ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจสร้างความสูญเสียในทรัพยากรรวมไปถึงสถาบันการเงินหลักแห่งชาติ หนึ่งในสิ่งที่เกิดขึ้นคือการเข้ามามีบทบาทของ Cryptocurrency ในการระดมทุนช่วยเหลือหรือที่เรียกว่า Crypto Donation ซึ่งเป็นกรณีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าเงินสดหรือทองคำอาจไม่ใช่สิ่งที่จะช่วยเหลือประเทศที่ประสบวิกฤติในสงครามยุคใหม่อีกต่อไป
เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สงครามยูเครน-รัสเซียที่ระอุขึ้นส่งผลให้ยูเครนเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจชะงักและความอดอยาก รัฐบาลของยูเครนได้ประกาศรับบริจาคเงินทุนจากนานาชาติทาง Wallet Address เป็นสกุลเงิน Bitcoin, Ethereum และ USDT/USDC ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ @Ukraine นี่นับเป็นครั้งแรกที่องค์กรของรัฐบาลกลางได้เข้าถึงโลกของการ Crowdfunding ด้วยสกุลเงิน Cryptocurrency ในยามสงครามสถาบันการเงินหลักและธนาคารแบบดั้งเดิมอาจถูกโจมตีจนไม่สามารถดำเนินงานได้ หรืออาจถูกปิดด้วยกฎอัยการศึก ถ้าเป็นสมัยเมื่อ 50-60 ปีที่แล้ว ยามเกิดสงครามโลก ประชาชนจากชาติต่างๆ จะร่วมบริจาคเงินทุนและเสบียงช่วยเหลือประเทศที่อยู่ฝ่ายเดียวกันผ่านรัฐบาลกลางเข้าสู่พื้นที่สมรภูมิด้วยรัฐบาลกลางของอีกชาติ แต่ปัจจุบันเมื่อเกิด Money digitalization แล้ว ยามสงครามเกิดขึ้นก็ได้กลายเป็นปัจจัยเร่งรัดให้การระดมเงินแบบ Crypto Donation กลายมาเป็นสิ่งจำเป็น
ปัจจุบันเงินทุนของยูเครนที่ได้รับจาก Crypto Donation ระหว่างสงครามตอนนี้มีจำนวนไม่น้อย ซึ่ง ณ ขณะเขียน (7 มี.ค. 2565) มียอดรับการบริจาคทั้งสิ้น 54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแบ่งเป็น Bitcoin มูลค่า 18.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ Ethereum มูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเหรียญประเภท Stablecoin อีกมูลค่า 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งหมดนี้เป็นมูลค่าที่วัดผ่านเครื่องมือ Dune Analytics โดยมีกระดานเทรดชื่อดังของยูเครน Kuna.io ได้กลายเป็นเสมือนหน่วยงานหลักของชาติที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนเงินในเวลานี้
การบริจาคเงินแบบ Crypto Donation เป็นการโอนเงินแบบ P2P-Lending หรือ กู้ยืมระหว่างบุคคลทั่วไปผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยไม่ผ่านตัวกลางอย่างธนาคารอีกต่อไป บุคคลทั่วไปจะสามารถกู้ยืมเงินกันเองได้โดยตรงและเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้สะดวกขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการกระจายความเท่าเทียมให้ทุกคนได้เข้าถึงเงินทุนเพื่อใช้ประโยชน์ได้อย่างตรงจุด การบริจาคแบบ Crypto Donation ยังมีข้อดีอีกอย่างตรงที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการโอนที่สูงหรือเปิดเผยข้อมูลความปลอดภัยใดๆ ใน Wallet address ทุกคนสามารถตรวจสอบยอดเงินบริจาคได้ตลอดเวลา ข้อมูลธุรกรรมจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยใครคนใดคนหนึ่งซึ่งช่วยสร้างความโปร่งใสทางการเงินในรูปแบบใหม่
ขณะเดียวกันเป็นที่น่าสังเกตว่าบัญชี Twitter ที่เชิญชวนให้บริจาคมีจำนวนเยอะขึ้นมากจนกลายเป็นแคมเปญเกิดขึ้นทั่วโลกในเวลาแค่ไม่กี่วัน ตรงจุดนี้ทุกคนต้องสังเกตให้รอบคอบว่าบัญชีที่เปิดรับบริจาคนั้นเป็นของหน่วยงานใด หรือไว้ใจได้หรือไม่ก่อนบริจาค
อ้างอิง Techcrunch, CNBC
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด