TIME และ Statista ได้ร่วมกันจัดอันดับ "บริษัทที่ดีที่สุดในโลก" ประจำปี 2024 โดยมีเกณฑ์การตัดสินที่น่าสนใจคือ การสำรวจความพึงพอใจของพนักงาน, การเติบโตของรายได้ และข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

ในช่วง COVID-19 บริษัทต่างๆ หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างความสุขให้กับพนักงาน ทั้งเรื่องของการ Work form home และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่พนักงานจะได้รับ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายและแรงกดดันจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น หลายบริษัทก็หันกลับไปมุ่งเน้นที่ผลกำไรเป็นหลักแต่บริษัทชั้นนำอย่าง Apple, Microsoft และ BMW ยังคงให้ความสำคัญกับความสุขของพนักงาน ซึ่งส่งผลให้พวกเขาติดอันดับต้นๆ ของการจัดอันดับครั้งนี้

Microsoft ได้รับคะแนนสูงเป็นอันดับสองในด้านความพึงพอใจของพนักงาน รองจาก Alphabet บริษัทแม่ของ Google โดย Microsoft ให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานรู้สึก "มีพลังและได้รับการสนับสนุนให้ทำงานที่มีความหมาย" ซึ่งส่งผลดีต่อทั้งความสุขของพนักงานและการเติบโตของรายได้

Apple ก็ได้รับคะแนนสูงในด้านความพึงพอใจของพนักงานเช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาขึ้นสู่อันดับต้น ๆ คือคะแนน ESG ที่โดดเด่น โดย Apple มุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2030 และเพิ่มการใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิต นอกจากนี้ Apple ยังเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่แห่งแรกที่มีความเท่าเทียมทางเพศในคณะกรรมการบริหาร

การจัดอันดับนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะบริษัทเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังมีบริษัทจากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น BMW Group และ Accenture ซึ่งได้รับการยอมรับในด้านการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมควบคู่ไปกับการเติบโตทางธุรกิจและการดูแลพนักงาน

บริษัทชั้นนำเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ความสุขของพนักงานไม่ใช่เพียงแค่สิ่งที่นักลงทุนต้องการ แต่เป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างและขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรในระยะยาว

10 อันดับบริษัทที่ดีที่สุดในโลก

1. Apple
2. Accenture
3. Microsoft
4. BMW Group
5. Amazon
6. Electricite de France
7. American Express
8. Meta Platforms
9. Siemens
10. JPMorganChase

ดูรายละเอียดอันดับเพิ่มเติมที่: Time