ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่สะท้อนถึงความพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจ สหรัฐอเมริกาได้ประกาศยกเลิกข้อกำหนดที่เคยบังคับให้บริษัทซอฟต์แวร์ออกแบบชิปต้องขอใบอนุญาตก่อนขายให้กับจีน โดยการตัดสินใจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามข้อตกลงทางการค้าที่เพิ่งสรุปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อคลี่คลายข้อพิพาทและความตึงเครียดด้านเทคโนโลยีที่สั่งสมมาตลอดหลายปี

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังสามผู้เล่นหลักของวงการ EDA (Electronic Design Automation) ได้แก่ Synopsys, Cadence Design Systems และ Siemens AG จากเยอรมนี ว่าไม่ต้องขออนุญาตพิเศษก่อนส่งซอฟต์แวร์ออกแบบชิปไปยังจีนอีกต่อไป นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่สำคัญซึ่งมีผลกระทบในระดับอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่จีนกำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ของตนเองให้สามารถแข่งขันกับตะวันตก
บริษัท Siemens ออกแถลงการณ์ว่าขณะนี้ได้เปิดให้ลูกค้าในจีนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีของตนได้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว ขณะที่ Synopsys และ Cadence ก็กำลังดำเนินการฟื้นฟูการให้บริการหลังจากได้รับหนังสือยืนยันจากทางการสหรัฐฯ เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทรัมป์ได้ประกาศจำกัดการขายเครื่องมือออกแบบชิปให้จีนในเดือนพฤษภาคม โดยให้เหตุผลว่าเป็นการตอบโต้ต่อการที่จีนจำกัดการส่งออก “แร่หายาก” ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงและเทคโนโลยีสะอาด
ตามข้อตกลงการค้าใหม่ที่สหรัฐฯ และจีนเพิ่งสรุปร่วมกัน วอชิงตันได้ให้คำมั่นว่าจะอนุญาตการส่งออกซอฟต์แวร์ออกแบบชิป รวมถึงเอทเทน (ethane) และเครื่องยนต์เจ็ตให้กับจีน ภายใต้เงื่อนไขว่า จีนต้องเร่งรัดขั้นตอนการอนุมัติส่งออกแร่หายากให้กับบริษัทสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
ข้อตกลงนี้ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่กรณีที่ทั้งสองฝ่ายต่างผ่อนปรนเพื่อเปิดพื้นที่ความร่วมมือทางเทคโนโลยีอีกครั้งหลังจากความขัดแย้งที่ลุกลามจากแค่ภาษีนำเข้าสู่การควบคุมด้านความมั่นคงและทรัพยากร
เครื่องมือ EDA คือซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการออกแบบและจำลองวงจรชิป ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกระบวนการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นชิปสำหรับ AI, รถยนต์ไฟฟ้า, อุปกรณ์ 5G หรือแม้แต่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์จาก Cadence และ Synopsys ถูกใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมทั่วโลก ตั้งแต่การออกแบบชิปประสิทธิภาพสูงของ Nvidia และ Apple ไปจนถึงวงจรควบคุมพลังงานที่ใช้ในอุปกรณ์ทั่วไป
การที่บริษัทจีนจะสามารถเข้าถึงซอฟต์แวร์เหล่านี้ได้อีกครั้ง จึงเท่ากับว่า จีนมีโอกาสกลับเข้าสู่สนามแข่งขันเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกอีกครั้ง
การยอมผ่อนปรนด้านการส่งออกในครั้งนี้อาจสะท้อนว่า สหรัฐฯ เริ่มเห็นข้อจำกัดของการ “บีบทางเทคโนโลยี” โดยตรงแบบในอดีต เพราะนอกจากจะผลักดันให้จีนพัฒนาระบบของตัวเอง ยังส่งผลกระทบทางอ้อมต่อซัพพลายเชนและผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ เอง
อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่านี่คือการผ่อนคลายระยสหรัฐฯ ไฟเขียวจีนใช้ซอฟต์แวร์ออกแบบชิปอีกครั้ง แลกกับแร่หายาก กลับมาดีลแบบยื่นหมูยื่นแมว ฟื้นสัมพันธ์เทคโนโลยีระดับโลกะยาว หรือเป็นเพียงแค่การปรับนโยบายชั่วคราวเพื่อผลประโยชน์ทางการค้าในช่วงสั้น
อ้างอิง: bloomberg
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด