คุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการบริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด เปิดตัว ร้านถูกดี มีมาตรฐาน ร้านค้าปลีก ภายใต้โมเดล ร้านค้าของชุมชน โดยชุมชน และเพื่อชุมชน หวังช่วยพลิกฟื้นร้านโชห่วยไทย ให้สู้ศึกทุนใหญ่ได้
คุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์ กล่าวว่า จากประสบการณ์ในการทำธุรกิจ CJ MORE ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ทำให้มองเห็นปัญหาหลายอย่างที่ร้านขายปลีก หรือร้านโชห่วยกำลังประสบอยู่ ทั้งการเข้ามาของร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เทคโนโลยี เงินทุน และเวลาที่เจ้าของร้านมักจะต้องเสียไปในการออกไปซื้อของเข้าร้าน ทำให้เสียโอกาสในการขายสินค้า รวมทั้งโควิด-19 ที่เข้ามาทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ส่งผลให้ร้านค้าในชุมชน ในหมู่บ้านตามชนบทได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า
การเริ่มต้นขึ้นมาของร้านถูกดี มีมาตรฐาน นี้ ก็มีความต้องการที่จะเข้ามาแก้ปัญหาเหล่านี้ออกไป เมื่อร้านค้าปลีกสมัยใหม่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น การจะเข้าไปแข่งขันก็ต้องเปลี่ยนร้านโชห่วยให้มีศักยภาพมากขึ้น โดยได้เข้าไปช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ทั้งการลงทุนในสินค้าเพื่อใช้ในการขาย เจ้าของร้านไม่ต้องลงทุนเอง และสินค้าในร้านก็มีครบครันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยส่งเสริมการขาย โดยจะมีระบบ POS สำหรับหน้าร้านไว้คิดเงิน และระบบหลังร้านเพื่อตรวจสอบสต็อกสินค้า นอกจากนี้ยังเข้าไปช่วยลงทุนในขั้นแรกตั้งแต่การตั้งชั้นวางสินค้า การจัดสินค้าในโซนต่าง ๆ ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้อย่างมีระบบ และยังช่วยในการโปรโมทร้านค้า และทำการตลาดให้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของผู้บริโภค ที่พบว่า ยิ่งมีโควิด-19 เข้ามา ผู้บริโภคจะไม่ค่อยออกไปไกลจากบ้าน ผู้บริโภคจะหันมาซื้อสินค้าจากร้านใกล้บ้าน และร้านนั้นจะต้องมีสินค้าที่ครบถ้วน พร้อมรองรับความต้องการของผู้บริโภค แนวคิดนี้จึงประสบความสำเร็จในการทดลองเปิดร้านถูกดี มีมาตรฐาน และในปัจจุบันได้มีการขยายกิจการออกไป จนปัจจุบันมีร้านกว่า 1,000 ร้านทั่วประเทศไทยแล้ว
คุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า การทำร้าน ถูกดี มีมาตรฐาน จะมีลักษณะการทำธุรกิจแบบ “กินแบ่ง ไม่กินรวบ” กล่าวคือ ทางบริษัทฯ จะเป็นผู้ช่วยเหลือร้านค้าในเรื่องของสินค้า เทคโนโลยี การตลาด ในขณะที่ตัวผู้ประกอบการที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์กับเราจะเป็นของเจ้าของร้าน และใช้ชื่อของเขาเอง และจะมีการแบ่งกำไรระหว่างร้านค้ากับบริษัทฯ อยู่ที่ 85:15
ในอดีตร้านโชห่วยอาจจะมีกำไรอยู่ที่ 500-600 บาท/วัน ทำให้ความเสียดายในเงินส่วนนั้นอาจจะน้อย ส่งผลให้การปิดร้านหลายวัน หรือสินค้ามีน้อยไม่ส่งผลต่อร้านเท่าไหร่นัก แต่เมื่อร้านแบบใหม่สามารถทำกำไรได้ในหลักพัน การหยุดร้านอาจจะส่งผลให้เกิดความเสียดาย รวมทั้งเมื่อเป็นเจ้าของร้านเอง กำไรทั้งหมดจะเข้ากระเป๋าเจ้าของร้าน ดังนั้น ด้วย “พลังความเป็นเจ้าของ” จะส่งผลให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ และโตขึ้นไปได้เรื่อย ๆ
สำหรับแผนการขยายร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ ถูกดี มีมาตรฐาน นั้นมีการวางแผนว่าจะเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศไทย (ข้อมูลเดือนกรกฎาคม 2564) คาดว่าจะสามารถขยายได้ถึง 8,000 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ และ 30,000 แห่ง ภายในปีหน้า
ขณะที่แผนการขยายศูนย์บริหารในแต่ละจังหวัดตามภูมิภาคต่าง ๆ ก็จะมีการดำเนินการเพิ่มเช่นกัน โดยคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มอีกกว่า 60 จังหวัดทั่วประเทศภายในเดือนกันยายนนี้ และจะมีการลงทุนเพิ่มในส่วนของคลังสินค้า ที่มีแผนจะสร้างเพิ่มจาก 8 เป็น 15 แห่งทั่วประเทศ
นอกจากนี้ทางร้านฯ ยังมีการสนับสนุนสำหรับ Supplier ท้องถิ่นที่ต้องการจะเสนอขายสินค้าในร้านให้สามารถติดต่อมาได้ เพราะบริษัทฯ ต้องการที่จะสร้างแบรนด์ให้ชุมชนรู้ว่า “ร้านเป็นร้านค้าของชุมชน โดยชุมชน และเพื่อชุมชน"
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด