UnaBiz ผู้ให้บริการครบวงจรด้าน Internet of Things(IoT)ในสิงคโปร์ได้รวบรวมเงินกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐในรอบ Series B นำโดย SPARX Group การระดมทุนในรอบนี้สามารถทำได้มากกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ โดยมีการเข้าร่วมจาก CDIB, G K Goh และไทยออยล์ 

เงินทุนนี้นำไปใช้ในในการขยายฐานธุรกิจไปสู่ระดับภูมิภาคเช่น ญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ EMEA ผ่านสำนักงานในพื้นที่และการควบรวมกิจการ รวมถึงใช้เพื่อสนับสนุนการเติบโตของ UnaConnect ที่เป็นแพลตฟอร์มล่าสุดของบริษัทที่เน้นให้บริการด้านข้อมูล โดยมีจุดมุ่งหมายในการเชื่อมช่องว่างสำคัญระหว่างเทคโนโลยีด้านข้อมูลจาก IoT ที่กระจัดกระจายเป็นส่วนๆให้เข้าระบบการจัดการส่วนกลางของบริษัท 

“วิสัยทัศน์ของเราคือการเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลขององค์กรด้วยการให้บริการที่ครบวงจร ทั้งทางด้าน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเครือข่ายการเชื่อมต่อ เราตั้งใจที่จะขยายทีมงานของเราไปยังแต่ละพื้นที่ และทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจนั้นๆ เพื่อเติบโตเป็นผู้นำของเครือข่ายการสื่อสารแบบวงกว้างที่ใช้พลังงานต่ำ (LPWAN) แบบรวมศูนย์” Henri Bong ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ UnaBiz กล่าว “IoT ได้กลายมาเป็นอุตสาหกรรมที่แยกส่วนมากเกินไป และภารกิจของเราก็คือการลดความซับซ้อนนั้น รวมถึงขจัดอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้ใช้งาน IoT กับระบบขนาดใหญ่ตั้งแต่ 0G จนถึง 5G ได้อย่างแท้จริง” 

ในปี 2018 UnaBiz รวบรวมเงินกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐในรอบการระดมทุน Series A เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในฐานะผู้ให้บริการระบบ IoT ให้เป็นที่ยอมรับและสามารถเชื่อมต่อได้กับทุกเทคโนโลยี บริษัทฯ ประสบความสำเร็จใน 3 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ การตรวจวัดน้ำและก๊าซ การติดตามสินทรัพย์ และการบริหารจัดการทรัพยากรอาคาร โดยเน้นการออกแบบโซลูชัน ปรับแต่งให้เข้ากับอุตสาหกรรม และใช้ห่วงโซ่อุปทานมาตรฐานโลกของไต้หวัน พร้อมทั้งแพลตฟอร์มนวัตกรรมของสิงคโปร์ สิ่งนี้ทำให้ UnaBiz ได้ให้บริการแก่โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้านการอ่านมาตรวัดก๊าซระยะไกลของญี่ปุ่น กลุ่มถังเบียร์ที่ต้องการการติดตามบนพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ และโครงการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรอาคารแบบผสมผสานในสถาบันการศึกษาของสิงคโปร์ 

“UnaBiz มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าให้กับคู่ค้าทางธุรกิจ” Philippe Chiu ผู้ร่วมก่อตั้งและซีทีโอของ 

UnaBiz กล่าว “เรามองเห็นการเปลี่ยนแปลงในอุปสงค์ของตลาด IoT จากแรงขับเคลื่อนทางการแข่งขันไปสู่ความมุ่งมั่นในการลดคาร์บอน นอกจากการรับเอาแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืน การบริโภคและการผลิตอย่างมีความรับผิดชอบมาใช้แล้ว เงินทุนก้อนใหม่นี้ยังจะนำไปใช้ในการพัฒนา ความเชี่ยวชาญและบริการที่ช่วยให้คู่ค้าของเราบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานอีกด้วย นอกจากเซ็นเซอร์ที่มีการปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสมแล้ว การประยุกต์ใช้ AIก็เป็นปัจจัยสำคัญในบริการใหม่ๆ ที่มุ่งเน้นข้อมูลของเราอีกด้วย” Chiu กล่าวเสริม

SPARX Group บริษัทการลงทุนอิสระที่ตั้งอยู่ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งให้บริการบริหารจัดการสินทรัพย์มูลค่ามากกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้ดำเนินการระดมทุนในรอบนี้ผ่าน Mirai Creation Fund II ซึ่งเป็นกองทุนมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่สนับสนุนโดยองค์กรอย่าง Toyota Motor Corporation และ Sumitomo Mitsui Banking Corporation กองทุน SPARX Mirai Creation Funds มีจุดมุ่งหมายที่จะเร่งนวัตกรรมโดยการจัดหาเงินทุนให้กับการพัฒนาของบริษัทและโครงการในเทคโนโลยีต่างๆ ที่กระตุ้นการเติบโตในอนาคต SPARX Group จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว 

Shuhei Abe ประธานและซีอีโอของ SPARX Group กล่าวว่า “UnaBiz สร้างความคืบหน้าได้เป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมา เราประทับใจในการเติบโตที่รวดเร็วและยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีที่ UnaBiz นำเสนอหนึ่งในโครงการตรวจวัดก๊าซอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุดและรวดเร็วที่สุดในภูมิภาค แม้เป็นช่วงเวลาที่โควิด-19 แพร่ระบาดก็ตาม เราตั้งตารอที่ได้ร่วมมือกับทีมงานมากความสามารถและเปี่ยมพลังทีมนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของภูมิทัศน์ IoT ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว”

 Global Brain องค์กรที่ดำเนินการระดมทุนในรอบก่อนหน้าผ่าน KDDI Open Innovation Fund และ ENGIE Ventures บริษัทด้านการลงทุนของ ENGIE ผู้นำด้านพลังงานและบริการระดับโลก ได้เน้นย้ำความเชื่อมั่นที่มีต่อวิสัยทัศน์ของ UnaBiz ในรอบ Series B นี้ 

“UnaBiz ได้ร่วมงานกับ SORACOM Inc ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ KDDI อย่างใกล้ชิดตั้งแต่การระดมทุน Series A การร่วมมือกันของทั้งสองบริษัทได้ขับเคลื่อนขอบเขตของระบบมาตรวัดอัจฉริยะ เมื่อมีสำนักงานแห่งใหม่ในญี่ปุ่น เราก็มั่นใจว่าทีมงานจะสามารถขยายบริการด้านข้อมูลของตนไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ปรับให้เกิดโซลูชันที่แตกต่าง และนำเทคโนโลยีนั้นไปสู่ตลาดระดับโลกได้” Tatsuya Matsumoto ผู้อำนวยการของ Global Brain หุ้นส่วนทั่วไปของ KDDI Open Innovation Fund III กล่าว 

 “ENGIE ได้ร่วมงานกับ UnaBiz อย่างใกล้ชิดเพื่อสนับสนุนการปรับบริการต่างๆ ของ UnaBiz ให้เป็นดิจิทัล ความมุ่งมั่นของ UnaBiz ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ยั่งยืนให้กับพันธมิตรของตนนั้นสอดคล้องอย่างสมบูรณ์กับจุดมุ่งหมายของ ENGIE ในการเร่งเดินหน้าสู่ยูทธศาสตร์ที่ไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเดินหน้าต่อไปเพื่อนำโซลูชันที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมาใช้ในภูมิภาคตามขนาดที่ต้องการ” Thomas Baudlot ซีอีโอ Energy Solutions ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และผู้จัดการประจำประเทศของ ENGIE เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว

TOP Ventures บริษัทด้านการลงทุนของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP)  ผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายนํ้ามันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้กลุ่ม ปตท. ได้ติดตามการระดมทุนในรอบนี้เพื่อนำโซลูชัน IoT ขนาดใหญ่ที่มีอยู่ซึ่งพัฒนาโดย UnaBiz มาสู่ตลาดประเทศไทย 

 “ไทยออยล์ให้ความสำคัญกับการแสวงหาโอกาสในธุรกิจใหม่ (New S-Curve) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของไทยออยล์ ด้าน Value Diversifications โดยมุ่งมั่นที่จะลงทุนในเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพและขยายธุรกิจพลังงานที่เรามีอยู่  การระดมทุนของ UnaBiz ครั้งนี้ สอดคล้องกับขอบเขตหลักทั้ง 3 ด้านในการลงทุนที่เราให้ความสำคัญ นั่นคือ เทคโนโลยีอุตสาหกรรม เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน และเทคโนโลยีพลังงานและการขับเคลื่อนแบบใหม่ ไทยออยล์พร้อมที่จะร่วมมือเพื่อสร้างโซลูชันใหม่สำหรับอุตสาหกรรมในวงกว้าง” Luck Saraya กรรมการผู้จัดการของ TOP Ventures กล่าว 

 การระดมทุนครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากผ่านไปสามเดือน นับตั้งแต่ที่ UnaBiz ประกาศเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในญี่ปุ่นผ่าน Invest Tokyo ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มโดยสำนักงานบริหารมหานครโตเกียว และได้รับการสนับสนุนโดยองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ต่อมา บริษัทฯ มีชื่อติดอยู่ในทำเนียบ 

Forbes Asia 100 to Watch และได้รับการแต่งตั้งโดย Infocomm Media Development Authority (IMDA) ของสิงคโปร์ ภายใต้ Accreditation@SG Digital ให้เป็นโครงการชั้นนำที่ช่วยให้บริษัทเทคโนโลยีในสิงคโปร์เร่งการเติบโตของตนและแข่งขันได้ในระดับโลก 

 การระดมทุนครั้งนี้ทำให้ UnaBiz มีเงินทุนที่รวบรวมได้ทั้งสิ้น 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่ที่เริ่มเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม ปี 2016 และมีมูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่านับตั้งแต่การระดมทุนในรอบที่ผ่านมา