TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นชั้นนำระดับโลกที่มาพร้อมพันธกิจ "Inspire Creativity and Bring Joy" หรือ จุดประกายความคิดสร้างสรรค์และมอบความสุขให้กับผู้คน ต่อยอดความสำเร็จในประเทศไทยทั้งในด้านผู้ใช้ ความหลากหลายของคอนเทนท์ และชุมชนครีเอเตอร์ ประกาศเดินเกมรุกเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Ecosystem เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีผู้ใช้และครีเอเตอร์เป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตของแพลตฟอร์ม พร้อมด้วยการขยายสู่กลุ่มนักการตลาดและนักโฆษณาที่จะเป็นส่วนเติมเต็มสำคัญของ Ecosystem สู่เป้าหมายการเติบโตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปด้วยกัน
จากผลสำรวจของ Neilsen ในปี 2563 พบว่า คนไทยใช้เวลากับสื่อดิจิทัลผ่านทางสมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้นเป็น 6.08 ชั่วโมงต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 59% จากช่วงต้นปีที่มีการใช้เวลา 3.51 ชั่วโมงต่อวัน และมากไปกว่านั้น ข้อมูลจาก MediaBrix ในปี 2563 ระบุว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่มีการรับชมคอนเทนท์ประเภทวิดีโอ โดย 55% มีการรับชมทุกวัน 90% ชื่นชอบวิดีโอสั้นแนวตั้ง และ 72% เรียนรู้ผลิตภัณฑ์และรู้จักบริการต่างๆ ผ่านคอนเทนท์ประเภทวิดีโอ รวมไปถึงข้อมูลจาก SteamElement ในปี 2563 ระบุว่า Live-streaming กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นโดยพบว่า มีการเพิ่มขึ้นของคอนเทนท์จากการ Live-steaming ถึง 99% เทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 และปี 2563 สะท้อนให้เห็นว่า คอนเทนท์วิดีโอได้เข้ามาช่วงชิงเวลาของกลุ่มผู้ชมในโลกออนไลน์
สอดคล้องกับปรากฏการณ์ความสำเร็จของ TikTok ทั้งในด้านการเติบโตของจำนวนผู้ใช้และการใช้เวลาบนแพลตฟอร์ม โดยข้อมูลจาก App Annie เปรียบเทียบการใช้แพลตฟอร์ม TikTok ระหว่างเดือนมกราคมปี 2564 กับเดือนมกราคมปี 2563 พบว่า ในประเทศไทย มีการดาวน์โหลด TikTok เพิ่มสูงขึ้นถึง 44% และมีการเพิ่มขึ้นของการใช้เวลาบนแพลตฟอร์มของผู้ใช้แต่ละคนสูงถึง 71% โดยมีระยะเวลาการใช้งานในแต่ละครั้งเพิ่มสูงขึ้น 47% รวมถึงล่าสุดได้มีการสำรวจความรู้สึกของผู้ใช้คนไทยที่มีต่อ TikTok โดย Kantar ในปี 2563 พบว่า 83% ของผู้ใช้รู้สึกว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มผู้นำกระแส และ 82% มองว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เป็นบวกและทำให้ผู้ใช้รู้สึกดีเมื่อได้ใช้เวลาบนแพลตฟอร์ม จากข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่ยืนยันสะท้อนภาพความสำเร็จและโอกาสของ TikTok ในประเทศไทยได้อย่างน่าสนใจ
คุณสุรยศ เอี่ยมละออ Head of Consumer Marketing เปิดเผยว่า ในปี 2564 ถือเป็นช่วงเวลาที่ผู้ใช้และครีเอเตอร์บน TikTok ซึ่งเป็นส่วนสำคัญใน Ecosystem มีการเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นในทุกมิติ โดยมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 18 - 34 ปี ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของจำนวนผู้ใช้ทั้งหมดในประเทศไทย อีกทั้งความหลากหลายของคอนเทนท์บน TikTok ทั้งคอนเทนท์ความบันเทิงและสาระความรู้ที่เติบโตและได้รับความนิยมมากขึ้น สร้างกระแสให้เกิดเป็นไวรัลได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการแจ้งเกิดให้กับครีเอเตอร์ดาวรุ่งหน้าใหม่มากมาย พร้อมนำไปสู่การสร้างอาชีพจากการเป็นครีเอเตอร์ของ TikTok
สำหรับก้าวต่อไปในประเทศไทย TikTok จะยังคงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งและประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ ครีเอเตอร์ และพันธมิตรแบรนด์ต่างๆ ควบคู่ไปกับการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และมอบความสุขให้กับผู้คน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายในการขยายฐานผู้ใช้ในประเทศไทยผ่าน 3 กลยุทธ์สำคัญ ดังต่อไปนี้
1. การสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้: มีเป้าหมายเพื่อการสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นและตอบสนองทุกความต้องการของผู้คนในปัจจุบันผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้แก่ การขยายช่วงเวลาแห่งความสุขบนแพลตฟอร์มด้วยการเพิ่มความยาววิดีโอเป็น 3 นาที สำหรับผู้ใช้ทุกคน และการต่อยอดความสำเร็จของ TikTok LIVE ที่กำลังได้รับความนิยม ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่าง Multi-Guest เพื่อให้ผู้ใช้สามารถชวนเพื่อนมาร่วมไลฟ์พร้อมกันได้สูงสุด 3 คน และ Live Countdown Sticker ที่จะแสดงเวลานับถอยหลังก่อนเริ่มไลฟ์
2. การยกระดับคอนเทนท์บนแพลตฟอร์ม: มีเป้าหมายเพื่อการสร้างความน่าสนใจและความหลากหลายของคอนเทนท์เพื่อเข้าถึงและขยายฐานผู้ใช้กลุ่มใหม่ๆ ให้ครอบคลุมในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคอนเทนท์ความบันเทิงที่ได้รับความนิยมสูงสุดบนแพลตฟอร์ม TikTok ด้วยการส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์คอนเทนท์ประเภท PGC (Professionally Generated Content) จากผู้ผลิตคอนเทนท์มืออาชีพ อาทิ สำนักข่าว, ค่ายเพลง, ค่ายละคร, ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ เป็นต้น รวมถึงการสร้างสรรค์คอนเทนท์แนวใหม่ โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัวซีรี่ส์แนวตั้งแบบสั้นครั้งแรกในเมืองไทยบน TikTok โดยร่วมมือกับ Star Hunter ในการเปิดตัวซีรี่ส์เรื่อง "Bad Roommate" นำแสดงโดยศิลปินดาราชื่อดังและครีเอเตอร์ดังบน TikTok โดยความยาวของซีรี่ส์แต่ละตอนจะอยู่ที่ 1 - 3 นาที รวมถึงการสร้างสรรค์ Exclusive Live-streaming เช่นเดียวกับที่เคยสร้างปรากฏการณ์มาแล้ว อาทิ กิจกรรม TikTok LIVE Concert กับศิลปินระดับโลก จัสติน บีเบอร์ กิจกรรมแฟนมีตติ้งออนไลน์กับศิลปินดัง BLACKPINK และ คิมซอนโฮ รวมถึงการจัดกิจกรรม LIVE Fashion Show กับแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย
3. การพัฒนาความร่วมมือเชิงสร้างสรรค์กับพันธมิตร: เพื่อมอบประสบการณ์ให้ผู้ใช้ได้มีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มได้อย่างสร้างสรรค์และไร้ขีดจำกัดผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำต่างๆ เช่น ล่าสุด TikTok ร่วมมือกับ Pomelo แบรนด์แฟชั่นชื่อดังเปิดตัวคอลเลกชั่นสตรีทแวร์สุดพิเศษ โดยนำเอาโลโก้ TikTok มาสร้างสรรค์เป็นลายปริ้นท์สุดเก๋และความร่วมมือกับเดอะมอลล์กรุ๊ปในการสร้างสรรค์กิจกรรมแชร์คลิปวิดีโอแฮชแท็กชาเลนจ์ #HappierTogetherTH เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาคเงินสนับสนุนในกิจกรรมคืนผืนป่าสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนในจังหวัดน่าน
นอกจากการเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการรับชมคอนเทนท์และเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้และครีเอเตอร์ TikTok ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยส่งเสริมให้แบรนด์และธุรกิจในประเทศไทยประสบความสำเร็จในการทำการตลาดดิจิทัลทั้งเพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การสร้างการรับรู้ การมีส่วนร่วม และการสร้างยอดขายอีกด้วย
โดยตั้งแต่การเปิดตัว TikTok For Business โซลูชันการตลาดดิจิทัลในประเทศไทยเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2563 ที่ผ่านมา เป็นเวลาเกือบ 8 เดือนแล้ว ที่ TikTok For Business ได้สร้างความสำเร็จให้กับทั้งแบรนด์ชั้นนำและธุรกิจขนาดกลางและเล็กมากมายจากหลายอุตสาหกรรมที่เข้ามาทำการตลาดบน TikTok ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค, อาหารและเครื่องดื่ม, อสังหาริมทรัพย์, สุขภาพและความงาม, การสื่อสารและอุปกรณ์, อีคอมเมิร์ซ, ท่องเที่ยว, บริการเดลิเวอรี่, เกมออนไลน์ เป็นต้น
ด้านคุณสิรินิธิ์ วิรยศิริ Head of Business Marketing กล่าวว่า ในปี 2564 TikTok For Business มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและสนับสนุนนักการตลาดและนักโฆษณาในทุกมิติภายใต้แนวคิด "Moving beyond Reach to Relevance" ที่ต้องการให้นักการตลาดและแบรนด์ต่างๆ ที่เข้ามาทำการตลาดดิจิทัลบน TikTok ไม่ใช่เพียงแค่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่มีความสนใจและเกี่ยวข้องกับแบรนด์ได้ เพื่อให้เกิดการมีปฏิสัมพันธ์ที่มีความหมายกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ต่างๆ
สำหรับในปี 2564 TikTok For Business ยังคงมุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งเสริมให้แบรนด์และธุรกิจทุกขนาดสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์ม TikTok ผ่าน 3 กลยุทธ์ ได้แก่
ที่ผ่านมามีแบรนด์และธุรกิจจำนวนมากในหลากหลายอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ TikTok For Business เพื่อการต่อยอดธุรกิจและเชื่องโยงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าง แคมเปญ #สนุกซ่าไม่มีซ้ำ จากแบรนด์มิรินด้า ซึ่งเป็นครั้งแรกของการใช้ Branded Effect ในประเทศไทย ให้ผู้ใช้มาร่วมสนุกกับ hashtag campaign ที่ทำให้เกิดการสร้างการจดจำให้กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ จนสามารถสร้างปรากฏการณ์ยอดวิวสูงถึง 100 ล้าน และมีการสร้างสรรค์วิดีโอภายใต้แคมเปญ #สนุกซ่าไม่มีซ้ำ สูงถึง 1.26 แสนวิดีโอ และแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำสัญชาติเกาหลีอย่าง Etude ที่ทำโฆษณาในรูปแบบ customized ad บน TikTok ที่นอกจากจะได้รับการตอบรับที่ดีแล้วยังถือเป็นโฆษณาที่มีประสิทธิภาพด้วยต้นทุนต่อการคลิกโฆษณา (CPC) ลดลงกว่า 40% แต่อัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น (CTR) สูงขึ้นถึง 18% และพบว่ามีผู้เข้ามาซื้อสินค้าทางช่องทางอีคอมเมิร์ซของแบรนด์เพิ่มสูงขึ้นถึง 9 เท่า
TikTok ได้มีการสร้างระบบ Machine Learning เพื่อคอยตรวจสอบความเหมาะสมของเนื้อหาวิดีโอที่ได้เผยแพร่ออกไป จากนั้นก็จะส่งไปให้ทีมงานเพื่อพิจารณา ซึ่งตรงนี้บริษัทมีทีมงานที่คอยดูจับตาดูตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งผู้ใช้งานยังสามารถช่วยกดรีพอร์ตเนื้อหาที่มีความไม่เหมาะสมได้ด้วยเช่นกัน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด