ตายเยอะจนไม่มีที่ฝัง เมื่อสุสานไม่พอสำหรับคนจีนที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้มีราคาแพง รัฐบาลจีนจึงแก้ปัญหานี้ด้วย สุสานดิจิทัล
ตามขนบประเพณีจีนจะต้องฝังร่างของผู้ตายไว้ใต้ผืนดิน แต่เมื่อพื้นที่การสร้างสุสานไม่เพียงพอ รัฐบาลจึงผลักดันให้ใช้วิธีการเผาและฝังเฉพาะเถ้ากระดูกแทน
อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็วและจำนวนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้น คนเสียชีวิตมากขึ้นทำให้พื้นที่ฝังกลางแจ้งเริ่มขาดแคลนและมีราคาแพง และรัฐบาลจีนแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้เทคโนโลยี
แทนที่จะใช้หลุมฝังศพ มีแผ่นหินใหญ่ที่จารึกชื่อแซ่ผู้ตาย ที่สุสานไท่ซีหยูในกรุงปักกิ่ง มีตู้เก็บอัฐิที่มีประตูตู้เป็นจอ LCD ฉายภาพหรือวิดีโอของผู้ล่วงลับ เป็นทางเลือกใหม่ราคาไม่แพงให้กับครอบครัว โดยตั้งแต่ต้นปี 2023 ที่ดินดิจิทัลนี้ขายได้แล้วกว่า 500 แห่ง
ตามรายงานจาก SunLife บริษัทประกันชีวิตในสหราชอาณาจักร งานศพโดยเฉลี่ยในจีน มีค่าใช้จ่าย ประมาณ 5,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 188,000 บาท) และผู้คนใช้จ่ายมากกว่า 45% ของเงินเดือนเฉลี่ยต่อปีเพื่อจัดงานศพ ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของทั้งโลกอยู่เพียงที่ 10%
ด้วยปัญหานี้ทำให้ทางการของจีนและรัฐบาลท้องถิ่นต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อลดต้นทุนและลดปัญหาที่ฝังศพขาดแคลน นอกจากประหยัดพื้นที่และงบประมาณแล้ว บางครอบครัวยังรู้สึกว่าสุสานดิจิทัลแบบนี้ให้ความรู้สึกว่าพวกเขาได้มาเยี่ยมผู้ตายจริงๆ ไม่ใช่ไปยืนอยู่หน้าหลุมเปล่าๆ
ที่เมืองเซี่ยงไฮ้มีสุสานออนไลน์ชื่อ Fu Shou Yuan อนุญาตให้ผู้คนทำการฝังศพเสมือนจริง (Virtual Burial) ในโครงการ ‘Heaven on the Cloud’ หรือสวรรค์บนคลาวด์ ที่ให้ครอบครัวของผู้ตาย สร้างเกาะเสมือนจริง ด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล รูปภาพ และไฟล์เสียงของผู้ตายได้
ด้านรัฐบาลจีนตั้งเป้าจะลดพื้นที่การใช้งานสุสานสาธารณะให้เหลือเพียงประมาณ 70% ภายในปี 2035
นอกจากสุสานแบบดิจิทัลแล้ว ที่ปักกิ่งยังมีโครงการ "ฝังศพสีเขียว" ฝังขี้เถ้าของผู้เสียชีวิตโดยไม่ต้องมีหลุมศพหรือสุสาน แบบไม่มีค่าใช้จ่าย โดยครอบครัวจะได้รับแผ่นจารึกที่ระลึกพร้อมรหัส QR ที่สามารถสแกนเพื่อเข้าถึงข้อมูลของผู้เสียชีวิตได้ตลอดเวลา รัฐบาลยังสนับสนุนให้ครอบครัวผู้ตายโปรยขี้เถ้าลงทะเลอีกด้วย
ที่มา : Business Insider, Bloomberg
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด