คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทบิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัดเล่าประสบการณ์ร่วมงาน World Economic Forum : DAVOS 2022 อย่างเป็นทางการที่จัดขึ้น ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในงาน Bitkub Media Dinner 2022 เปิดเผยว่า ตนได้พบกับ Omar bin Sultan Al Olama รัฐมนตรีกระทรวง AI และ Digital Economy ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งได้มีการสนทนากันแบบ 1 ต่อ 1 และได้รับการทาบทามให้ Bitkub ตั้งสำนักงานที่ดูไบ พร้อมยื่นข้อเสนอภาษี 0% และสัญชาติ เพื่อดึงดูดให้ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ
“ที่งานจะมีแอปฯที่ทุกคนที่เป็นสมาชิกจะสามารถ Direct Message พูดคุยกันได้ และผมได้รับ message บอกว่า อยากเจอ ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่มีคนอยากเจอ nobody แบบผมด้วย จากบรรดาผู้นำกว่า 2,100 คนทั่วโลก หลังจากนั้นก็ได้พบกับรัฐมนตรีกระทรวง AI และ Digital Economy เขาเรียกเจอ 1 ต่อ 1 ผมตื่นเต้นมาก ทำไมเขาอยากเจอเรา และรู้จักเราได้อย่างไร และเขาก็ได้พูดว่า ‘ท็อป Binance FTX Coinbase มาดูไบหมดแล้ว’ ทำไม Bitkub ยังไม่มา และเขาก็ถามว่า ถ้าภาษี 0% จะมาไหม ผมคิดในใจถ้าเป็นที่ประเทศไทย Bitkub เสียภาษีกว่า 1600 ล้านบาท แต่ผมก็ยังเงียบอยู่ เขาเห็นผมไม่พูดอะไร และบอกอีกว่าถ้าเสนอให้สัญชาติด้วยจะมาไหม แล้วเค้าก็ยื่นนามบัตรให้ผม..” คุณจิรายุสกล่าว
อย่างไรก็ตามสำหรับ UAE ในขณะนี้ถือเป็นเขตที่มีความเป็นมิตรกับเหล่าสกุลเงินดิจิทัลที่สุดในโลก โดยมี Dubai World Trade Center (DWTC) เป็นเขตปลอดภาษีและพื้นที่สำหรับคริปโต พร้อมการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัล สินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ รวมถึงกระดานเทรดคริปโต ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการดึงดูดธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงการสร้างเศรษบกิจใหม่ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันอันดุเดือดในภูมิภาค
นอกจากนี้คุณจิรายุสยังได้มีการกล่าวถึงเรื่องเงินเฟ้อที่กำลังเป็นปัญหาทั่วโลกว่า “ปัจจุบันเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 40 ปี ซึ่งตั้งแต่ปี 1971 อเมริกาได้มีการปริ้นเงินได้โดยไม่มีทองคำมาค้ำ และตั้งแต่ปี 1971-2020 อเมริกาใช้เวลา 49 ปีในการพิมพ์เงินจำนวนมาก ซึ่งออกมาทั้งหมด 50%”
“ต่อมาในปี 2021 ก็ผลิตเงินออกมาอีกครึ่งหนึง ซึ่งไม่เคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาก่อน โดยเงินเฟ้อของอเมริกาอยู่ที่ 8% ของเยอรมันอยู่ที่ 9% แต่โชคดีที่ไทยเงินเฟ้อน้อยที่สุดจากทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ 2-3% (Ratio) แต่นับว่าสูงสุดในรอบ 40 ปีเช่นกัน และสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยเร็วนี้คือ ธนาคารแห่งชาติกำลังที่จะขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งผู้คนจำนวนมากคิดว่าดีแต่แท้จริงแล้ว คือ สัญญาณแจ้งเตือนว่ากำลังจะเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย”
“และสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น คือ ดอกเบี้ยในอเมริกาจะสูงสุดในรอบ 40 ปี รวมทั้งดอกเบี้ยประเทศไทยก็กำลังจะขึ้นเช่นกัน โดยทางธนาคารแห่งชาติกำลังจัดการในเรื่องเงินและเครดิต ซึ่งจะทำการขึ้นดอกเบี้ยเพราะเงินกำลังออกจากตลาด แต่ถ้าการที่เงินและเครดิตน้อยลงจะทำให้การจับจ่ายใช้สอยน้อยลง ส่งผลให้ธุรกิจขาดทุน”
“ทั้งนี้ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (recession) กับ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ(depression) มีความแตกต่างกัน โดยจุดที่จะตัดสินว่าประเทศไทยจะเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหรือภาวะเศรษฐกิจถดถอยคือการควบคุมหนี้ครัวเรือนในประเทศ หากไม่สามารถควบคุมหรืออยู่ในจุดทีจ่ายหนี้ไม่ไหวประเทศไทยคงไม่พ้นที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ”
คุณจิรายุส กล่าวต่อไปว่า “ในระยะสั้นสิ่งที่บริษัทต้องทำ คือ การลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นออก ไม่ควรทำให้บริษัทขาดทุน และสิ่งที่บุคคลทั่วไปต้องทำ คือ ต้องควบคุมค่าใช้จ่ายและเก็บเงินสดให้ได้มากที่สุด ซึ่งในเรื่องของการลงทุนสำหรับคนที่มีเงินจำนวนน้อยควรถือเงินสดติดตัว ในระยะสั้นสิ่งที่ทุกคนต้องปรับตัว คือ การประหยัดให้ได้มากที่สุด”
“ในระยะยาวการที่ประเทศไทยจะสู้กับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำได้ ต้องเน้นไปที่การเพิ่ม Productivity ด้วยการเปิดรับนำเทคโนโลยีมาใช้ และต้องพัฒนาเรื่องการศึกษา (Education) คน (Human Capital) ควบคู่กัน ประเทศไทยต้องขับเคลื่อนด้วย Digital Economy การสร้าง Digital Wealth ซึ่งเป็นสิ่งที่เริ่มเป็นเป้าหมายของหลายประเทศระดับโลก นโยบายจากภาครัฐต้องเหมาะสมและสอดคล้องกับทิศทางของโลก ซึ่ง Bitkub ยังไปถึงจุดนั้นไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากส่วนนี้ สุดท้ายแล้ว Bitkub ทำหน้าที่สื่อสารให้คามรู้เรื่องเทคโนโลยี ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยกำกับดูแลในการผลักดันสิ่งเหล่านี้ให้ไปข้างหน้าร่วมกัน”
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด