ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับความเห็นชอบให้จัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) อย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 19 มิถุนายน 2568 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ของธนาคารแบบดั้งเดิม
โดยจากการพิจารณาคำขออนุญาตทั้งหมด 5 ราย มีเพียง 3 กลุ่มกิจการที่ผ่านหลักเกณฑ์ และได้รับความเห็นชอบ ได้แก่
เป้าหมายหลักของการเปิดตัว Virtual Bank ในครั้งนี้ คือการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัล และที่สำคัญคือการเปิดโอกาสให้ กลุ่มลูกค้ารายย่อย (Retail) และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ยังไม่ได้รับบริการทางการเงินที่เหมาะสมหรือยังเข้าไม่ถึงบริการในปัจจุบัน ให้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้ง่ายขึ้นผ่านช่องทางดิจิทัลเต็มรูปแบบ
จากข้อมูลของ ธปท. ชี้ให้เห็นช่องว่างสำคัญในระบบการเงินไทยที่ Virtual Bank จะสามารถเข้ามาช่วยแก้ไขได้ทั้งหมด 3 ข้อ ได้แก่
โดย Virtual Bank ซึ่งเน้นดำเนินงานผ่านช่องทางดิจิทัลเต็มรูปแบบ จะมีต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่า สามารถเสนอบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่ม unserved และ underserverd ได้ดีขึ้น
ธปท. คาดหวังว่า Virtual Bank จะเข้ามาเป็นผู้เล่นรายใหม่ที่ช่วยกระตุ้นการแข่งขันในระบบธนาคาร ทั้งในด้านคุณภาพ ราคา และนวัตกรรม ซึ่งท้ายที่สุดแล้วประโยชน์จะตกอยู่กับผู้ใช้บริการและระบบเศรษฐกิจไทยโดยรวม โดยไม่สร้างความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบการเงินของประเทศ
เพื่อให้ได้ Virtual Bank ที่สร้างประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจการเงินไทยได้อย่างยั่งยืนตามเป้าหมายข้างต้น ธปท. จะพิจารณาคำขออนุญาต โดยให้ความสำคัญกับคุณสมบัติ ศักยภาพ และความสามารถของผู้ขออนุญาตในการประกอบธุรกิจ Virtual Bank ตามรูปแบบและแผนที่เสนอมา ดังนี้
บริษัท เอซีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด (ACM HOLDING COMPANY LIMITED) ได้รับการจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดภายใต้เลขทะเบียนนิติบุคคล 0105561132678 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2561 ด้วยทุนจดเบียนสูงถึง 8,245 ล้านบาท
ตามรายงานของ Bloomberg ระบุว่า บริษัท เอซีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด (ACM Holding Co., Ltd.) เป็นส่วนหนึ่งของ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย โดยเครือซีพีได้รุกเข้าสู่ธุรกิจการชำระเงิน และบริการทางการเงินดิจิทัลผ่านหน่วยงานฟินเทคอย่าง บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ (Ascend Money) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจ "ทรูมันนี่" (TrueMoney)
กลุ่มพันธมิตรยักษ์ใหญ่นี้ เป็นการรวมพลังของธนาคารรัฐที่มีความน่าเชื่อถือสูง (KTB), ผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ (AIS) และเครือข่ายค้าปลีกน้ำมัน และร้านกาแฟที่ครอบคลุมทั่วประเทศ (OR)
กลยุทธ์หลักคาดว่าจะเป็นการต่อยอดจากฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่มหาศาล และใช้ประโยชน์จากจุดบริการออฟไลน์เพื่อนำเสนอบริการดิจิทัล
กลุ่มนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินของไทย (SCBX) กับพันธมิตรต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการทำธุรกิจธนาคารดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในต่างประเทศอย่าง WeTechnology Limited (Webank) จากจีน และ KakaoBank Corp. จากเกาหลีใต้
ผู้ที่ได้รับความเห็นชอบทั้ง 3 ราย จะต้องดำเนินการจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัดให้แล้วเสร็จ และปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ที่กำหนด รวมถึงต้องผ่านการประเมินความพร้อมจาก ธปท. ในขั้นตอนสุดท้าย ก่อนจะสามารถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ภายใน 1 ปี นับจากวันที่ได้รับความเห็นชอบ หรือภายในวันที่ 19 มิถุนายน 2569
ในอนาคตอาจมีการเปิดรับสมัครขอใบอนุญาตต่อไป โดย ธปท. และกระทรวงการคลังจะประเมินผลการดำเนินงานของ Virtual Bank ชุดแรกอย่างใกล้ชิด และหากเห็นว่าควรมีผู้เล่นรายใหม่เพิ่มเติมเพื่อประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจ ก็อาจพิจารณา เปิดรับคำขออนุญาตรอบต่อไปในอนาคต
ข้อมูลอ้างอิง :
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด