชินที่มนุษย์ทั่วไปและเหล่า Freelance มักจะหมกตัวทำงานอยู่ที่ร้านกาแฟ ปะปนกับคนขายตรงและคนสอนพิเศษทั้งหลาย ก็เลยทำให้เข้าใจว่า Coworking Space นั้นแทบไม่ต่างอะไรกับร้านกาแฟที่รวมตัวคนทำงาน

สิ่งที่สังเกตนุได้โดยเฉพาะในปีนี้พบว่า เจ้า Coworking Space มีเพิ่มขึ้นมาเยอะมาก เดือนนึงมีผุดขึ้นมาเดือนละ 1-2 แห่ง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มันก็เลยกลายเป็นข้อสงสัยและคำถามว่า coworking space ในเมืองไทยมันถึงจุดที่ "เฟ้อ" แล้วหรือยัง?

เกริ่นนำ เนื้อหาทั้งหมดเกิดจากความคิดเห็นส่วนตัวซึ่งเกิดจากการสังเกตุความเป็นไปเรื่อง coworking space รวมถึงการติดตามข่าวและสอบถามจากคนรอบตัวจนกลั่นกรองมาเป็นตัวอักษร ดังนั้นหากมีเนื้อหาที่ผิดถูกประการในบทความนี้ เจ้าของบทความขอน้อมรับแต่เพียงผู้เดียวและสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้

เยอะขึ้นยังกับดอกเห็ด

อย่างที่เกริ่นไว้ว่า Coworking Space ในเมืองไทยจากเดิมที่เราจะรู้จักอยู่ไม่กี่ที่ในกรุงเทพฯ ตอนนี้ในกรุงเทพฯ เองมีเพิ่มขึ้นมาเยอะมากจนน่าตกใจด้วยอัตราเฉลี่ยจากที่สังเกตใน 1 เดือนจะมีเจ้าใหม่ 1-2 แห่ง และไม่รวมว่าในต่างจังหวัดจากเดิมที่มีอยู่ในที่ๆ คนต่างประเทศ (Expats) อย่างเชียงใหม่ ตอนนี้ขยายไปอีกหลายจังหวัดที่เป็นจังหวัดใหญ่ๆ หรือหัวเมืองแต่ละที่ โคราช ขอนแก่น ภูเก็ต หาดใหญ่ และที่อื่นๆ ข้อดีคือเรามีที่ให้เลือกทำงานไม่ว่าจะ

จำแลงแปลงมาจากร้านกาแฟก็มี

สิ่งที่สังเกตได้อย่างหนึ่งคือ ก่อนหน้ามีร้านกาแฟนั่งชิคๆ เกิดขึ้นมากมายจนทะลัก เกินความต้องการของคน ไม่ต้องนึกถึงร้านนางเงือกที่มีคนเข้ามานั่งอ่านหนังสือตลอดเวลา

ด้วยความที่ร้านกาแฟมีมาก การตัดสินใจบิดตัวเองให้กลายเป็น coworking space คืออีกทางเลือกที่น่าสนใจ รวมทั้งคู่แข่งที่มีก็ไม่เยอะเท่าด้วย กลายเป็นเรียกตัวเองว่าเป็น coworking space ไปในทันที แต่จริงๆ แล้วก็เป็นแค่ร่างทรงของร้านกาแฟทั่วๆ ไปนั่นเอง

แฟชัน

คำนี้เป็นคำที่มี Damage กับตัวผู้สร้างสูงที่สุด เพราะการทำ Coworking Space มันไม่ใช่แค่มีสถานที่แล้วจบ ร้านกาแฟก็ใช่ว่าจะมีแค่เครื่องทำกาแฟแล้วเปิดได้ องค์ประกอบหลายๆ อย่างต้องช่วยเกื้อหนุนให้มันเป็นที่ที่คนจะยอมควักเงินเพื่อมาหาบางสิ่งบางอย่างที่ไม่มีในร้านกาแฟ นั่นก็คือ...

Content และ Community คือเหตุผลหลัก

ส่วนตัวผมเองยังเชื่อคำว่า Connect the Dots เราคือ Dot ที่ต้องการการเชื่อมต่อให้เข้าใกล้สู่ความฝันหรืออาจจะเป็นเส้นทางใหม่ที่เกิดขึ้นมา การมีขึ้นของ Coworking Space ทำให้เรามีพื้นที่ที่สามารถเข้าไปสร้างจุดเชื่อมต่อให้กับตัวเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นตัว Coworking Space เองก็ต้องมีการทำ PR หรือสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่จะทำให้กระตุ้นและก่อให้เกิดการใช้งาน รวมทั้งสร้างกลุ่มคนให้เข้ามาเจอกันในสถานที่ของเราและให้เป็นที่รู้จักกับคนภายนอกที่ไม่รู้จักได้ นอกจากจะเป็นเพียงสถานที่แชร์ที่ทำงานจบแล้วต่างคนต่างไป

บรรยากาศ ผู้คน บุคคลที่ดูแล และเจ้าของ คือกลุ่มคนที่สำคัญมากๆ ในการดันให้ Coworking Space มีชีวิตชีวาได้ และเมื่อมีชีวิตชีวา คนที่สนใจก็จะพยายามเข้ามาลองและเป็นลูกค้าได้ในระยะยาวในที่สุด

Facilities ที่ไม่ใช่แค่ปลั๊กไฟและเน็ตแรงๆ

สองอย่างนี้กลายเป็นสิ่งที่คนตามหาเป็นอันดับแรก และคนที่อยากจะทำ Coworking Space ก็หยิบเรื่องนี้มาเป็นอย่างแรก ซึ่งจริงๆ แล้ว คุณควรจะต้องคิดถึงข้อก่อนหน้าเป็นอันดับต้นๆ การคัดคน, การสร้าง content ให้เกิดขึ้น และการทำให้เกิดสังคมขึ้นมาจริงๆ

Coliving Space คอนเซปเพิ่มเติมของ Coworking Space?

คุณเผ่า ตราวุธ แห่ง Jitta ได้พูดถึงคำนี้ขึ้นมาในโพสต์ส่วนตัวของเขาขึ้นมา ด้วยความที่คุณเผ่าได้ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาและได้เจอสิ่งน่าสนใจนี้ ซึ่งก็น่าสนใจว่าเมืองไทยน่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น

Coliving Space โดยสรุปคร่าวๆ คือ Coworking Space นั่นแหละครับ เพียงเพิ่มอีก 1 ปัจจัยขึ้นมานั่นคือที่นอน เราสามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง ทำงาน กิน อาบน้ำ นอน ได้ทุกสิ่งอย่างได้ในที่เดียว และเปิด 24 ชั่วโมง ซึ่งหากจะให้เปรียบเทียบง่ายเข้าไปอีกนั่นคือ การหา AirBnB กับ Coworking Space ได้ในเวลาเดียวกัน ด้วยราคาที่ไม่ต้องแพงมากนัก ไม่ต้องไปเช่าสำนักงานเพิ่มเติม แถมยังได้พบกับสังคมคนที่ทำงานหรือกลุ่มคนที่เป็น Startups ได้ในที่เดียวกัน

แอบคิดว่ามันคือบ้าน AF กลายๆ เหมือนการเข้าค่าย Startups กิน นอน ปั้นฝันให้เป็นจริง ก่อนลากกระเป๋าออกไป Pitching และ Funding โดยมี Community ฝังอยู่ภายในบ้านเลย

แต่สิ่งที่พิเศษกว่าก็คือ ไม่ใช่ใครที่เข้ามาก็ได้ ต้องผ่านการคัดเลือกก่อนที่จะเข้ามาทำงาน ซึ่งทางเจ้าของจะมีการนัดสัมภาษณ์ก่อนที่จะตอบตกลงให้เข้าพักได้

ใครสนใจก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ครับที่นี่ https://krash.io

Coworking ก็จะยังเติบโตต่อไป แต่คุณภาพจะคัดกรองตัวมันเอง

การมีเยอะไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องไม่ดี ยิ่งมีเยอะมากเท่าไหร่ คนก็ย่อมมีตัวเลือกมากขึ้นเท่านั้น จุดชี้วัดไม่ใช่แค่การมี แต่เป็นการสร้างให้เกิดสังคมขึ้นจริงๆ ยิ่งสามารถจับต้องมากได้เท่าไหร่ Coworking Space ก็ย่อมจะเป็น Coworking ที่มี Space ในการแลกเปลี่ยนและพบเจอกันอย่างแท้จริง

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

งานวิจัย Accenture ชี้พนักงาน 60% กลัวตกงานเพราะ Gen AI องค์กรควรปรับระบบให้ใช้ AI ได้เต็มประสิทธิภาพ

แม้พนักงานจะเห็นคุณค่าในการทํางานร่วมกับ Generative AI แต่เกือบ 60% กังวลว่าจะตกงาน ข้อมูลนี้มาจากรายงาน 'Work, work, workers: Reinvented in the age of generative AI' ของ Accentur...

Responsive image

KTB ตั้ง ‘กรุงไทย เวนเจอร์ส’ ลุยธุรกิจ Venture Capital

KTB แจ้งตลาดหลักทรัพย์เย็นวานนี้ว่า บริษัท กรุงไทยแอดไวซ์เซอรี่ จำกัด (KTA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ธนาคารถือหุ้น 99.99% และเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร ได้จดทะเบียนจัดต...

Responsive image

ttb เปิดตัว 7 ผู้บริหารรุ่นใหม่นำทัพ ทรานส์ฟอร์มองค์กรรอบด้าน เร่งยกระดับประสบการณ์ด้านการเงินแบบไร้รอยต่อ

ทีทีบี (ttb) ปรับโครงสร้างองค์กรรอบด้าน ส่งคนรุ่นใหม่ 7 ผู้บริหารระดับสูง นำทัพขับเคลื่อนกลยุทธ์ มุ่งเจาะกลุ่มคนมีรถ คนมีบ้าน มนุษย์เงินเดือน และลูกค้า Wealth...