Walmart Inc ผู้ค้าปลีกรายใหญ่แห่งสหรัฐ ทำข้อตกลงกับ Paramount Global เพื่อนำเสนอบริการสตรีมมิงจาก Paramount+ เพื่อเป็นสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกของโปรแกรม Membership Program’s Subscribers (Walmart+) เพื่อแข่งขันกับบริการสตรีมมิง “Prime” ของผู้ค้าปลีกอีกรายอย่าง Amazon ที่มีธุรกิจสตรีมมิงในมือเช่นเดียวกัน
ปัจจุบันสมาชิก Walmart+ มีประมาณ 11 ล้านถึง 32 ล้านคนตามการประมาณการจาก Consumer Intelligence Partners และ Deutsche Bank เดิมทีการเป็นสมาชิก Walmart+ จะมีค่าใช้จ่าย $12.95 ต่อเดือนหรือ $98 ต่อปีและรวมค่าจัดส่งฟรีสำหรับการสั่งซื้อ ส่วนลดสำหรับ Walmart Gas Stations บริการ Scan&Go Service ที่ร้านทุกสาขา รวมถึงการสมัครบัญชีแบบพรีเมียมของ Spotify ฟรีอีกหกเดือน โดยหลังจากนี้สมาชิกของ Walmart+ จะสามารถเข้าใช้บริการของ Paramount+ ได้ในระดับในระดับ Essential Plan ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ $4.99 ต่อเดือนและรวมโฆษณา นอกจากนี้ยังมีบริการ $9.99 ต่อเดือนโดยไม่มีโฆษณา
โดยแผน Paramount+ Essential จะทำให้สมาชิก Walmart+ สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลของ Paramount+ ที่มีคอนเทนต์ทั้งซีรีส์ดั้งเดิมและภาพยนตร์ยอดนิยมจากแบรนด์และสตูดิโอการผลิต เช่น "1883" และ "Star Trek: Strange New Worlds" ไปจนถึง "PAW Patrol" แฟรนไชส์เด็กก่อนวัยเรียนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก รวมถึงคอนเทนต์การถ่ายทอดสดกีฬา BET, Comedy Central และ Nickelodeon รวมถึงลีกกีฬาหลายแห่ง เช่น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกส์ โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไปทั่วสหรัฐฯ
สำนักข่าว Reuters ระบุว่าการร่วมมือของ Walmart มีจุดประสงค์เพื่อการแข่งขันกับ Amazon ได้มากขึ้นด้วยการเพิ่มองค์ประกอบการสตรีมความบันเทิงที่ Walmart ตามหลังอยู่ ปัจจุบัน Amazon ให้บริการจัดส่งฟรี รวมถึงบริการสตรีมมิงคอนเทนต์ประเภทต่าง ๆ ทั้งวิดิโอ ภาพยนตร์ เกม เพลง และการเข้าใช้งาน Amazon's Library ปัจจุบัน มีสมาชิกประมาณ 200 ล้านคน โดยการเป็นสมาชิก Amazon Prime มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ $14.99 ต่อเดือนหรือ $139 ต่อปี ซึ่งจัดว่ามีราคาที่สูงกว่า Walmart
Chris Cracchiolo รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของ Walmart+ กล่าวว่า "เราทราบดีว่า Walmart+ มอบคุณค่าที่แท้จริงของสมาชิกในทุกๆ วัน Paramount+ จะช่วยให้สมาชิกประหยัดได้มากขึ้นและได้รับความบันเทิงที่มากขึ้น Paramount+ มีเนื้อหาระดับพรีเมียมและดึงดูดใจในวงกว้างที่สมาชิกของเรากำลังมองหา เช่นเดียวกับ Walmart พวกเขามีบางอย่างสำหรับทุกคน เรารู้สึกตื่นเต้นกับการเปิดตัวและสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปสำหรับ Walmart+”
เป็นที่น่าจับตามองต่อไปว่าผู้ค้าปลีกที่จับธุรกิจสตรีมมิงจะมีความจริงจังในตลาดคอนเทนต์อย่างไรต่อไป หากพิจารณาจากรุ่นพี่อย่าง Prime Video ที่รุกสตรีมมิ่งเต็มที่โดยการหันมาลงทุนสร้างออริจินอลคอนเทนต์ทของแพลตฟอร์มตนเอง ล่าสุดอย่าง The Lord of The Rings Series ที่ลงทุนกว่า 400 ล้านกว่าดอลลาร์ และมีแผนที่จะร่วมมือกับผู้ผลิตซีรีส์และภาพยนตร์ตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อนำเสนอ Localize Content อีกจำนวนมากหลังจากนี้
อ้างอิงข้อมูลจาก
Walmart Delivers New Benefit for Walmart+ Members: A Paramount+ Subscription at No Extra Cost
Walmart enters streaming deal with Paramount+ in race with Amazon
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด