ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางทุกคนที่เกี่ยวข้องกับโครงการด้าน DEI หยุดปฏิบัติงานชั่วคราวโดยยังได้รับเงินเดือน คำสั่งนี้มีผลทันทีและกำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลา 17:00 น. ของวันพุธที่จะถึง ก่อนจะปิดหน่วยงานและโครงการเหล่านี้ลงอย่างถาวร
คำสั่งดังกล่าวระบุว่าโครงการ DEI เป็นนโยบายที่ "อันตรายและขัดต่อกฎหมาย" แม้จะยังไม่ชัดเจนว่ามีพนักงานจำนวนเท่าไรที่ได้รับผลกระทบ แต่สหภาพแรงงาน American Federation of Government Employees (AFGE) ซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานรัฐบาลกว่า 800,000 คน ชี้ว่าคำสั่งนี้อาจกระทบต่อความเท่าเทียมในที่ทำงานอย่างร้ายแรง
คำสั่งใหม่กำหนดให้การจ้างงาน การเลื่อนตำแหน่ง และการประเมินผลงานในหน่วยงานรัฐบาลต้องอิงจากความสามารถส่วนบุคคลเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยด้าน DEI นอกจากนี้ ทรัมป์ยังสั่งให้กระทรวงยุติธรรมจัดทำข้อเสนอเพื่อกระตุ้นให้ภาคเอกชนยุติโครงการ DEI ภายใน 120 วัน
คำสั่งนี้ยังรวมถึงการยกเลิกนโยบายในยุคของอดีตประธานาธิบดีลินดอน บี. จอห์นสัน ที่กำหนดให้ผู้รับสัญญาจากรัฐบาลกลางต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการไม่เลือกปฏิบัติ และส่งเสริมโอกาสที่เท่าเทียมกันในการจ้างงาน ซึ่งการยกเลิกดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อมาตรฐานการจ้างงานทั้งในภาครัฐและเอกชน
สหภาพแรงงาน เช่น AFGE และ National Federation of Federal Workers วิจารณ์คำสั่งนี้อย่างหนัก โดยระบุว่าเป็นการทำลายระบบการจ้างงานที่ยึดความสามารถเป็นหลัก และเพิ่มความกังวลให้กับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างเป็นกลาง
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแสดงความกังวลว่าการยกเลิกโครงการ DEI จะทำให้ความเข้าใจเกี่ยวกับเลือกปฏิบัติในที่ทำงานมากขึ้นและอาจเปิดช่องให้เกิดความไม่เท่าเทียมในการจ้างงาน
บริษัทเอกชนบางแห่ง เช่น McDonald's, Walmart และ Meta ได้เริ่มปรับลดหรือยุติโครงการ DEI ของตน ขณะที่บริษัทอื่น เช่น Apple และ Target ยังคงยืนหยัดสนับสนุนโครงการเหล่านี้
แม้ความพยายามของรัฐบาลไบเดนในการส่งเสริมโครงการ DEI จะได้รับการชื่นชม แต่กลับขาดทรัพยากรสนับสนุนที่เพียงพอ ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าการยุติโครงการเหล่านี้ในปัจจุบันอาจทำให้ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาหยุดชะงักอย่างสิ้นเชิง
อ้างอิง: bbc
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด