Universal Studios เตรียมจ้าง ‘สูงวัย’ สวนทาง Disneyland เตรียมใช้ AI | Techsauce

Universal Studios เตรียมจ้าง ‘สูงวัย’ สวนทาง Disneyland เตรียมใช้ AI

Universal Studios ประเทศญี่ปุ่นประกาศเตรียมจ้างพนักงานอายุ 60 ปีขึ้นไป มาทำงานที่สวนสนุก เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในประเทศ สวนทางกับ Disneyland ที่มีแผนเตรียมใช้ AI แทนคน เพราะต้องการลดต้นทุน

ทำไม Universal Studios ถึงจ้างสูงวัย แทนการใช้ AI

ในยุคที่ AI เข้ามาช่วยงานได้เกือบทุกส่วน แต่ทาง Universal Studios ประเทศญี่ปุ่นกลับเลือกจ้างพนักงานสูงวัยแทนการใช้ปัญญาประดิษฐ์ ส่วนหนึ่งนั้นเป็นผลมาจากการที่ญี่ปุ่นได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว และปัญหาที่เกิดตามมาก็คือ วิกฤตแรงงานขาดแคลน

การดึงคนสูงวัยเหล่านี้กลับมาก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยเพิ่มปริมาณคนในตลาดแรงงานญี่ปุ่นได้ และอีกเหตุผลสำคัญที่ Universal Studios ตัดสินใจจ้างงานผู้สูงอายุก็คือ ต้องการขยายฐานลูกค้าของสวนสนุก

แล้วการมีผู้สูงอายุเป็นพนักงาน จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้ายังไง ? ด้าน Universal Studios ชี้ว่า แม้ภาพจำของสวนสนุกจะมีเอาไว้เพื่อเด็กและคนหนุ่มสาว หรือครอบครัวเป็นลูกค้าหลัก แต่ที่ประเทศญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดต่ำลง และประชากรส่วนใหญ่ก็อายุมากขึ้น นั่นหมายความว่าอายุเฉลี่ยของผู้คนที่เข้าสวนสนุกมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย การสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อคนสูงอายุจึงอาจช่วยขยายฐานลูกค้าของสวนสนุกได้

Universal Studios ประเทศญี่ปุ่นจึงตั้งเป้าเอาไว้ว่า ภายในปี 2025 บริษัทจะจ้างพนักงานอายุ 60 ปีขึ้นไปเพิ่มอีก 200 คนในตำแหน่งพนักงานดูแลสวนสนุก (Park Staff) ซึ่งทางบริษัทก็หวังว่าในอีก 1 ปี สวนสนุกจะเป็นพื้นที่สำหรับคนสูงวัยได้ด้วยเช่นกัน

สวนทาง Disneyland เตรียมดึง AI มาใช้

มองย้อนกลับมาฝั่ง Disneyland ที่ตั้งแต่ปี 2023 ก็ประกาศจ้างงานหน่วยงานเฉพาะกิจด้าน AI เพื่อพัฒนาโซลูชันปัญญาประดิษฐ์ภายในองค์กร ซึ่งบริษัทวางแผนว่าจะนำเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาใช้งานทั้งในอุตสาหกรรมภาพยนต์และสวนสนุกเพื่อลดต้นทุน

งานในสวนสนุกที่ Disneyland ตั้งเป้าจะนำ AI มาใช้ก็คือ ตำแหน่งพนักงานดูแลสวนสนุก (Park Staff) ที่มีหน้าที่ในการบริการและให้ข้อมูลลูกค้าเช่นเดียวกับด้าน Universal Studios ประเทศญี่ปุ่น 

โดยทาง Disneyland มีแรงบันดาลใจหุ่นยนต์ Baby Groot ที่ขับเคลื่อนโดย AI และสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคนได้อย่างน่ารัก บริษัทจึงมองว่าการใช้ AI จะสามารถปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าของสวนสนุกได้ดีขึ้น และลดต้นทุนได้ไปพร้อม ๆ กัน

แม้ทั้ง 2 บริษัทจะมีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกัน แต่หากมองถึงวัตถุประสงค์หลักก็เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าหลักให้ดีขึ้นทั้งนั้น หากย้อนถามในฐานะผู้บริโภคระหว่างสูงวัย vs AI คุณอยากเข้าไปเจอกับใครมากกว่ากัน ?

อ้างอิง: asia.nikkei, cnbc, reuters

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

อดีตซีอีโอ Nissan เตือน การควบรวมกิจการกับ Honda อาจทำให้เจอ 'ปัญหา' การลดต้นทุนครั้งใหญ่

Carlos Ghosn อดีตซีอีโอของ Nissan ออกมาเตือนว่า บริษัทอาจต้องเผชิญกับ "หายนะ" จากการลดต้นทุนครั้งใหญ่ หากตัดสินใจควบรวมกิจการกับ Honda โดยเขาให้เหตุผลว่า ทั้งสองบริษัทมีความซ้ำซ้อน...

Responsive image

เชื่อหมอมากกว่า TikTok ? วิจัยชี้ คำแนะนำทางการแพทย์เกือบครึ่ง 'มั่ว'

Tebra บริษัทวิจัยด้านสุขภาพ ได้ทำการวิเคราะห์วิดีโอบนแพลตฟอร์ม TikTok กว่า 5,000 รายการ ที่มีความเกี่ยวข้องกับคำแนะนำทางการแพทย์ เพื่อทำการประเมินความถูกต้องของ ซึ่งผลลัพธ์แสดงให้เ...

Responsive image

Zoom เผย 10 เทรนด์ AI ในการทำงาน ที่ต้องจับตา ปี 2025

ในปี 2568 บริษัทซูม วิดีโอคอมมิวนิเคชันส์ (Zoom) มองว่าเทคโนโลยี AI อาจเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในหลายๆด้าน บริษัทที่ใช้ AI เป็นหลัก จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพพนักงาน สร้างประสบการ...