OpenAI ส่อแววดราม่า หลังนักวิจัยมือทอง ผู้ร่วมก่อตั้งลาออก เกิดอะไรขึ้นภายใน ?

ส่อแววเกิดดราม่าใน OpenAI อีกครั้ง ! หลังการเปิดตัว GPT-4o เพียงแค่ 1 วัน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอย่าง Ilya Sutskever ก็ลาออกจากบริษัท และล่าสุด Jan Leike นักวิจัยคนสำคัญของ OpenAI ก็เพิ่งประกาศลาออก พร้อมเปรยทิ้งท้ายผ่าน X ว่าบริษัทเริ่มให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ล้ำๆ มากว่าความปลอดภัยด้าน AI

ย้อนรอยดราม่า Sam Altman 

การลาออกของผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทและนักวิจัยคนสำคัญในเวลาไล่เลี่ยกันยิ่งตอกย้ำถึงความขัดแย้งภายใน OpenAI หรือบริษัทผู้พัฒนา ChatGPT 

หากทุกคนยังจำได้ เมื่อปลายปีที่แล้วก็มีมหากาพดราม่าที่ CEO อย่าง Sam Altman ถูกบอร์ดบริหารถอดชื่อออกจากตำแหน่ง จนเขาต้องย้ายไปซบอก Microsoft อยู่พักหนึ่ง และหนึ่งในสมาชิกบอร์ดตัดสินใจที่ถอด Altman ออกก็คือ Ilya Sutskever 

ส่วนเหตุผลที่ปลด Altman เมื่อปีที่แล้วยังไม่มีการระบุแน่ชัด แต่ Reuters อ้างแหล่งข่าวที่รู้เรื่องนี้ ระบุว่าก่อนจะมีการตัดสินใจไล่ Altman ออก กลุ่มนักวิจัยได้ส่งข้อมูลให้บอร์ดเตือนภัยเรื่องการค้นพบปัญญาประดิษฐ์ทรงพลังที่อาจคุกคามมนุษยชาติ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่บอร์ดตัดสินใจขับไล่เขา

ตอนนี้แม้ทาง Sutskever จะไม่ได้เปิดเผยถึงสาเหตุการลาออกที่แน่ชัด แต่เป็นไปได้หรือไม่ว่าการลาออกของเขาจะเกี่ยวข้องกับความไม่ไว้วางใจระหว่างเขากับ Altman ส่งผลให้ทั้งคู่ทำงานด้วยกันต่อไปไม่รอด

เป้าหมาย OpenAI เปลี่ยนไป กลายเป็นจุดแตกหัก

ก่อนหน้านี้แนวคิดสำคัญที่ OpenAI ยึดถือ คือ การแบ่งปันโมเดล AI ของตนอย่างเปิดเผยกับสาธารณะ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแนวคิดของบริษัทจะเริ่มเปลี่ยนไป 

ข้อมูลจากสำนักข่าว Wired รายงานว่า OpenAI ได้ยุบทีม Superalignment ที่ Jan Leike เป็นหัวหน้าทีม ซึ่งเป็นทีมที่ทำหน้าที่จัดการความเสี่ยงและดูแลความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ด้าน AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ OpenAI ทำงานเพื่อสร้าง AI ที่สามารถคิดและหาเหตุผลได้เหมือนมนุษย์

หลังจากการยุบทีม Leike ก็โพสต์เชิงตัดพ้อลง X ว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา OpenAI เริ่มให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ล้ำๆ มากว่าความปลอดภัยด้าน AI”  นอกจากนี้เธอยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการความเสี่ยงของ AI ขั้นสูง (AGI) อย่างจริงจัง เพื่อให้แน่ใจว่า AGI จะเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ

การเปลี่ยนจุดโฟกัสในครั้งนี้ทำให้เกิดความตึงเครียดภายในบริษัทเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่นักวิจัยของ OpenAI ทำงานเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI และผลิตภัณฑ์ยอดนิยม เช่น ChatGPT และ DALL-E  ด้านทีมของ Leike กลับถูกลดความสำคัญลงและไม่ได้รับการสนับสนุนด้านทรัพยากรอื่นๆ เพื่อทำงานที่ "สำคัญ" ได้

จนสุดท้าย Leike ก็ออกมาโพสต์อีกครั้งว่า “ฉันมาทำงานที่นี่ เพราะฉันคิดว่า OpenAI จะเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกในการทำวิจัยนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ฉันไม่เห็นด้วยกับการจัดลำดับความสำคัญของบริษัทมาระยะหนึ่งแล้ว จนกระทั่งในที่สุดเราก็มาถึงจุดแตกหัก”

อ้างอิง: techcrunch, theverge

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

KBank นำทัพคว้า 4 รางวัลด้านเทคโนโลยีระดับภูมิภาคจาก ASEAN Business Awards & IDC Future Enterprise Awards 2025

เป็นอีกปีที่สะท้อนความสำเร็จในสเกลที่ใหญ่และภาคภูมิยิ่งขึ้นของ ธนาคารกสิกรไทย (KBank) เพราะไตรมาสท้ายของปี 2025 คว้า 4 รางวัลด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี จากเวทีระดับภูมิภาค ASEAN Busin...

Responsive image

BOI ไฟเขียวลงทุนส่งท้ายปี! อนุมัติ Data Center 11 โครงการ มูลค่ากว่า 1.8 แสนล้านบาท ดันไทยสู่ Digital Hub เต็มตัว

BOI ภายใต้การนำของคุณเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประกาศอนุมัติการลงทุนครั้งสำคัญส่งท้ายปี โดยมียอดเงินลงทุนรวมกว่า 7,500 ล้านดอลลาร์...

Responsive image

OpenAI ดึงอดีต CEO Slack ‘Denise Dresser’ นั่งแท่น Chief Revenue Officer เร่งปั่นรายได้กลางสมรภูมิ AI

OpenAI แต่งตั้ง Denise Dresser อดีต CEO ของ Slack เป็น Chief Revenue Officer คนแรก เร่งสร้างรายได้ เดินเกมรุกตลาดองค์กร พร้อมส่งสัญญาณเปลี่ยนผ่านสู่แพลตฟอร์ม AI เชิงพาณิชย์เต็มรูป...