รัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนจะเพิ่มความเข้มงวดสำหรับการควบคุมการส่งออกชิปไปจีน ในครั้งนี้มีการเพิ่มการควบคุมการส่งออกชิปประมวลผล AI เข้าไปด้วยซึ่งส่งผลต่อบริษัทผู้ผลิตชิป AI โดยตรงอย่าง Nvidia และ AMD

ตัดโอกาสหรือไม่กับนโยบายที่เข้มงวดขึ้น

ข้อเสนอในการควบคุมการส่งออกชิปประมวลผลรวมถึงชิปประมวลผลแบบ AI ถูกเสนอโดย กระทรวงพานิชย์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าในเดือนกรกฎาคมนี้จะมีการแก้ไขนโยบายดังกล่าว ให้เข้มงวดมากขึ้นและยากมากขึ้นสำหรับผู้ส่งออกที่ไม่มีใบอนุญาตการส่งออก

ข้อเสนอนี้เกิดขึ้นจากความกังวลถึงการขายอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีคุณภาพสูงให้กับคู่แข่งที่สำคัญอย่างประเทศจีน ในขณะที่สงครามเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศยังคงดำเนินต่อไป 

เมื่อวันพุธที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา Colette Kress ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Nvidia กล่าวในรายงานว่า บริษัทตระหนักถึงนโยบายควบคุมการส่งออกชิปประมวลผลที่เข้มงวดขึ้น แต่จะเป็นการดีหากรัฐบาลอธิบายถึงกฎเกณฑ์ดังกล่าวอย่างละเอียด 

Colette Kress กล่าวว่ารายได้ส่วนใหญ่ของ Nvidia data center ในจีนคิดเป็น 20-25% ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว การที่รัฐบาลเพิ่มความเข้มงวดด้านกฎระเบียบการส่งออกจะยิ่งทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ 

ซึ่งหลังจากประเด็นดังกล่าวถูกนำมาพิจารณา ส่งผลให้หุ้นของ Nvidia และ Advanced Micro Devices (AMD) ปรับตัวลงมากกว่า 2% นอกจากนี้ผู้ผลิตชิปประมวลผลรายอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย อาทิเช่น Broadcom และ Marvell ที่มูลค่าหุ้นของทั้งคู่ปรับตัวลงน้อยกว่า 1% ในขณะที่ หุ้นของ Qualcomm ปรับตัวลงมากกว่า 2%

สกัดขาคู่แข่งทางเทคโนโลยีอย่างจีน

การควบคุมดังกล่าวเน้นย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาล Joe Biden ที่ต้องการยับยั้งการเติบโตทางเทคโนโลยีของจีน และอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศ

Liu Pengyu โฆษกสถานทูตจีนมองว่าความเคลื่อนไหวของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นตัวอย่างของการขาดความเคารพซึ่งกันและกัน และอาจทำให้ทั้งสหรัฐฯและจีน ไม่สามารถหารือเกี่ยวกับประเด็นอื่น ๆ ได้

นโยบายที่ประกาศออกมานี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการต่ออายุใบอนุญาตทั่วไปที่มอบให้กับบริษัทของเกาหลีใต้และไต้หวันหรือไม่

Samsung Electronics Co., SK Hynix Inc. และ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. ได้รับการยกเว้นโทษหนึ่งปีจากนโยบายดังกล่าวเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วและได้ทำเรื่องขอ ให้ทำเนียบขาวขยายเวลาออกไปอีกอย่างน้อยหนึ่งปี

นโยบายที่เข้มงวดขึ้นของสหรัฐฯอาจเพิ่มความขัดแย้งที่ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ของจีนและสหรัฐฯ แต่อาจลามไปถึงบริษัทผู้ผลิตชิปประมวลรายใหญ่อื่นๆที่มีการค้ากับประเทศจีน

ที่มา : CNBC, BloomBerg