วงการเทคโนโลยีสะเทือนอีกครั้ง เมื่อครอบครัวทรัมป์ประกาศเปิดตัวธุรกิจใหม่ Trump Mobile เครือข่ายโทรศัพท์มือถือแบรนด์ตัวเอง พร้อมสมาร์ตโฟนรุ่นทองคำชื่อ T1 ที่เคลมว่า “ออกแบบและประกอบในอเมริกา” ทั้งหมดนี้มาพร้อมแพ็กเกจเบื้องต้น The 47 Plan ค่าบริการ 47.45 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน หรือราว 1,500 บาท
การเปิดตัวนี้เกิดขึ้นภายใต้การขับเคลื่อนของ Trump Organization ซึ่งปัจจุบันบริหารโดยลูก ๆ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
สมาร์ตโฟน T1 จะมาในรูปแบบในสีทองสุดหรู ด้วยราคา 499 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราว 16,900 บาท โดยเปิดให้จองล่วงหน้าด้วยค่ามัดจำ 100 ดอลลาร์ มาพร้อมกับคำโปรยว่าเป็น “มือถือดีไซน์หรูที่สร้างด้วยความภูมิใจในแผ่นดินสหรัฐ”
แม้ข้อมูลสเปกยังไม่สมบูรณ์นัก แต่สิ่งที่เรารู้มา คือ T1 จะรันบน Android 15
จุดที่น่าจับตาคือกล้องหลัก 50MP แต่มีเพียงเลนส์เสริมความละเอียด 2MP เท่านั้น และไม่มีเลนส์อัลตร้าไวด์หรือตัวแฟลช
นอกจากนี้ทาง The Verge รายงานว่า หน้าผลิตภัณฑ์ยังมีข้อผิดพลาดหลายจุด เช่น ไม่ระบุชิปเซ็ต, เขียน RAM ผิดเป็น Storage และข้อความคลุมเครือเรื่อง “5000mAh camera” ซึ่งน่าจะหมายถึงแบตเตอรี่
แม้ Trump Mobile จะเปิดตัวในฐานะเครือข่ายใหม่ แต่จริง ๆ แล้วเบื้องหลังคือการเช่าใช้โครงข่ายจาก T-Mobile ผ่าน MVNO ชื่อ Liberty Mobile ซึ่งเน้นธีมเสรีภาพและชาตินิยม แพ็กเกจ The 47 Plan มาพร้อมบริการโทร-ข้อความ-อินเทอร์เน็ตไม่จำกัด, บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนจาก Drive America และบริการแพทย์ทางไกลตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม แผนนี้ถือว่าแพงกว่าหลาย MVNO ที่ใช้โครงข่ายเดียวกัน เช่น Mint Mobile หรือ Metro ที่ให้บริการในราคาที่ถูกกว่า แต่ Trump Mobile ชูจุดขายด้านความเป็นชาติอเมริกัน, ภาพลักษณ์แบรนด์ทรัมป์ และความเป็นเจ้าของภายในประเทศ
การก้าวเข้าสู่ธุรกิจโทรคมนาคมของ Trump Organization ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่สะท้อนการใช้พลังของแบรนด์ในฐานะสัญลักษณ์ทางการเมืองและวัฒนธรรม ความเคลื่อนไหวนี้มาในจังหวะที่น่าสนใจ เพราะมีการยื่นจดเครื่องหมายการค้า Trump และ T1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์มือถือและอุปกรณ์เสริม พร้อมคำกล่าวของ Eric Trump ที่ย้ำว่า Trump Mobile จะ “พลิกเกมมือถือในอเมริกา”
ในแง่ธุรกิจ Trump Mobile กำลังเข้ามาแข่งขันกับผู้เล่น MVNO รายอื่นอย่าง Mint Mobile, Metro, US Mobile ซึ่งให้บริการถูกกว่า และมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว ความแตกต่างของ Trump Mobile คือ พลังแบรนด์ + อัตลักษณ์ทางการเมือง ซึ่งอาจเป็นทั้งข้อได้เปรียบและจุดอ่อนด้วย
อ้างอิง: theverge
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด