Virtual Bank คืออะไร ดีกว่าธนาคารแบบเดิมอย่างไร แล้วต้องไปทำธุรกรรมที่สาขาอีกหรือไม่ ? | Techsauce

Virtual Bank คืออะไร ดีกว่าธนาคารแบบเดิมอย่างไร แล้วต้องไปทำธุรกรรมที่สาขาอีกหรือไม่ ?

Virtual Bank หรือ ธนาคารไร้สาขา ถือเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง เพราะด้วยปัจจุบันมีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่างสนใจที่จะลงทุนใน Vitual bank กันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งในหลาย ๆ ประเทศ ต่างก็ทยอยออกหลักเกณฑ์ใบอนุญาตให้ดำเนินการไปบ้างแล้ว

Virtual bank

ทั้งนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ให้ความหมายของ Virtual bank หรือ Digital-only bank ไว้ว่า คือ ธนาคารพาณิชย์ที่ดำเนินธุรกิจบนช่องทางดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบ ในบทความนี้ Techsauce จะพาไปทำความรู้จักกับ Virtual Bank กันให้มากขึ้นว่าคืออะไร มีบริการอะไรบ้าง แตกต่างจากธนาคารพาณิชย์ทั่วไปยังไง รวมถึงคำถามเกี่ยวกับ Virtual Bank ที่พบบ่อย และตัวอย่างของ Virtual Bank ในต่างประเทศเป็นอย่างไรบ้าง ? 

คุณสมบัติ Virtual Bank 

Virtual Bank แตกต่างจากธนาคารพาณิชย์ดั้งเดิม นอกเหนือจากเรื่องการมีสำนักงานสาขา ก็คือ ผู้ขอจัดตั้ง Virtual Bank ต้องมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัล , มีความเชี่ยวชาญในการนำเทคโนโลยีและข้อมูลที่หลากหลายทั้งข้อมูลทางการเงินและข้อมูลทางเลือก เช่น พฤติกรรมการใช้จ่าย มาใช้ประเมินความเสี่ยงและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

และสามารถนำเสนอบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ (new value proposition) แก่ลูกค้ากลุ่มต่าง ๆ ได้อย่างครบวงจรและเหมาะสม

ใครคือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ Virtual Bank

Virtual Bank สามารถให้บริการลูกค้าได้ทุกกลุ่ม โดยเน้นลูกค้ารายย่อย และ SMEs ที่คุ้นเคยกับการทำธุรกรรมบนโลกดิจิทัล รวมถึงกลุ่มที่ยังไม่เข้าถึงบริการทางการเงินในระบบ (unserved) เช่น ไม่เคยมีบัญชีเงินฝากกับสถาบันการเงิน/เข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบ หรือกลุ่มที่ยังไม่ได้รับบริการที่ดีเพียงพอ ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของตน (underserved) ให้มีโอกาสเข้าถึงหรือได้รับบริการทางการเงินที่ดีขึ้น

การเปิดให้มี Virtual Bank จะส่งผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์ดั้งเดิมหรือไม่อย่างไร และจะเข้ามาทดแทนธนาคารพาณิชย์ดั้งเดิมหรือไม่ ?

  • จากประสบการณ์ในต่างประเทศที่ Virtual Bank เปิดให้บริการมาระยะหนึ่งแสดงให้เห็นว่า การประกอบธุรกิจของ Virtual Bank ไม่ได้กระทบฐานะและผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ดั้งเดิมมากนัก แต่ช่วยกระตุ้นการแข่งขันและเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการเงิน เช่น พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า และลดค่าธรรมเนียมการใช้บริการ เป็นต้น

  • กรณีไทย คาดว่าการมี Virtual Bank จะกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันในระบบสถาบันการเงิน โดยทั้ง Virtual Bank และธนาคารพาณิชย์ดั้งเดิมจะปรับตัว และเน้นพัฒนานวัตกรรม/บริการทางการเงินให้ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่มยิ่งขึ้น โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธนาคารพาณิชย์ดั้งเดิม คือ รายย่อยทั่วไป (mass) และลูกค้ารายใหญ่ ขณะที่ลูกค้าของ Virtual Bank จะเน้นไปที่ตลาดเฉพาะกลุ่ม (niche market) อย่างผู้มีรายได้น้อย และ micro SMEs ที่ผู้เล่นกลุ่มเดิมไม่ได้ให้บริการมากนัก


ผู้เล่นที่สามารถประกอบธุรกิจ Virtual Bank ได้ต้องเป็นธนาคารพาณิชย์เท่านั้นหรือไม่

ธปท. เปิดกว้างให้ผู้ประกอบธุรกิจทั้งในภาคการเงิน (เช่น ธนาคารพาณิชย์ดั้งเดิม หรือ non-bank) และนอกภาคการเงิน (เช่น บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (BigTech) บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเงิน (FinTech) หรือกิจการค้าร่วม (consortium)1) ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมขอจัดตั้ง Virtual Bank ได้ โดยไม่มีการแบ่งแยกหลักเกณฑ์การพิจารณาและกำหนดโควตาจำนวนใบอนุญาตตามประเภทผู้ขออนุญาตจัดตั้ง ว่าต้องเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจในภาคการเงิน และนอกภาคการเงินอย่างละเท่าใด แต่จะพิจารณาคัดเลือกผู้ยื่นขออนุญาตจัดตั้ง Virtual Bank ทุกรายด้วยหลักเกณฑ์เดียวกัน ตามคุณสมบัติ ดังนี้

  • มี business model ที่ตอบโจทย์ Green Line อย่างยั่งยืน
  • มีธรรมาภิบาล และวัฒนธรรมด้านความเสี่ยงที่ดี
  • มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการดิจิทัล
  • มีเทคโนโลยีที่ยืดหยุ่นและคล่องตัว
  • สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่หลากหลาย
  • สามารถบริหารความเสี่ยงจากธุรกิจการเงินได้
  • มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ผู้ถือหุ้นใหญ่สามารถสนับสนุนด้านการเงินให้ Virtual Bank ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

 ทั้งนี้ทาง ธปท. ไม่อนุญาตให้ Virtual Bank จัดตั้งสาขาหรือมี ATM/CDM ของตนเอง อย่างไรก็ดี Virtual Bank สามารถให้บริการรับฝากเงิน (cash-in) และถอนเงิน (cash-out) ผ่านตัวแทนทางการเงิน (banking agent) หรือเครือข่ายของผู้ให้บริการอื่น เช่น ATM pool ได้

Virtual Bank

Virtual Bank ทำอะไรได้บ้างตั้งแต่วันแรกที่เปิดดำเนินการ

จากตัวอย่างในต่างประเทศพบว่า Virtual Bank จะทยอยออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินตามความพร้อม โดยเริ่มจากการรับฝากเงิน การโอน/ชำระเงิน และการให้สินเชื่อ ก่อนให้บริการประเภทอื่น

รวมทั้ง Virtual Bank ถือเป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ผู้ฝากเงินใน Virtual Bank จึงจะได้รับความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากเช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ Virtual Bank มีหน้าที่นำส่งเงินเข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝากในอัตราที่กำหนดเช่นเดียวกับสถาบันการเงินอื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันกำหนดที่ 0.01% ต่อปี ของยอดเงินฝากถัวเฉลี่ยของบัญชีเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครอง

ธปท. ได้จัดทำเอกสารรับฟังความคิดเห็น

ธปท. ได้จัดทำเอกสารรับฟังความคิดเห็น (consultation paper) เรื่องการเปิดให้มีผู้ให้บริการประเภทใหม่ ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) เพื่อให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี การให้บริการดิจิทัล และการใช้ข้อมูลที่หลากหลายมาวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เข้ามาให้บริการทางการเงินรูปแบบใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัล ด้วยต้นทุนด้านพนักงาน อาคารและสถานที่ที่ลดลง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดและครบวงจรขึ้น 

รวมถึงช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินในราคาที่เหมาะสม โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้บริการรายย่อย และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ยังไม่ได้รับบริการทางการเงินอย่างเพียงพอหรือตรงความต้องการ 

เพื่อให้ Virtual Bank ที่จะเปิดให้บริการสามารถพัฒนานวัตกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม (responsible innovation) และประกอบธุรกิจในรูปแบบที่ยั่งยืน โดยไม่กระตุ้นให้เกิดการแข่งขันปล่อยสินเชื่อที่ส่งเสริมการก่อหนี้เกินตัว และไม่เอื้อประโยชน์แก่ผู้เกี่ยวข้องหรือใช้อำนาจตลาดเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ผู้เกี่ยวข้อง จนกระทบเสถียรภาพระบบการเงิน ผู้ฝากเงิน และผู้บริโภคในวงกว้างนั้น ธปท. ได้กำหนดแนวทางสำหรับการอนุญาตให้จัดตั้ง Virtual Bank ดังนี้ 

  1. ให้ Virtual Bank สามารถประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ได้เต็มรูปแบบ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปได้ 

  2. ผู้ขอจัดตั้ง Virtual Bank จะต้องมีคุณสมบัติเหมาะสม อาทิ มีรูปแบบธุรกิจที่ตอบโจทย์เป้าหมายข้างต้นได้อย่างยั่งยืน มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การให้บริการดิจิทัล และการใช้ข้อมูลที่หลากหลาย 

  3. ให้ Virtual Bank ปฏิบัติตามเกณฑ์การกำกับดูแลเช่นเดียวกันกับธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบัน โดย ธปท. จะกำกับ Virtual Bank ตามระดับความเสี่ยง ให้ความสำคัญกับธรรมาภิบาลและวัฒนธรรมด้านความเสี่ยง (risk culture) รวมถึงความต่อเนื่องในการให้บริการของระบบ IT ประสิทธิภาพในการดูแลลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัล และความเหมาะสมของการใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอก

  4. ให้การดำเนินกิจการในช่วงแรกเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด (phasing) เพื่อให้การดำเนินกิจการเป็นไปอย่างมั่นคงและไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบการเงิน

ทั้งนี้ เพื่อให้มี Virtual Bank ในประเทศไทยที่บรรลุวัตถุประสงค์ข้างต้นและตอบโจทย์ความต้องการของภาคการเงินอย่างแท้จริง ธปท. จึงขอเปิดรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่ง ธปท. จะนำความเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับมาประกอบการจัดทำหลักเกณฑ์การอนุญาตให้จัดตั้ง Virtual Bank ต่อไป

สรุปขั้นตอนการดำเนินงานของธปท. ดังนี้

ไตรมาสที่ 1 ปี 66

  • เปิดรับความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการขออนุญาตจัดตั้ง Virtual bank ตั้งแต่ 12 ม.ค. ถึง 12 ก.พ. 66

  • สรุปหลักเกณฑ์การขอจัดตั้งครั้งสุดท้าย ภายในไตรมาส 1 ปี 66

ไตรมาสที่ 2 - 3 ปี 66

  • ธปท. เปิดให้ยื่นคำขออนุญาตจัดตั้ง Virtual bank 

ไตรมาสที่ 4 ปี 66 ถึง ไตรมาสที่ 2 ปี 67

  • คัดเลือกรายชื่อที่เหมาะสม ใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือน และยื่นให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย (รมว.คลัง) พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน

ไตรมาสที่ 3 ปี 67 ถึง ไตรมาสที่ 2 ปี 68

  • บริษัทที่ได้รับความเห็นชอบจาก รมว. คลัง ให้จัดตั้ง Virtual bank ต้องเปิดดำเนินการภายใน 1 ปี นับตั้งแต่ รมว. คลัง ให้ความเห็นชอบ แต่ ธปท. อาจพิจารณาผ่อนผันได้ หากมีเหตุจำเป็น

ในช่วงเริ่มต้นจะมีผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง ไม่เกิน 3 ราย เพื่อให้สามารถกระตุ้นการแข่งขันในสถาบันการเงินได้อย่างเหมาะสมและไม่มากเกินจนกระทบเสถียรภาพของระบบการเงินและระบบสถาบันการเงิน เพื่อให้ ธปท. สามารถกำกับดูแลได้อย่างเหมาะสม

มาดูเทรนด์โลกและตัวอย่าง Virtual Bank ในต่างประเทศ

ในหลายประเทศได้ออกหลักเกณฑ์ใบอนุญาตให้จัดตั้ง Virtual Bank และดำเนินธุรกิจไปบ้างแล้ว เช่น บราซิล สหราชอาณาจักร มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง จีน เกาหลีใต้ 

สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการที่น่าสนใจของ Virtual bank ในต่างประเทศ เช่น บัญชีเงินฝากที่ไม่มีสมุดคู่ฝากโดยให้ดอกเบี้ยเงินฝากสูงกว่าบัญชีเงินฝากทั่วไป และอาจได้รับดอกเบี้ยเป็นรายวัน มี AI (Artificial Intelligence) ที่ช่วยประมวลผลพฤติกรรม แนะนำการออมและการใช้จ่ายให้เหมาะกับวิถีชีวิตของผู้ฝาก มีบริการสินเชื่อที่ผู้กู้ไม่ต้องแสดงหลักฐานรายได้ และได้รับอนุมัติอย่างรวดเร็ว 

รวมถึงมีบริการเพื่อ SMEs รายย่อย อย่างบริการเชื่อมบัญชีเงินฝากกับระบบทำบัญชีออนไลน์และระบบการออกใบแจ้งหนี้แบบดิจิทัล เพื่อช่วยให้ SMEs รายย่อยสามารถบริหารการเงินได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น ลองมาดูตัวอย่าง Virtual Bank ในต่างประเทศกัน

  • บราซิล 

Nubank เป็นธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาเจ้าแรกๆ ในบราซิล มีเงินทุน 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 49,500 ล้านบาท และมีลูกค้า 35 ล้านคน โดยเริ่มจากการให้บริการบัตรเครดิตที่ไม่คิดค่าธรรมเนียม และยังคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ถึงครึ่งหนึ่ง รวมถึงมีการออกแบบแอปพลิเคชันให้ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว และได้ขยายการให้บริการในด้านอื่นๆ ทั้งบัญชีเงินฝากดิจิทัล บัตรเดบิต และสินเชื่อส่วนบุคคล 

  • สหราชอาณาจักร 

Starling Bank ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาแห่งแรกของสหราชอาณาจักร มีฐานลูกค้ากว่า 2.7 ล้านคน ให้บริการทางการเงินแก่ธุรกิจขนาดเล็กและประชาชนทั่วไป โดยมีการ Customize ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เหมาะกับผู้ใช้บริการแต่ละกลุ่ม ช่วยให้ผู้ใช้บริการจัดการบัญชีเงินฝากของตนเองผ่านแอปพลิเคชันได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ มีการแจ้งเตือนทางโทรศัพท์แบบเรียลไทม์เมื่อมียอดเงินเข้าออก สามารถหักค่าใช้จ่ายแบบอัตโนมัติ รวมถึงการใช้งานในต่างประเทศโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม และให้บริการแบบ 365/24/7 อีกด้วย 

  • เกาหลีใต้ 

Kakao Bank ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ มีจำนวนลูกค้ากว่า 17 ล้านคน และมีผู้ใช้งานถึง 11 ล้านคนต่อเดือน โดยมีฐานลูกค้าเดิมที่ต่อยอดมาจาก Kakao Talk ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันคล้ายกับ LINE ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในเกาหลีใต้ Kakao Bank ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย โดยคิดดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำกว่า ให้ดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่าธนาคารพาณิชย์ดั้งเดิม และยังไม่คิดค่าธรรมเนียมสำหรับบริการด้านอื่นๆ รวมถึงออกแบบการใช้งานที่น่าดึงดูดและใช้งานง่าย ทำให้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก 

แล้วผู้บริโภคควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?

จากทิศทางของระบบการให้บริการทางการเงินที่มีแนวโน้มเป็น Virtual Bank มากขึ้น แนะนำให้ผู้บริโภคเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ดังนี้ 

  • ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล โดยใช้งาน Internet Banking และ Mobile Banking อย่างสม่ำเสมอในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เกิดความคุ้นชิน

  • เรียนรู้วิธีการจัดการเงินใหม่ๆ และวิธีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างปลอดภัย เช่น ตั้งรหัสผ่านให้คาดเดาได้ยาก เปลี่ยนรหัสผ่านทุกๆ 3 เดือน ใช้การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอนเมื่อทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ และไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้กับผู้อื่น

  • ศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สนใจให้แน่ใจก่อนตัดสินใจ เนื่องจากอนาคตผู้บริโภคจะสามารถเข้าถึงและมีทางเลือกมากขึ้นในการใช้บริการทางการเงินที่มีความหลากหลาย อาจได้รับข้อเสนอที่จูงใจ ทั้งที่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากยิ่งขึ้น หรือข้อเสนอที่เกินจำเป็นนำไปสู่พฤติกรรมการเงินที่ไม่พึงประสงค์ได้ เช่น ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากที่สูง ได้รับอนุมัติสินเชื่ออย่างรวดเร็วทันใจในอัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือสามารถทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ โดยไม่มีค่าธรรมเนียม 

หลังจากนี้เราก็คงต้องมาติดตามกันว่าในประเทศไทยเมื่อ ธปท. ได้อนุญาตให้สามารถจัดตั้งได้จริงแล้วนั้น จะมีรายใดได้ใบอนุญาตบ้าง ? และ Virtual Bank จะมาเปลี่ยนโลกการเงินในปัจจุบันได้อย่างไร รวมทั้งผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพมากน้อยแค่ไหน ? ซึ่งหากดูในต่างประเทศจะเห็นได้ว่า Virtual Bank ไม่ใช่เรื่องใหม่ และในเอเชียมี Virtual Bank ที่ให้บริการแล้วอยู่ไม่น้อยเลย ซึ่งผู้บริโภคก็ได้รับบริการที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ดังนั้นคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า Virtual Bank ในประเทศไทยจะเป็นอย่างไรในวันที่ "สาขา" อาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไป....

อ้างอิง  BOT ,KBank , CAF

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

วาฬหัวทุย คุยอะไรกัน? นักวิจัยใช้ AI ถอดภาษาวาฬ พบโครงสร้างเสียงซับซ้อนคล้ายภาษามนุษย์ ปรับเสียงได้ตามเรื่องที่คุย

วาฬหัวทุย หรือ วาฬสเปิร์ม นอกจากจะมีลักษณะพิเศษในเรื่องของสมองที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์ วิธีการสื่อสารระหว่างกันเองโดยใช้ ‘เสียงคลิก’ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ให้ควา...

Responsive image

รู้หรือไม่? Netflix ไม่เคยทำจาน แต่เคยทำกล่อง ที่ยกเลิกการขายในนาทีสุดท้าย

Netflix เคยพัฒนา Set-top box ใน Project Griffin ซึ่งเป็นกล่องรับสัญญาณที่ Netflix สร้างขึ้นเพื่อสตรีมภาพยนตร์และรายการทีวีต่างๆ...

Responsive image

Krungsri Finnovate หนุนการสร้างบุคลากรสายเทค เพื่อให้ประเทศไทยเป็นดิจิทัลฮับของภูมิภาค

กรุงศรี ฟินโนเวต นำกองทุน ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ เข้าลงทุนใน Doppio Tech เพื่อสนับสนุนการสร้างบุคลากรสายเทคให้เติบโต เร่งสปีดดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน...