Bangkok Bank InnoHub ซึ่งเป็นโครงการบ่มเพาะ Fintech Startup ระดับโลก โครงการแรกในประเทศไทย จัด Demo Day ให้ startup ทั้ง 8 ทีม แสดงศักยภาพนำเสนอนวัตกรรมทางเทคโนโลยีต่อนักลงทุนไทยและจากต่างประเทศ

Startup 8 ทีม ที่คัดเลือกจากผู้สมัคร 119 รายจาก 32 ประเทศ ได้เข้าร่วมโครงการบ่มเพาะหลักสูตรเข้มข้นตลอดระยะเวลา 12 สัปดาห์แล้ว ทุกทีมได้รับคำแนะนำในด้านเทคโนโลยีการเงิน การพัฒนาธุรกิจที่อยู่ภายใต้สภาพตลาดและกฏระเบียบในประเทศไทย รวมถึงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จากผู้เชียวชาญ และเมนทอร์ของธนาคารกรุงเทพและเนสท์ ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำผู้มากด้วยประสบการณ์และความสำเร็จในการจัดโครงการ startup ทั่วโลก โดยขณะนี้ startup แต่ละรายมีศักยภาพเพิ่มขึ้น สำหรับการร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตร และการระดมเงินทุนเพื่อพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมของตนเอง

Startup 5 ทีม จาก 8 ทีม ได้เข้าสู่กระบวนการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมร่วมกับธนาคารเพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ startup ภายใต้บริบทของภาคธุรกิจการเงินในประเทศไทย ซึ่งเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมีความก้าวหน้าอย่างโดดเด่น

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ความสำเร็จของ Bangkok Bank InnoHub ครั้งนี้ ด้วยความร่วมมือจากเนสท์ เป็นก้าวสำคัญของธนาคาร ที่มุ่งมั่นสนับสนุน Startup กลุ่ม Fintech เพื่อขับเคลื่อนภาคบริการทางการเงินและเศรษฐกิจของประเทศไทย

"ธนาคารกรุงเทพมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรม โดยโครงการ Bangkok Bank InnoHub สะท้อนถึงการดำเนินกลยุทธ์ด้านธนาคารดิจิทัล ที่เน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินและการดำเนินชีวิตของลูกค้า"

"นอกจากนี้ โครงการ Bangkok Bank InnoHub ยังจะมีส่วนสนับสนุนนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาลในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคธุรกิจบริการทางการเงิน อีกทั้งธนาคารยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบนิเวศ หรือ ecosystem ของประเทศไทย เพื่อปูทางให้บริษัท Fintech ในไทยสามารถขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคและตลาดโลก รวมทั้งสนับสนุนให้บริษัท Fintech ระดับโลกเข้ามาสร้างเครือข่ายและพันธมิตรทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเซียน"

นายลอว์เรนซ์ มอร์แกน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนสท์ กล่าวว่า "เราภูมิใจที่ได้ร่วมดำเนินโครงการบ่มเพาะ startup กลุม Fintech ระดับโลกโครงการแรกของประเทศไทย เพื่อที่จะพัฒนาภูมิภาคนี้ให้เป็นที่ยอมรับในฐานะศูนย์กลางของ Fintech และเป็นฐานสำหรับการขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราต้องร่วมกันแสวงหาแนวทางที่มีความยั่งยืนสำหรับการสร้างระบบนิเวศด้านนวัตกรรมให้เติบโต ผมเชื่อว่าการพัฒนานวัตกรรมขององค์กรธุรกิจจะมีส่วนพัฒนาระบบเศรษฐกิจดิิจิทัล อย่างมีนัยยะสำคัญ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพูนทักษะ และะขีดความสามารถของคนจากการถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวหน้าต่อไป"

ดร. พนุกร จันทรประภาพ เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Vice President ฝ่ายการลงทุนธุรกิจ ธนาคารกรุงเทพจำกัด (มหาชน) และหนึ่งในเมนทอร์ในโครงการ กล่าวว่า "เมนทอร์ที่เข้าร่วมโครงการนี้มาจากหลากหลายหน่วยงานของธนาคาร และบริษัทในเครือ ซึ่งทำงานใกล้ชิดกับทีม startup ในบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์ และพร้อมให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ หลังจากนี้เราจะยังคงทำงานร่วมกันในลักษณะนี้ต่อไป และเราเชื่อว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้"

สำหรับ Startup ทั้ง 8 ทีม ที่ผ่านการบ่มเพาะในโครงการ Bangkok Bank InnoHub ประกอบไปด้วยทีมผู้พัฒนาบริการด้าน Wealth Management 3 ราย ได้แก่ ทีม Bambu ทีม Bento และทีม Canopy จากประเทศสิงคโปร์ ทีม Covr Security ผู้พัฒนาด้าน Mobile Security จากประเทศสวีเดน ทีม Everex ผู้พัฒนาบริการโดยใช้ Blockchain จากประเทศไทย ด้านการให้บริการสินเชื่อ SME ได้แก่ ทีม First Circle จากประเทศฟิลิปปินส์ ด้าน Invoice Financing Platform ได้แก่ ทีม Invoice Interchangeจากประเทศสิงคโปร์ และด้าน Mutual Fund Investment ได้แก่ ทีม FundRadars จากประเทศไทย