Tinder วางแผนเข้าร่วม Metaverse สร้างมิติใหม่ของการออกเดท

นับตั้งแต่ที่ Facebook ได้เปลี่ยนชื่อใหม่มาเป็น Meta และประกาศแผนการเดินหน้าสู่ metaverse อย่างเต็มตัว ก็ดูเหมือนว่ามีบริษัทอื่น ๆ ที่เริ่มทยอยตามเข้ามาในวงการ metaverse เช่นกัน และบริษัทที่กำลังเดินตาม Meta มาใน metaverse ตอนนี้ นั่น คือ Match Group บริษัทแม่ของ Tinder โดยมีแผนจะสร้าง 'dating metaverse' ซึ่งเป็นอะไรแปลกใหม่อย่างยิ่ง

Tinder ได้เปิดเผยแผนการจำนวนมากที่กำลังจะเกิดขึ้น หลังจากที่เพิ่งประสบความสำเร็จในการเปิดตัวฟีเจอร์ Explore page และซีรีส์ Swipe Night ไป โดยหนึ่งในการพัฒนาที่สำคัญต่อไป คือ การพัฒนาสกุลเงิน Tinder Coins เพื่อสร้างเศรษฐกิจเสมือนในแอป ซึ่ง Match Group กล่าวว่าการเปิดตัว Tinder Coins นี้ เป็นช่วงเฟสแรกของแผนการในอนาคต โดยฟีเจอร์นี้ได้เริ่มทดลองใช้ในหลายประเทศในยุโรปแล้ว  และผู้ใช้แอปทั่วโลกจะสามารถเข้าถึงเหรียญ Tinder Coins นี้ได้ ในปีหน้าเพื่อใช้สำหรับการซื้อบริการต่าง ๆ ในแอป เช่น Super Like และ Boost เพื่อเพิ่มโอกาสในการจับคู่ และไม่เพียงแค่นั้น Tinder Coins จะยังถูกใช้เป็นสิ่งจูงใจให้ผู้ใช้งาน ดำเนินการยืนยันตัวตน เช่น การยืนยันบัญชีและโปรไฟล์ของพวกเขาอีกด้วย 

Gary Swidler  CFO ของ Tinder กล่าวว่า Tinder Coins จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้ใช้งานได้มากขึ้น เนื่องจากสกุลเงินนี้เปรียบเสมือนของขวัญที่ผู้ใช้งานสามารถให้กันได้  และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Tinder ในการดำเนินการสร้างเศรษฐกิจเสมือนที่กล่าวไปนี้ อาจเป็นองค์ประกอบสำคัญในการวางรากฐานสำหรับ dating metaverse ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เมื่อวันพุธที่ 3 พฤศจิกายน Match Group ได้ออกมาเปิดเผยกลยุทธ์ในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจเสมือนในแอปของ Tinder เพื่อสร้างระบบนิเวศทางการค้า ไปจนถึงการขายสินค้าเสมือนจริง  โดยแผนดังกล่าวมีกำหนดเปิดตัวในปี 2022 และจะดำเนินต่อไปในอนาคตอันใกล้ ในการพูดคุยกับนักลงทุนเมื่อวันพุธ Shar Dubey  CEO ของ Match Group ประกาศว่าเป้าหมายของ Tinder ในปี 2022 คือ การออกแบบสินค้าเสมือนจริง การตั้งมูลค่า และการกำหนดวิธีที่ทำให้ผู้ใช้งานเข้าถึงได้ดีที่สุด ซึ่งเรื่องนี้จะมีการทดสอบอย่างละเอียดต่อไป 

อย่างไรก็ตาม เรื่องทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับ metaverse ตรงที่ Dubey กล่าวว่า Match Group จะมีการนำ Hyperconnect ซึ่งเป็นแอปโซเชียลมีเดียในกรุงโซลที่บริษัทเพิ่งเข้าซื้อกิจการเมื่อต้นปีนี้ ด้วยมูลค่า 1.73 พันล้านดอลลาร์ มาใช้ในการสร้างเศรษฐกิจเสมือนใน Tinder และเน้นย้ำไปถึงการทดลองสร้าง metaverse ของตัวเอง และนี่คือรูปแบบที่ Match Group ต้องการสร้างในสื่อทั้งหมดรวมถึง Tinder ด้วย

นอกจากนี้ Dubey ยังมีการพูดถึง metaverse ของ Hyperconnect ไว้อีกด้วย โดยอธิบายถึง ตัวอย่างรุ่นทดลอง 'Single Town' ของ Hyperconnect ซึ่งเป็นการสร้าง Avatar ใน metaverse ทำให้ผู้ใช้งานสามารถพบปะกันในสถานที่เสมือนจริง เช่น ร้านอาหารหรือบาร์ และสามารถพูดคุยสนทนากันจริง ๆ ได้โดยใช้เสียงแบบเรียลไทม์ และผู้ใช้งานยังสามารถเลือกการสนทนาแบบส่วนตัวได้ตามต้องการช่นกัน  ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งอย่าง Bumble ที่สร้างร้าน cafe และ wine bar เพื่อพยายามส่งเสริมการพบปะพูดคุยแบบตัวต่อตัวในโลกแห่งความเป็นจริง

Dubey กล่าวว่า ประสบการณ์ใน metaverse ที่เกิดขึ้นนี้ จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการพบปะพูดคุยและการทำความรู้จักบนแพลตฟอร์มการออกเดทหรือโซเชียลแพลตฟอร์มอื่น ๆ  และการพบปะพูดคุยของผู้คนในโลกแห่งความเป็นจริงก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แอพหาคู่ในอนาคต จะมีความสมบูรณ์และความเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงวิธีการพบปะและการทำความรู้จักผู้คน จะมีความคล้ายคลึงเหมือนในชีวิตจริง เนื่องด้วยจากเทคโนโลยีในปัจจุบันก้าวหน้ามากขึ้น และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีเบื้องหลังที่ Hyperconnect ได้สร้างขึ้น เพื่อใช้ขับเคลื่อน Single Town นั้น จะถูกสร้างขึ้นในลักษณะที่สามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งคาดว่าจะถูกนำไปใช้ในแอปหาคู่ที่ได้ผลมากที่สุด คือ Tinder ด้วย

ถึงแม้ว่าบริษัทจะไม่ได้ระบุว่า Tinder Coins จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ metaverse หรือไม่ก็ตาม แต่ คาดว่า Tinder Coins นี้จะสามารถใช้เพื่อซื้อสินค้าหรือเครื่องประดับตกแต่ง สำหรับ Avatar ได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เห็นได้และมีอยู่แล้วในวิดีโอเกม metaverse ต่าง ๆ มากมาย

Swidler  CFO ของ Match กล่าวเสริมว่า องค์ประกอบของ metaverse และประสบการณ์ใหม่ที่เห็นในการทดสอบตัวอย่างรุ่นทดลองนั้น ทำให้เห็นว่า บริษัทสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาสร้างเป็นแอปพลิเคชันใหม่ หรืออาจใช้ประโยชน์จากข้อมูลนั้นเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานให้เพิ่มขึ้นในแอปพลิเคชันที่มีอยู่เดิมได้อีกด้วย

อ้างอิงจาก Screen Shot

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

จีนพัฒนา ‘Vision Heat’ เซนเซอร์มองทะลุควัน-หมอก ความละเอียด 4K ไม่ต้องใช้ความเย็น เห็นภาพความร้อนเหมือนตาของงู!

นักวิจัยจีนพัฒนาเซนเซอร์อินฟราเรด 4K แรงบันดาลใจจากตาของงู ใช้ Quantum Dots ผสาน CMOS ทำงานได้ที่อุณหภูมิห้อง เตรียมปฏิวัติกล้องสมาร์ทโฟนและรถไร้คนขับให้มองเห็นทะลุความมืดและหมอกคว...

Responsive image

เด็ก 19 สร้างนวัตกรรม ถุงมือพิมพ์งานในอากาศ จากการเรียนคอร์สออนไลน์ฟรี MIT จนคว้ารางวัล SxSW Sydney 2025

พบกับ Freesia Gaul เด็กวัย 19 ที่ย้ายโรงเรียนถึง 13 ครั้ง แต่ใช้คอร์สเรียนฟรีจาก MIT สร้างถุงมือ VR พิมพ์งานกลางอากาศจนคว้ารางวัล SxSW และเปิด Startup ได้สำเร็จ...

Responsive image

Google Labs เปิดตัว ‘CC’ AI Agent สาย Productivity เลขาส่วนตัวอัจฉริยะ สรุปงาน–ส่งเมล–นัดประชุมให้เสร็จในคลิกเดียว

Google Labs เปิดตัว ‘CC’ AI Agent ผู้ช่วยสาย Productivity ที่เชื่อม Gmail, Calendar และ Drive เข้าด้วยกัน ช่วยสรุปงาน ร่างอีเมล และจัดการนัดหมายแบบอัตโนมัติ เปลี่ยน Inbox ให้กลายเป...