เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคครั้งใหญ่บนอินเทอร์เน็ตทั่วโลกในช่วงบ่ายวันนี้ ส่งผลให้แอปพลิเคชันและเว็บไซต์ยอดนิยมจำนวนมากไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยรายงานล่าสุดจาก BBC และ DownDetector ระบุว่า บริการชื่อดังอย่าง Snapchat, Duolingo, Roblox, Zoom, Canva, Slack, Signal, Wordle, Pokémon Go, Fortnite, PlayStation Network และ HMRC ต่างได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวาง
เว็บไซต์ DownDetector ซึ่งติดตามการแจ้งปัญหาจากผู้ใช้ทั่วโลก รายงานว่ามีผู้ใช้ Snapchat มากกว่า 5,000 ราย แจ้งปัญหาภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง และจำนวนการร้องเรียนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บริษัท Amazon Web Services (AWS) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์รายใหญ่ของโลก และอยู่ภายใต้เครือ Amazon ออกแถลงการณ์ว่า ขณะนี้ระบบในศูนย์ข้อมูลหลักของบริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐ เวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา (US-EAST-1) กำลังมีปัญหา ทำให้หลายบริการของ AWS ทำงานช้าหรือขัดข้อง
AWS ระบุว่า “ทีมวิศวกรกำลังเร่งแก้ไขปัญหาและตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อให้ระบบกลับมาทำงานได้ตามปกติเร็วที่สุด”
ต่อมา AWS ได้อัปเดตเพิ่มเติมว่า “พบสาเหตุเบื้องต้นว่าอาจเกี่ยวข้องกับระบบฐานข้อมูลชื่อ DynamoDB ที่ใช้เก็บและประมวลผลข้อมูลของหลายเว็บไซต์ทั่วโลก ขณะนี้กำลังดำเนินการกู้คืนระบบหลายวิธีพร้อมกัน เพื่อให้บริการกลับมาปกติในเวลาอันใกล้”
เริ่มมีรายงานปัญหาจากผู้ใช้ในยุโรปและเอเชีย บริการยอดนิยมอย่าง Snapchat, Roblox, Fortnite, Duolingo, Canva เริ่มใช้งานไม่ได้ และเว็บไซต์ DownDetector แสดงกราฟการร้องเรียนพุ่งสูงผิดปกติ
ผู้ใช้จากทั่วโลกเริ่มรายงานปัญหาพร้อมกัน หลายเว็บไซต์และแอปใหญ่ล่มพร้อมกัน เช่น Snapchat, Canva, Wordle, Zoom, Slack บนเว็บ DownDetector แสดงสถานะ Outage
บริษัท Amazon Web Services (AWS) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์รายใหญ่ของโลก
ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ระบบของตนกำลังมีปัญหาในศูนย์ข้อมูลหลักที่ตั้งอยู่ใน รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา (ศูนย์ US-EAST-1)
AWS ระบุว่าพบปัญหาการทำงานผิดพลาดและความล่าช้าเพิ่มขึ้นในหลายบริการของบริษัท โดยบริการที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ DynamoDB ระบบจัดเก็บข้อมูลออนไลน์ (เหมือนฐานข้อมูลที่ใช้เก็บข้อมูลผู้ใช้และเนื้อหาของแอป), Elastic Compute Cloud (EC2) ระบบที่ให้บริษัทต่างๆ เช่าคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์จาก Amazon เพื่อใช้รันเว็บไซต์และแอปของตน
ตามรายงานของ AWS เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลต่อ AWS Service ทั้งหมด 51 Services ดูข้อมูลเต็มๆ ได้ที่นี่ https://health.aws.amazon.com/health/status
สำหรับแอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มที่ได้รับผลกระทบต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทั่วโลกนิยมใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ธนาคารหลายแห่งก็ล่มตามไปด้วย เช่น Bank of Scotland, Lloyds, Halifax ทำให้ไม่สามารถล็อกอินใช้งานได้ โดยสำหรับธนาคารในประเทศไทยยังไม่พบปัญหาใด
หลายคนอาจสงสัยว่า แค่ระบบของบริษัทหนึ่งล่ม ทำไมถึงส่งผลไปทั่วโลกขนาดนี้ ?คำตอบอยู่ที่บทบาทของ AWS เป็นบริษัทในเครือของ Amazon ที่ให้บริการระบบคลาวด์ พูดง่าย ๆ คือ เป็นเหมือนศูนย์คอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ที่ให้บริษัทต่าง ๆ เช่าใช้ เพื่อรันเว็บไซต์และแอปของตนเอง
แทนที่บริษัทจะต้องซื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์เอง (ซึ่งแพงมากและดูแลยาก) พวกเขาก็แค่เช่าใช้ระบบของ AWS แทน เช่น เก็บข้อมูลผู้ใช้, ประมวลผลการทำงานของแอป, ส่งข้อมูลให้ผู้ใช้งานทั่วโลก เป็นต้น
พอ AWS ล่ม อินเทอร์เน็ตก็ล่มตาม ปัญหาคือ ตอนนี้มีบริษัททั่วโลกนับล้านรายที่ใช้บริการของ AWS
ตั้งแต่แอปยอดนิยมอย่าง Snapchat หรือ Duolingo ไปจนถึงเว็บไซต์ราชการและระบบธนาคารบางแห่ง
ดังนั้นเมื่อศูนย์ข้อมูลของ AWS (โดยเฉพาะศูนย์หลักในรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐฯ) มีปัญหา เว็บไซต์และแอปที่พึ่งพาระบบนี้ก็ล่มพร้อมกันเหมือนโดมิโน
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า สาเหตุที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดบ่อยขึ้น เป็นเพราะโลกออนไลน์ทุกวันนี้เชื่อมโยงกันมากเกินไป หลายบริการใหญ่ใช้ระบบจากผู้ให้บริการรายเดียวกัน เช่น AWS, Google Cloud หรือ Microsoft Azure ดังนั้นเมื่อรายใดรายหนึ่งมีปัญหา แม้เพียงไม่กี่นาที ผลกระทบก็สามารถกระจายไปทั่วโลก
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด