Facebook หรือ Meta เตรียมเปิดตัว Digital Currency ที่เรียกว่า "Zuck Buck" สำหรับใช้งานบนแพลตฟอร์มและแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook , Instagram และ WhatsApp โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับกิจกรรมทางการเงิน Digital Currency Lending และเป็นรางวัลแก่เหล่าครีเอเตอร์ในรูปแบบ Virtual Tokens โดยคาดว่าจะกลายเป็นช่องทางในการหารายได้ใหม่และเพิ่มคุณสมบัติใหม่ที่สามารถดึงดูดและรักษาผู้ใช้งาน
จากรายงานระบุว่าแผนการดังกล่าวอยู่ในช่วงเริ่มต้นดำเนินการ โดยมีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลหรือเหรียญ Zuck Buck เพื่อใช้งานหลักในพื้นที่ Metaverse สำหรับการชำระเงินและบริการทางการเงินด้านอื่น ๆ จะทำให้บริษัทสามารถควบคุมธุรกรรมทางการเงินแบบ In-App Tokens ได้แก่ Facebook , Instagram , WhatsApp และแพลตฟอร์มเสมือนจริงของ Meta Quest ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้จะถูกนำมาใช้งานเป็น Creator Coin ในการจ่ายให้กับครีเอเตอร์ใน Instragram หรือผู้ที่มีส่วนร่วมที่สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ใน Facebook Groups โดย Zuck Buck จะถูกควบคุมโดยบริษัทส่วนกลาง คือ Meta Platform Inc. เพื่อใช้ภายในแอพลิเคชั่น ไม่ได้เชื่อมโยงหรืออยู่บนระบบบล็อกเชน มีลักษณะการใช้งานคล้ายสกุลเงินในแอพลิเคชั่นเกม เช่น Robux Currency
รายงานล่าสุดจาก Cointelegraph ระบุ Meta กำลังเจาะลึกในสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนของคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Google และ Apple และอยู่ในช่วงการมองหาวิธีที่จะเข้าสู่ NFT เพื่ออนุญาตให้ผู้ใช้งานและครีเอเตอร์สามารถถือและสะสมได้บนแพลตฟอร์ม ซึ่งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Mark Zuckerberg ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Meta ได้แถลงเปิดตัวโปรเค NFT บน Instragram เป็นโครงการนำร่องที่จะเปิดตัวเร็วสุดในกลางเดือนพฤษภาคมนี้ นอกจากนี้จากรายงานของ Financial Time ระบุว่า Meta ก็กำลังสำรวจการให้บริการทางการเงินแบบดั้งเดิมมากขึ้นควบคู่กัน โดยมุ่งเน้นที่การให้ความช่วยเหลือในการให้สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก โดยมีการหารือกับพันธมิตรผู้ให้กู้ยืมที่มีศักยภาพหลายเจ้า เพื่อสนับสนุนด้านอีคอมเมิร์ซบนแพลตฟอร์ม และล่าสุดที่ได้เข้าร่วม Crypto Open Patent Alliance (COPA) ซึ่งนำโดย Jack Dorsey’s Block Inc เพื่อแสดงจุดยืนในการส่งเสริมการพัฒนาการเข้าถึงเทคโนโลยีคริปโตเคอเรนซีแบบ Open Access Ecosystem
อย่างไรก็ตามบริษัทระบุว่า ในการนำเสนอสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าว การหาวิธีการเพื่อควบคุมให้น้อยที่สุดคือสิ่งสำคัญ โดยอ้างถึงประเด็นเรื่องการกระจายอำนาจ หรือ Decentralized ที่มากขึ้นในแพลตฟอร์มต่าง ๆ และยอมรับถึงแนวคิดเรื่อง Web3 ซึ่งเป็นหัวข้อสำคัญที่อยู่ในวาระของบริษัท โดยคาดการณ์ถึงผู้ใช้ที่จะสามารถควบคุมข้อมูลประจำตัวดิจิทัลของตนได้มากขึ้น อีกทั้งแนวคิด Social Token ที่จะให้รางวัลแก่ผู้ใช้งาน อาจนำไปสู่การลดอำนาจของ Meta จากการเป็นผู้ดูแลเนื้อหาส่วนกลาง และทำให้ชุมชนมีอำนาจมากขึ้นในการกลั่นกรองตรวจสอบบนแพลตฟอร์ม
ที่มา
Meta may introduce tokens and digital currency lending services to apps
Meta plans virtual currency, creator coins for its apps - FT
Meta reportedly plans to integrate NFTs on Facebook and Instagram profiles
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด