Unilever ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและความงานหลาย ๆ แบรนด์ อย่าง Dove, Vaseline, Nivea ประกาศเปลี่ยนคำว่า ‘Normal’ บนผลิตภัณฑ์สินค้า และวางแผนเปลี่ยนรูปแบบการโฆษณาที่สื่อไปในทางเหยียดรูปร่างหน้าตา และสีผิว
หลังจากได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมายจากกลุ่มผู้บริโภค ถึงความไม่เหมาะสมของสโลแกนต่าง ๆ บนผลิตภัณฑ์และโฆษณาของแบรนด์ใน Unilever ที่ส่อไปแนวเหยียดสีผิว และรูปลักษณ์ภายนอก อย่างเช่นในอินเดียเมื่อปีที่ผ่าน ที่ได้เปลี่ยนคำบนผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณจากคำว่า “Fair & Lovely” ที่สื่อว่า ผิวขาวและงดงาม เป็นคำว่า “Glow & Lovely” ที่สื่อว่า เปล่งประกายและงดงามแทน หลังจากโดนวิจารณ์ในแง่ลบว่าเป็นการเหยียดผิวสีเข้มของชาวอินเดีย
นอกจากนี้เมื่อปี 2017 ทาง Unilever ก็โดนวิจารณ์ในโซเชียลมีเดียเช่นกัน จากโฆษณาของแบรนด์ Dove ที่โฆษณาสบู่อาบน้ำ โดยมีสาวผิวสีคนหนึ่งถอดเสื้อและกลายเป็นสาวผิวขาว และล่าสุดนี่เองที่ทาง Unilever ก็เพิ่งโดนกดดันจากผู้บริโภคในแอฟริกาใต้ในการขอคืนสินค้าแบรนด์ TRESemmé เพราะมีการโฆษณาโดยใช้คำว่า ‘Normal Hair’ เนื่องจากต้องการจะสื่อลักษณะของผมที่แตกต่างออกไปของชาวแอฟริกันนั่นเอง
ซึ่งจากผลการสำรวจของทาง Unilever กับผู้บริโภค 100,000 คนทั่วโลก พบว่า ผู้บริโภคกว่า 70% ไม่เห็นด้วยกับการใช้คำว่า ‘Normal’ ในการอธิบายลักษณะสีผิวและเส้นผม และภายในมีนาคมปีหน้า ทาง Unilever จะทำการเปลี่ยนคำว่า ‘Normal’ บนผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไปใช้คำอื่นแทน เช่น ใช้คำว่า ‘Grey hair’ แทนบนขวดแชมพู หรือใช้คำว่า ‘Moisture replenish’ แทนการใช้คำที่สื่อถึงสีผิว และลักษณะของเส้นผม
ทาง Unilever ยังมีการเปิดเผยอีกว่า จะหยุดการโฆษณาที่สื่อถึงความแตกต่างทางสีผิว สัดส่วน และรูปร่างของนางแบบที่ทางบริษัทได้จ้างมาในการโฆษณา ซึ่งแคมเปญนี้ทาง Unilever ได้เริ่มใช้กับแบรนด์ Dove มาตั้งแต่ปี 2018 แล้ว
อ้างอิง: REUTERS
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด