โจ ไบเดน สั่งห้ามสหรัฐลงทุนเทคโนโลยีในจีน โดยเฉพาะชิปและ AI หวั่นกระทบความมั่นคงชาติ | Techsauce

โจ ไบเดน สั่งห้ามสหรัฐลงทุนเทคโนโลยีในจีน โดยเฉพาะชิปและ AI หวั่นกระทบความมั่นคงชาติ

ไบเดนเซ็นอนุมัติคำสั่ง ห้ามสหรัฐฯ ลงทุนในเทคโนโลยีไฮเทค และ AI ในประเทศจีน ฮ่องกง และมาเก๊า หวั่นสร้างพลังให้จีนมาทำร้ายภายหลัง 

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเซ็นสั่งห้ามอเมริกาลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีบางประเภทในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และมาเก๊า คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นเพื่อป้องกันการที่สหรัฐไปสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีให้กับกองทัพจีน และอาจกลายเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของสหรัฐภายหลัง

แผนนี้คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปี 2024 โดยมุ่งเน้นไปที่การห้ามลงทุนในเซมิคอนดักเตอร์ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ควอนตัม และเทคโนโลยี AI บางชนิด

เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้มีความสำคัญและสามารถเพิ่มพูนประสิทธิภาพของกองทัพจีนได้ ทั้งหน่วยสืบราชการลับ หน่วยเฝ้าระวัง รวมถึงความสามารถทางไซเบอร์ที่อาจเป็นภัยต่อสหรัฐ

นอกจากนี้คำสั่งยังระบุให้ผู้ประกอบการที่ต้องการไปลงทุนในด้านอื่น ๆ ต้องแจ้งให้รัฐบาลทราบด้วย โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐเผยว่าคำสั่งใหม่นี้จะไม่กระทบต่อธุรกิจสหรัฐและจีน ธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศจะยังคงดำเนินต่อไปได้ แต่แค่ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังมากขึ้น

กระทรวงพาณิชย์ของจีนมีท่าทีไม่พอใจ

กระทรวงพาณิชย์ของจีนไม่พอใจกับคำสั่งที่ออกมาของสหรัฐ เนื่องจากมองว่าสหรัฐฯ ไม่ยุติธรรมกับการแข่งขันทางธุรกิจและความร่วมมือในตลาด ซึ่งคำสั่งดังกล่าวอาจส่งผลต่อการตัดสินใจในการทำธุรกิจของบริษัทต่าง ๆ รวมถึงส่งผลกระทบต่อวิธีการผลิตและจำหน่ายสินค้าทั่วโลก

ทำไมต้องกีดกันจีนจากการพัฒนาเทคโนโลยี 

นอกจากเหตุผลเรื่องภัยความมั่นคงของชาติ สหรัฐอเมริกาและจีนกำลังแข่งขันกันเพื่อเป็นที่หนึ่งในด้านเทคโนโลยี และในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านเทคโนโลยีของจีนพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด ในปี 2020 จีนไต่ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 14 ของ Global Innovation Index สร้างความกังวลใจให้กับสหรัฐอย่างมาก

ประธานาธิบ Joe Biden ต้องการให้สหรัฐทำได้เหนือกว่าจีนในด้านเทคโนโลยี จึงพยายามผลักดันและหนุนเงินกว่า 52.7 พันล้านดอลลาร์ ในแผนที่เรียกว่า CHIPS and Science Act เพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ทำการวิจัยและผลิตชิปมากขึ้น ซึ่งคำสั่งการห้ามส่งออกชิปของสหรัฐ ในปี 2022 และคำสั่งห้ามลงทุนในเทคโนโลยีบางประเภท ในปี 2023 จึงอาจเป็นแนวทางที่สหรัฐจะเก็บเทคโนโลยีที่ได้จากการหนุนเงินไว้พัฒนาภายในประเทศ และไม่เป็นการช่วยเหลือจีนให้พัฒนาได้ทัน

อ้างอิง: cnbc, asia.nikkei

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

TikTok เตรียมลงทุนในไทยกว่าแสนล้านบาท ! สร้าง Data Hosting ในกรุงเทพฯ สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา

หลังจากที่บิ๊กเทคฯ ตบเท้าเข้ามาลงทุนในไทยทั้ง Google, Microsoft ไปจนถึง AWS ล่าสุดเป็นคิวของแพลตฟอร์มคลิปสั้นยอดนิยมอย่าง TikTok ที่เตรียมเข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วยงบการลงทุนกว่าแส...

Responsive image

ByteDance ขอท้าชน เปิดตัว Doubao 1.5 Pro AI ท้าทายยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ด้วยต้นทุนต่ำแต่ประสิทธิภาพสูง

AI สัญชาติจีนมาแรง! ByteDance ผู้สร้าง TikTok เปิดตัว Doubao 1.5 Pro AI ม้ามืดที่กำลังท้าทายยักษ์ใหญ่ในวงการ ด้วยประสิทธิภาพที่สูงและต้นทุนที่ต่ำ แต่ยังคงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมแม้...

Responsive image

Apple และ SpaceX จับมือกัน นำเครือข่ายดาวเทียม Starlink มาสู่ iPhone

Apple จับมือ SpaceX และ T-Mobile เพิ่มการรองรับเครือข่าย Starlink บน iPhone ผ่าน iOS 18.3 ผู้ใช้บางรายเริ่มทดสอบส่งข้อความผ่านดาวเทียมแล้ว โดย Starlink จะขยายไปสู่การโทรและอินเทอร์...