ท่ามกลางกระแส The Great Layoff ที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่สิ้นสุดเพราะ Meta มีแผนที่จะเลิกจ้างพนักงานเพิ่ม หลังจากเลิกจ้างไปแล้วกว่า 13% เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลคือเพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย และล่าสุดก็มีแผนที่จะเลิกจ้างเพิ่มอีกเช่นกัน โดยอาจจะมีการเริ่มภายในสัปดาห์นี้
Mark Zuckerberg, CEO ของ Meta กล่าวว่า 2023 จะเป็นปีแห่งประสิทธิภาพ และจะโฟกัสไปกับการตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น โปรเจคที่ไม่มีความสำคัญหรือไม่ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงตัดการบริหารระดับกลาง (middle management) ออกเพื่อการตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้น
การตัดสินใจลดต้นทุนครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่มีความท้าทายเนื่องจากต้นทุนและยอดค่าใช้จ่ายของบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 22% YoY (คิดเป็น 2,580 ล้านเหรียญฯ ในไตรมาส 4) แต่รายได้กลับลดลง 4% (3,200 ล้านเหรียญฯ)
ทั้งนี้ธุรกิจหลักอย่างบริการโฆษณาก็เจอปัญหาเรื่องความท้าทายในการทำโฆษณาออนไลน์เพราะได้รับผลกระทบจากนโยบายความเป็นส่วนตัวอันใหม่ของ Apple iOS ในปี 2021 ประกอบกับการเจอคู่แข่งอย่างบริษัท ByteDance เจ้าของแพลตฟอร์ม TikTok
ขณะเดียวกัน Meta ก็ยังคงลงทุนในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยี Metaverse ต่างๆ ที่ Meta เชื่อว่าจะเป็นเทคโนโลยีแถวหน้าของวงการคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น VR (Virtual Reality) และ AR (Augment Reality) จากหน่วยงานย่อยในบริษัทอย่าง Reality Labs ซึ่งกำลังซุ่มพัฒนาและสร้างรายได้ให้กว่า 727 ล้านเหรียญฯ ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้วถึงแม้จะขาดทุน 4,280 ล้านเหรียญฯ ก็ตาม
ทั้งนี้ Mark Zuckerberg ยังกล่าวว่า เขาจะรับผิดชอบในส่วนของการเลิกจ้างงานในครั้งก่อน โดยเขามองว่า “การเลิกจ้างนั้นถือเป็นทางเลือกสุดท้าย”
“เรากำลังรื้อโครงสร้างทีมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้น แต่การใช้วิธีการเหล่านี้เพียงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายและรายได้เข้าที่มากขึ้นได้”
อย่างไรก็ตาม Mark ได้กล่าวเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้วที่ Meta ได้มีการประกาศปลดพนักงาน ว่า “มาตรการเหล่านี้เพียงอย่างเดียวไม่ได้ทำให้ค่าใช้จ่ายของเราสอดคล้องกับการเติบโตของรายได้ ดังนั้นการที่ลดพนักงานออกนั้นจึงถือเป็นการตัดสินใจที่หนักพอสมควร"
อ้างอิง CNBC
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด