World Bank เผยเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับครึ่งทศวรรษที่ ‘เลวร้ายที่สุด’ ในรอบ 30 ปี โดย GDP เติบโตช้าลงต่อเนื่องและยาวนาน หากไม่มีการแก้ไข มันจะกลายเป็น ‘ทศวรรษที่สูญเปล่าทางโอกาส’

ความขัดแย้งทั่วโลกพาเศรษฐกิจดิ่ง

ในปี 2024 นี้ คาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวต่อเนื่อง ถอยหลังไปที่ 2.4% จาก 2.6% เมื่อปีก่อน ถือเป็นการเติบโตของ GDP รอบ 5 ปี ช้าที่สุดในรอบ 30 ปี และจะกลับมาฟื้นตัวเล็กน้อยในปี 2025 

โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโตช้าในระยะสั้นมาจาก ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่เพิ่มขึ้น ทั้งระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงสงครามในตะวันออกกลาง ความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาพลังงาน ที่อาจส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้จะอ่อนแอที่สุดใน อเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชียกลาง และเอเชียแปซิฟิก โดยสาเหตุหลักมาจากการขยายตัวที่ช้าลงในจีน

ประเทศกำลังพัฒนากระทบหนักสุด จนแล้ว จนอยู่ จะจนต่อ  

ในระยะกลางกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ ประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากการค้าโลกซบเซาและภาวะเงินตึงตัวที่สุดในรอบหลายทศวรรษ จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเติบโต ธนาคารโลกยังคาดว่าภายในสิ้นปี 2024 นี้ ประชากร 1 ใน 4 ของประเทศกำลังพัฒนา และประชากร 40% ของประเทศที่มีรายได้ต่ำ จะจนมากกว่าก่อนโควิดระบาด

ธนาคารโลกยังชี้ว่า โลกล้มเหลวกับเป้าหมายการพัฒนาทศวรรษที่ 2020 ให้เป็นทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลง ในการแก้ปัญหาความยากจนขั้นรุนแรง โรคติดต่อร้ายแรง และการแก้ไขปัญหาสภาพอากาศ แต่ยังมีโอกาสแก้ไขได้ ถ้ารัฐบาลทั่วโลกดำเนินการอย่างรวดเร็วในการเพิ่มการลงทุนและเสริมแกร่งกรอบนโยบายการคลัง

“หากไม่มีการแก้ไขครั้งใหญ่ ทศวรรษปี 2020 จะกลายเป็นทศวรรษแห่งโอกาสที่สูญเปล่า” Indermit Gill หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกลุ่มธนาคารโลกและรองประธานอาวุโสกล่าว 

อ้างอิง : CNBC , World Bank