Travis Kalanick ผู้ก่อตั้งและ CEO Uber ได้พูดในเวที Baidu World ที่ปักกิ่ง งานนี้เป็นงานประจำปีของบริษัทที่เป็นผู้สนับสนุนหลักด้านเงินทุนของ Uber นั้นเอง Travis ได้พูดถึงเป้าหมายของ Uber ที่คาดว่าจะขยายธุรกิจและการบริการไปใน 100 เมืองของจีนภายในปีหน้า ในตอนนี้ Uber ให้บริการใน 15 เมืองของจีนหลังจากที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2013
ในตอนนี้ Uber กำลังเรียนรู้เพื่อที่จะเข้าถึงตลาดในประเทศจีน รวมไปถึงการร่วมมือกับ Baidu ผู้สนับสนุนหลักและที่สำคัญคือเปิดช่องทางการเชื่อมต่อที่มากขึ้นเพื่อทำงานร่วมกับรัฐบาลจีน
Travis ได้พูดถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ Uber ในประเทศจีน หลังจากที่ช่วงแรกๆพวกเขาสามารถถือครองส่วนแบ่งในตลาดแค่ 1 % จนมาวันนี้พวกเขาถือครองส่วนแบ่งในตลาดให้บริการรถแท็กซี่ถึง 35 % ในหลายๆเมือง มากไปกว่านั้น Uber ยังได้ช่วยให้คนจีนมีงานทำมากขึ้นถึงกว่าแสนคน
อย่างไรก็ตามยังมีกฎหมายที่ระบุเกี่ยวกับการให้อนุญาติขนส่งผู้โดยสารด้วยรถส่วนบุคคลและรวมไปถึงเรื่องอื่นๆ เพราะหากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับและถูกยึดรถก็เป็นได้ กฎหมายนี้ก็ถูกใช้กับคู่แข่งคนสำคัญของ Uber อย่าง Didi Kuaidi ด้วย
เป้าหมายหลักของ Uber ก็คือพยายามเปลี่ยนวิธีปฏิบัติการและระบบของเมืองในอนาคต Travis ได้บอกว่า เนื่องจากบ้านเมืองมีกฎหมายของที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของเรา เราจึงจำเป็นที่จะต้องพยายามคุยกันถึงทางออกที่จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาทั้งสองฝ่าย ในตอนนี้ทั้งประเทศถูกเชื่อมต่อด้วยอินเทอร์เน็ต แต่มันก็กฎระเบียบของการใช้อินเทอร์เน็ตในจีนที่เราควรจะต้องระวังถ้าเราต้องการจะขยายการเชื่อมต่อในอนาคต
การออกมาพูดในครั้งนี้ของ Travis ก็เพื่อที่จะเรียกความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทั้งหลาย ถ้าให้เทียบดูถึงตัวเลขและส่วนแบ่งในตลาดให้บริการเรียกรถแท็กซี่ในจีน นับว่า Uber ยังเป็นรอง Didi Kuaidi อยู่พอสมควร การพยายามจะเจาะตลาดจีนและเชิญชวนให้พวกเขาได้เข้ามาศึกษาเกี่ยวกับ Startups จากฝั่งอเมริกันนั้นเป็นเรื่องยาก ที่คนจีนหลายๆคนจะเปิดใจรับ ทว่า Uber จะทำหน้าที่ "Localization" ได้ดีแค่ไหนที่จะปรับตัวเข้าหาวัฒนธรรม และเพิ่มเติมในส่วนของ User Experice ให้มากขึ้น
ที่มา: Tech in Asia
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด