
เมื่อเทคโนโลยีคลาวด์ระดับโลกอย่าง Amazon Web Services (AWS) โคจรมาพบกับผู้เชี่ยวชาญด้าน AgriTech ของไทยอย่าง AXONS ผลลัพธ์ที่ได้คือการยกระดับภาคการเกษตรกรรมของประเทศอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ผ่านแอปพลิเคชัน "FarmOne" (ฟาร์มวัน) ที่ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือ แต่เป็นคู่คิดที่ช่วยให้เกษตรกรไทยทำงานได้อย่างชาญฉลาดและยั่งยืนขึ้น สร้างผลกระทบเชิงบวกที่วัดผลได้จริง
Techsauce ได้ร่วมเดินทางไปยังจังหวัดลพบุรี เพื่อพูดคุยกับผู้บริหารจากทั้งสององค์กร และเกษตรกรผู้ใช้งานจริง ถึงเบื้องหลังความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ ที่กำลังจะเปลี่ยนภาพจำของเกษตรกรรมไทย

คุณทิพมาศ อจลากุล หัวหน้าฝ่ายธุรกิจอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ จาก AWS ประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลภาพรวมว่า ภาคการเกษตรมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจไทย โดยสร้างมูลค่ามหาศาลถึง 1.8 ล้านล้านบาท และเป็นแหล่งแรงงานของคนในประเทศกว่า 30% อย่างไรก็ตาม ภาคส่วนนี้ยังคงเผชิญกับความท้าทายใหญ่หลวง ไม่ว่าจะเป็นการทำเกษตรแบบดั้งเดิม การขาดการเข้าถึงเทคโนโลยี และผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวน
ถ้าการเกษตรยังเป็นแบบเดิมๆ ไม่พัฒนาไปสู่การเกษตรที่ยั่งยืน ย่อมเป็นปัญหาในระยะยาว อนาคตของภาคการเกษตรไทยต้องเป็น Technology-Driven Agriculture หรือ AgriTech ซึ่งคาดการณ์ว่าตลาดนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 133.96 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2572
นี่คือจุดที่ AXONS เข้ามามีบทบาทสำคัญ ในฐานะผู้พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่ออุตสาหกรรมการเกษตรแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ (การเพาะปลูก) กลางน้ำ (การแปรรูปและโลจิสติกส์) ไปจนถึงปลายน้ำ (การจัดจำหน่าย)

คุณบดินทร์ มิลินทางกูร ผู้อำนวยการด้านส่งมอบระบบไอทีเพื่อธุรกิจ จาก AXONS เน้นย้ำว่า เป้าหมายของบริษัทไม่ใช่แค่การสร้างเครื่องมือ แต่คือการสร้าง Ecosystem ที่เชื่อมโยงเกษตรกรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าด้วยกัน
เราไม่ได้มองว่าฉันอยากทำอะไรให้เขา แต่มันกลายเป็นว่า เขาอยากใช้อะไร เราก็จะลงไปทำกับเขา
คุณบดินทร์เล่าถึงหลักการทำงานที่ต้องลงพื้นที่พูดคุยกับเกษตรกร เพื่อทำความเข้าใจปัญหาที่แท้จริง (Pain Point) และนำมาพัฒนาเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์

แอปพลิเคชัน FarmOne จึงถูกออกแบบมาเพื่อเป็นคู่คิดของเกษตรกร โดยมีฟีเจอร์หลักที่โดดเด่น ได้แก่
ปัจจุบัน FarmOne มีเกษตรกรผู้ใช้งานแล้วกว่า 2,000 ราย ทั่วประเทศ และกำลังขยายการรองรับจากพืชข้าวโพดไปสู่พืชชนิดอื่นๆ เช่น ข้าว และทุเรียนในอนาคต
การสร้างแอปพลิเคชันที่ต้องรองรับผู้ใช้จำนวนมากและประมวลผลข้อมูลมหาศาล จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นสูง AXONS จึงเลือกใช้บริการของ AWS เป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนา โดยมีความร่วมมือที่น่าสนใจคือ:

สิ่งที่พิสูจน์ความสำเร็จของเทคโนโลยีได้ดีที่สุดคือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง คุณเม่น-กฤษฎา บุญถัง เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดกว่า 200 ไร่ในจังหวัดลพบุรี คือหนึ่งในผู้ที่เปลี่ยนจากการใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 10 ปี มาใช้แอปพลิเคชัน FarmOne ได้ประมาณ 1 ปี
เมื่อก่อนใช้ประสบการณ์ล้วนๆ แต่พอใช้แอป เราถ่ายรูปปุ๊บ มันจะขึ้นมาเลยว่าข้าวโพดเป็นโรคอะไร แล้วก็มียาบอก ทำให้เรารู้ทันโรคและแมลง กำจัดได้ทันเวลา
เมื่อถูกถามถึงผลลัพธ์เป็นตัวเลข เขายืนยันว่า มันช่วยเพิ่มผลผลิตได้ประมาณ 30% เลยครับ' จากเดิมที่เคยได้ผลผลิตประมาณไร่ละ 1 ตัน ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1.2-1.3 ตันต่อไร่
นอกจากนี้ คุณเม่นยังใช้ฟีเจอร์พยากรณ์อากาศในแอปเพื่อวางแผนการใช้โดรนเพื่อการเกษตรในการพ่นยาและฮอร์โมนได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเทคโนโลยีกำลังเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการทำเกษตรกรรมสมัยใหม่

ความร่วมมือระหว่าง AWS และ AXONS เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งสององค์กรต่างมองเห็นศักยภาพในการนำเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง IoT (Internet of Things) และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Generative AI เข้ามาต่อยอดในอนาคต เพื่อสร้างสรรค์โซลูชันที่ชาญฉลาดและช่วยเหลือเกษตรกรได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับความท้าทายเรื่อง Digital Divide หรือการเข้าถึงเทคโนโลยีของเกษตรกรสูงวัย คุณบดินทร์จาก AXONS ระบุว่าทีมงานออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้งานทุกกลุ่ม และมีแผนที่จะพัฒนาให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้นไปอีก ขณะที่คุณทิพมาศจาก AWS เสริมว่า AWS มีโครงการพัฒนาทักษะดิจิทัลอย่าง Skill Builder และ Re/Start เพื่อลดช่องว่างและส่งเสริมให้ทุกคนสามารถเข้าถึงความรู้ด้านเทคโนโลยีได้
การเดินทางครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การผนึกกำลังกันระหว่างยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม กำลังสร้างแรงกระเพื่อมที่ทรงพลัง ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรมของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนเวทีโลกด้วยเทคโนโลยีคลาวด์และ AI
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด