CEO Shopify ชี้ AI ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทักษะที่ทุกคนต้องมีในองค์กร

บันทึกภายในของ Tobi Lütke ซีอีโอของ Shopify กลายเป็นที่จับตาอย่างมากในวงการเทคโนโลยีและการลงทุน เนื่องจากเขาประกาศชัดว่า “การใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ” คือความสามารถพื้นฐานที่พนักงานทุกคน ต้องมีในการทำงานที่ Shopify 

หากใครยังไม่เริ่มต้นเรียนรู้ เขายอมรับตรงๆ ว่า แทบไม่เห็นหนทางที่คนคนนั้นจะสามารถทำงานร่วมกับบริษัทได้ทั้งในวันนี้หรือในอนาคต เพราะการหยุดนิ่งเท่ากับการล้าหลังอย่างช้าๆ

AI กับบทบาทเกณฑ์ใหม่ในการประเมินผลและบริหารทีม

Shopify จะเริ่มใช้ AI ไปเป็นส่วนหนึ่งของ เกณฑ์ประเมินผลการทำงานและการประเมินเพื่อนร่วมทีม และทุกทีมต้องสามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดจึงไม่สามารถใช้ AI แทนการขอทรัพยากรหรือเพิ่มจำนวนพนักงาน หากไม่สามารถให้เหตุผลที่ชัดเจน การขอเหล่านั้นอาจถูกปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดให้ AI ต้องเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนพัฒนาโปรเจกต์ตั้งแต่ระยะต้นด้วย

AI คือพลังทวีคูณ ไม่ใช่แค่ตัวช่วยเพิ่มความเร็ว

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา Lütke พบว่า คนที่ใช้ AI ได้อย่างคล่องแคล่วจะสามารถเข้าถึงโอกาสใหม่ๆ และทำสิ่งที่เคยดูเป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จได้อย่างน่าทึ่ง การใช้ AI อย่างต่อเนื่องทำให้พนักงานบางคนสามารถสร้างผลงานได้มากกว่าคนอื่นเป็นสิบเป็นร้อยเท่า เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้แค่เพิ่มประสิทธิภาพ แต่ขยายขีดความสามารถของงานไปอีกขั้นหนึ่ง ที่สำคัญ เขายังชี้ว่า Shopify กำลังเข้าใกล้จุดเปลี่ยน ที่ซึ่ง AI จะไม่เพียงให้คำแนะนำแก่ผู้ค้าบนแพลตฟอร์ม แต่เริ่มลงมือทำงานแทนได้ในหลายด้าน

สู้ศึกอีคอมเมิร์ซด้วยเทคโนโลยีที่ “เข้าถึงได้”

ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง Shopify กับ Amazon, WooCommerce และ BigCommerce สิ่งที่ Shopify ต้องทำคือการเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจในอนาคต Lütke เชื่อว่า ความสามารถของ AI จะกลายเป็น “ตัวเร่ง” ที่ทำให้ผู้ค้ารายย่อยมีศักยภาพเทียบเท่าธุรกิจขนาดใหญ่ และนั่นคือความได้เปรียบที่ Shopify ต้องเร่งคว้าไว้

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แต่เป็นผลจากการเตรียมตัวมาอย่างต่อเนื่อง Shopify ได้ลงทุนพัฒนาเครื่องมือ AI ล้ำสมัยมาสักระยะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบแชตภายในองค์กร, Coding AI อย่าง Copilot, Cursor หรือ Claude ที่ถูกเตรียมไว้พร้อมใช้งานสำหรับทุกแผนกภายในองค์กร

เติบโตด้วยความรู้และอยู่รอดเพราะเปลี่ยนแปลง คือ DNA ขององค์กร

แม้การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้อาจทำให้พนักงานบางคนรู้สึกกังวล แต่ Shopify เชื่อมั่นว่าพนักงานที่มีความสามารถสูงจะมองว่านี่เป็นโอกาส เพราะพวกเขาต้องการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ การได้เรียนรู้ร่วมกับเพื่อนร่วมงานที่มีเป้าหมายเดียวกันในการแก้ปัญหายากๆ และมีคุณค่า คือสิ่งที่สะท้อนตัวตนของบริษัทอย่างแท้จริง และทั้งหมดนี้ก็ยังสอดคล้องกับค่านิยมหลักของ Shopify ที่ยึดถือการเป็น "นักเรียนรู้ตลอดเวลา" และ "พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง" เสมอ 

Lütke เคยเปรียบ Shopify กับแนวคิด “Red Queen Race” จาก Alice in Wonderland ซึ่งหมายถึงการที่เราต้องวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อจะยังคงอยู่ที่จุดเดิมให้ได้ ในองค์กรที่เติบโตเร็วถึงปีละ 20-40% ทุกคนก็ต้องพัฒนาตัวเองให้ได้ในระดับเดียวกัน จึงจะสามารถ “ผ่านเกณฑ์” และมีที่ยืนในทีมต่อไป

การเปลี่ยนแปลงที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วม

สุดท้าย เขาฝากภารกิจใหญ่ไว้ว่า หน้าที่ของ Shopify คือการนิยามใหม่ว่า “ผู้ประกอบการควรทำธุรกิจอย่างไรในยุคที่ AI เป็นสิ่งที่มีอยู่ทุกที่” และเขาก็พร้อมจะลงมือทำให้ดีที่สุด โดยต้องการความร่วมมือจากทุกคนในองค์กร

Shopify อาจกลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญขององค์กรยุคใหม่ ที่มองว่า “การใช้ AI อย่างคล่องแคล่ว” ไม่ใช่แค่ข้อได้เปรียบ แต่เป็น “ทักษะจำเป็น” เหมือนกับการใช้คอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ตในยุคก่อน และแม้จะยังมีคำถามว่าองค์กรจะรองรับคนที่ปรับตัวยากอย่างไร แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ Shopify ไม่ปล่อยให้มีใครหยุดนิ่งอยู่กับที่ เพราะสำหรับ Tobi Lütke “หากคุณไม่ปีนขึ้นไป คุณก็จะกำลังลื่นลงมาอยู่ดี”

อ้างอิง: forbes

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Dr.PONG เข้าซื้อกิจการ NABSOLUTE บริษัทวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Dr.PONG เข้าซื้อกิจการ NABSOLUTE เสริมพลังเทคโนโลยี Skin Delivery System พัฒนา ActiveIN™ ระบบส่งสารสิทธิบัตรระดับโลก เพื่อผิวคนไทยโดยเฉพาะ...

Responsive image

UOB เผย คนไทย ‘ยอมเป็นหนี้’ เพื่อซื้อไลฟ์สไตล์ แม้รู้ว่าไม่มั่นคงทางการเงิน

UOB ประเทศไทย ร่วมกับ Boston Consulting Group (BCG) เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอาเซียน ประจำปี 2025 ที่ฉายภาพความย้อนแย้งที่น่าสนใจของผู้บริโภคชาวไทย ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจ...

Responsive image

Google ขยาย Opal สู่ 160 ประเทศ แพลตฟอร์มสร้างมินิแอปแบบ no-code สำหรับทุกคน

Google ขยายบริการ Opal เครื่องมือสร้างแอปด้วย AI แบบ no-code จาก 15 สู่กว่า 160 ประเทศทั่วโลก ให้ทุกคนสร้างแอปได้ง่ายเพียงพิมพ์คำสั่ง...