การใช้ AI ในวงการบันเทิงกลายเป็นประเด็นร้อนแรง หลังอุตสาหกรรมภาพยนตร์และทีวีเริ่มใช้ AI ในการผลิตงานอย่างการเขียนบท หรือการ Generate นักแสดงขึ้นมา ทำให้เกิดความไม่ลงรอยกันระหว่างกลุ่ม สมาพันธ์ผู้ผลิตภาพยนตร์และโทรทัศน์ (AMPTP: ตัวแทนของสตูโอผลิตหนังเจ้าใหญ่ เช่น Disney หรือ Netflix) และสมาคมนักเขียนแห่งอเมริกา (WGA) ร่วมกับสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ (SAG)

ข้อโต้แย้งครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเป็นสาเหตุทำให้นักเขียนรวมตัวกันประท้วงด้วยการหยุดงานตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมกลุ่มนักแสดงก็เขาร่วมประท้วงด้วย เพราะรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมทั้งเรื่องค่าตอบแทนและการถูก AI เข้ามาแย่งงาน แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาควบคุมหรือปกป้องพวกเขาเลย 

นายทุนไม่สนใจ เดินหน้าเตรียมตัวใช้ AI ต่อ

ในขณะที่การประท้วงดำเนินต่อไป ทาง Netflix ประกาศจ้างงานในตำแหน่ง Machine learning product manager โดยมีเงินเดือนสูงถึง 300,000 - 900,000 ดอลลาร์ต่อปี แต่ค่าตอบที่นักแสดงของบริษัทได้รับในทุก ๆ ปีกลับน้อยกว่า 26,000 ดอลลาร์ 

Intercept รายงานว่าตำแหน่งงานใหม่ที่บริษัทเปิดรับสมัคร มีหน้าที่โดยรวมคือการพัฒนาการทำงานของ Machine learningให้ดียิ่งขึ้น เพราะนวัตกรรมทั้งหมดของบริษัทล้วนต้องพึ่งพา Machine learning แต่บริษัทก็ไม่ได้มีการระบุถึงคุณสมบัติอย่างชัดเจนว่าต้องการผู้สมัครที่มีทักษะอะไรบ้าง

แต่จากประกาศดูเหมือนว่าบริษัทมีแผนที่จะใช้ AI เข้ามาทำงานในส่วนต่าง ๆ ของธุรกิจ เช่น การให้ AI เรียนรู้ปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้หนังหรือรายการเป็นที่นิยม เพื่อให้มันเข้ามาช่วยปรับปรุงคุณภาพงาน รวมถึงการใช้ AI เพื่อประหยัดเวลาในการถ่ายทำหนังและรายการโทรทัศน์

ล่าสุด Netflix ก็ได้ใช้ AI ผลิตรายการเรียลลิตี้หาคู่ภาษาสเปนชื่อ "Deep Fake Love" โดยใช้การสแกนใบหน้าผู้เขาร่วมรายการเพื่อให้ AI สร้างแบบจำลองผู้เข้าร่วมรายการ 

นอกจาก Netflix แล้วทาง Disney เองก็ได้ประกาศจ้างงานที่เกี่ยวข้องกับ Machine learning อีกหลายตำแหน่งเช่นเดียวกัน ซึ่ง Bob Iger ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Disney มองว่าการขอขึ้นค่าจ้างของนักเขียนและนักแสดงนั้นไม่สมเหตุสมผล เพราะการใช้ AI ก็ช่วยให้ Disney ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและทำให้ลูกค้ามีความสุขมากขึ้นได้เช่นเดียวกัน

อ้างอิง: theguardian