Keir Starmer นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ได้ออกมาประกาศถึงความต้องการที่จะทำให้ UK กลายเป็น ‘มหาอำนาจ’ ด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างความก้าวหน้า ความมั่นคั่ง และทำให้ AI เป็นประโยชน์ต่อประชากรในประเทศ และนี่คือแผนการของ UK ที่ช่วยพาประเทศไปสู่การเป็นผู้นำด้าน AI
Starmer บอกว่า UK จะดำเนินตามแนวทางของตัวเอง โดยรัฐบาลจะทดสอบ และทำความเข้าใจ AI ก่อนที่จะควบคุม เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อออกกฎเกณฑ์ควบคุมแล้ว จะมีความเหมาะสม และตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง
ซึ่งหมายความว่า UK จะออกกฎระเบียบควบคุมเป็นของตนเอง ไม่ได้ยึดแนวทางของประเทศใด ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงการที่ UK ออกจากสหภาพยุโรป (EU) เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา และในปัจจุบัน EU ได้บังคับใช้ AI Act หรือกฎหมายปัญญาประดิษฐ์ไปตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2024
นอกจากนี้ UK จะนำเข้าข้อมูลสาธารณะข้าสู่คลังข้อมูลแห่งชาติ ซึ่งจะช่วยให้นักวิจัยสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้เพื่อนำไปฝึกฝน และพัฒนา AI ในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งรัฐบาลตกลงที่จะดำเนินงานตามข้อเสนอแนะทั้งหมด 50 ข้อที่ Matt Clifford ประธานหน่วยงานวิจัย และสิ่งประดิษฐ์ขั้นสูง (AIRA) เคยส่งรายงานแนะนำไว้
หนึ่งในข้อเสนอแนะคือ การจัดตั้งเขตพื้นที่เพื่อรองรับการเติบโตของ AI เช่น การมีพื้นที่สำหรับตั้งศูนย์ข้อมูล(Data Center) พร้อมกับเร่งรัดกระบวนการขออนุญาตก่อสร้าง และการจัดการหาพลังงานเพื่อรองรับ Data Center รวมถึงแผนการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีพลังมากพอที่จะเล่นหมากรุกได้ครึ่งล้านครั้งต่อวินาที เพื่อนำมาฝึกฝน AI โดยเฉพาะ
Starmer ยังสั่งให้สมาชิกรัฐสภาทุกคนจัดลำดับความสำคัญของการนำ AI มาใช้ในประเทศ โดยย้ำว่า ในโลกของการแข่งขันที่ดึเดือดนี้ UK จะนิ่งเฉยไม่ได้ หลังจากประกาศออกไป บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Microsoft, Anthropic และ OpenAI ต่างออกมาแสดงความยินดีกับแผนดังกล่าว โดยหลายฝ่ายมองว่าการนำ AI มาใช้ใน UK จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งในเมื่อรัฐบาลมีแผนแล้ว ก็ควรจำเป็นต้องเร่งดำเนินการตามแผนอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันสหรัฐฯ เป็นผู้นำของโลกในการพัฒนา AI โดยมีจีนครองตำแหน่งเบอร์สอง ส่วนสหราชอาณาจักรเป็นอันดับสาม ตามการจัดอันดับของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
ที่มา : cointelegraph, reuters
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด