Netflix ลดจำนวนรายการใหม่ สั่งคัดออกไปมากกว่า 100 รายการ

ผู้บริโภคว่ายังไง คุ้มหรือไม่คุ้ม ? เมื่อสตรีมมิ่งเจ้าดังอย่าง Netflix ที่เคยปรับราคาค่าบริการขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุด ปรับลดจำนวนรายการใหม่ที่จะออกฉายบนแพลตฟอร์ม และคัดออกไปมากกว่า 100 รายการ

ทำไม Netflix ปรับลดหมด ยกเว้นราคา

แนวโน้มการลดต้นทุนนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2022 บริษัทสื่อใหญ่หลายแห่งเริ่มปรับลดพนักงานและพยายามลดต้นทุน เช่น Walt Disney Co. และ Warner Bros. Discovery ที่ได้เลิกจ้างพนักงานหลายพันคน และลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ลงหลายพันล้านดอลลาร์

ในช่วงเวลาเดียวกัน Netflix เองก็ได้เผชิญกับปัญหาลูกค้าน้อยลง และทำรายได้ไม่ดีเท่าเดิม แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการเลิกจ้างอย่างเต็มสูบ มีเพียงแค่ปรับลดพนักงานบางส่วนและหยุดเพิ่มงบประมาณในการดำเนินงาน 

ซึ่งทำให้ในปี 2023 Netflix เปิดตัวรายการและภาพยนตร์ใหม่น้อยลง 130 รายการ ซึ่งลดลงถึง 16% ทั้ง ๆ ที่ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา Netflix ทำรายการใหม่มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในปี 2023 กลับผลิตลดลงในทุก ๆ ไตรมาสของปี ทำให้ในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2023 Netflix มีรายการออกใหม่น้อยที่สุดในรอบ 5 ปี 

แน่นอนว่าสาเหตุหลักนั้นมาจากการประท้วงหยุดงานของนักเขียนและนักแสดง ที่ทำให้การทำงานหยุดชะงัก รวมถึงการทำข้อตกลงใหม่กับนักเขียนและนักแสดง ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แม้ Netflix จะปฏิเสธว่า การประท้วงไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก แต่ก็เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่มีการประท้วงในช่วงครึ่งปีหลัง มีการเปิดตัวซีรีส์น้อยลงประมาณ 60 เรื่อง ซึ่งลดลงประมาณ 25% (ตามข้อมูลจาก What's On Netflix)

อาจพูดได้ว่าตอนนี้ Netflix กำลังเจอกับปัญหารายได้ลด ต้นทุนสูง จนทำให้ไม่สามารถผลิตเนื้อหาใหม่ ๆ ลงบนแพลตฟอร์มได้มากเหมือนที่เคยทำมา

การปรับลดรายการใหม่จะส่งผลในปี 2024 หรือไม่ ?

สถานการณ์ที่ Netflix กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการปรับลดรายการใหม่ไปอีก 2-3 ปี รายการที่วางแผนจะออกฉายในปี 2024 และ 2025 มีหลาย ๆ รายการได้ถูกเลื่อนออกไป และมีรายการบางส่วนที่ถูกยกเลิกแล้ว

คาดว่านี่จะไม่ใช่การปรับลดเพียงชั่วคราว Scott Stuber หัวหน้าฝ่ายภาพยนตร์ของ Netflix เผยว่า มีแผนที่จะสร้างโปรเจ็กต์น้อยลง เพื่อทุ่มเทพัฒนาให้แต่ละโปรเจ็กต์มีคุณภาพสูงขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่บริษัทหวังว่าจะสร้างรายได้จากคุณภาพของงาน ไม่ใช่การเน้นที่ปริมาณ

ปัจจุบัน Netflix เป็นเครือข่ายทีวีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แม้ว่า Netflix จะมีรายการและภาพยนตร์น้อยลง แต่ก็ถือว่าเป็นบริษัทที่ผลิตรายการจำนวนมากกว่าบริษัทอื่น ๆ ดังนั้น ลูกค้าอาจไม่สังเกตเห็นด้วยซ้ำว่าแพลตฟอร์มนี้มีจำนวนรายการน้อยลงกว่าเดิม

ถ้าเป็นแบบนี้ในฐานะของผู้บริโภคมองว่าอย่างไร เมื่อเสียเงินแพงขึ้น แต่มีจำนวนคอนเทนต์ให้รับชมน้อยลงกว่าเดิม จะยังคุ้มค่าที่จะจ่ายอยู่หรือเปล่า ?

อ้างอิง: bloomberg

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

KBank นำทัพคว้า 4 รางวัลด้านเทคโนโลยีระดับภูมิภาคจาก ASEAN Business Awards & IDC Future Enterprise Awards 2025

เป็นอีกปีที่สะท้อนความสำเร็จในสเกลที่ใหญ่และภาคภูมิยิ่งขึ้นของ ธนาคารกสิกรไทย (KBank) เพราะไตรมาสท้ายของปี 2025 คว้า 4 รางวัลด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี จากเวทีระดับภูมิภาค ASEAN Busin...

Responsive image

BOI ไฟเขียวลงทุนส่งท้ายปี! อนุมัติ Data Center 11 โครงการ มูลค่ากว่า 1.8 แสนล้านบาท ดันไทยสู่ Digital Hub เต็มตัว

BOI ภายใต้การนำของคุณเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประกาศอนุมัติการลงทุนครั้งสำคัญส่งท้ายปี โดยมียอดเงินลงทุนรวมกว่า 7,500 ล้านดอลลาร์...

Responsive image

OpenAI ดึงอดีต CEO Slack ‘Denise Dresser’ นั่งแท่น Chief Revenue Officer เร่งปั่นรายได้กลางสมรภูมิ AI

OpenAI แต่งตั้ง Denise Dresser อดีต CEO ของ Slack เป็น Chief Revenue Officer คนแรก เร่งสร้างรายได้ เดินเกมรุกตลาดองค์กร พร้อมส่งสัญญาณเปลี่ยนผ่านสู่แพลตฟอร์ม AI เชิงพาณิชย์เต็มรูป...