Banpu Next บริษัทลูกของบ้านปู ในฐานะผู้ให้บริการด้านพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สานต่อความมุ่งมั่นในการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาสร้างโอกาสการเรียนรู้สู่เยาวชนในพื้นที่ห่างไกล ภายใต้ ‘โครงการพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเรียนรู้ Light & Learn’ ปีที่ 4 พาทีมพนักงานจิตอาสา และวิศวกรผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ พร้อมแบตเตอรี่ และอินเวอร์เตอร์ ให้แก่ 15 โรงเรียนในพื้นจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมมอบสื่อการเรียนรู้ อาทิ โทรทัศน์ ชุดรับสัญญาณดาวเทียม และหนังสือนิทาน ‘มหัศจรรย์พลังงานโซลาร์กับกระแสไฟฟ้าสร้างเองได้ไม่มีวันหมด’ เพื่อเปิดโลกทัศน์ด้านการศึกษา และปลูกฝังความรู้เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ และการใช้พลังงานสะอาดอย่างชาญฉลาด และยั่งยืน
คุณสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า “Banpu Next ดำเนินธุรกิจควบคู่กับสร้างความยั่งยืน และคำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance) หรือหลัก ESG มาโดยตลอด จึงมุ่งมั่นนำความเชี่ยวชาญด้านพลังงานมาต่อยอดเป็นกิจกรรมดีๆ เพื่อสังคม โดยเฉพาะ ‘โครงการพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเรียนรู้ Light & Learn’ ที่มุ่งนำระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นหนึ่งใน ‘โซลูชันพลังงานฉลาด’ จาก Banpu Next ไปติดตั้งให้แก่โรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร
เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและสร้างความต่อเนื่องในการเรียนการสอนและการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด และยั่งยืน โดยในปีนี้ทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญได้ลงพื้นที่สำรวจโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่ยังขาดแคลนไฟฟ้าในจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงพื้นที่ติดชายแดนเมียนมาร์ พร้อมดำเนินการติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์พร้อมแบตเตอรี่ ให้แก่โรงเรียน 15 แห่ง
มีจำนวนนักเรียนและครูกว่า 600 คน ได้แก่ โรงเรียนในอำเภอสังขละบุรี 11 แห่ง อำเภอศรีสวัสดิ์ 3 แห่ง และ อำเภอ ทองผาภูมิ 1 แห่ง นอกจากนี้ยังมอบสื่อการเรียนการสอน อาทิ โทรทัศน์ ชุดรับสัญญาณดาวเทียม และหนังสือนิทาน ‘มหัศจรรย์พลังงานโซลาร์กับกระแสไฟฟ้าสร้างเองได้ไม่มีวันหมด’ ซึ่ง Banpu Next ได้จัดทำขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เด็กๆ มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับพลังงานสะอาดที่จะเข้ามามีบทบาทกับสังคมไทยในอนาคต”
คุณมนภรณ์ ศตวรรษมณฑล ครูผู้แลศูนย์เด็กเล็กสะเนพ่อง กล่าวว่า “รู้สึกดีใจ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทาง Banpu Next ได้เข้ามาติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ และแบตเตอรี่ให้กับทางโรงเรียน ทำให้เด็กๆ มีไฟฟ้าใช้เรียนหนังสือ และทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตลอดทั้งวัน รวมถึงยังมอบสื่อการเรียนการสอนมาให้เด็กๆ ได้เปิดโลกการเรียนรู้นอกตำราเรียน และช่วยให้เราสามารถจัดกิจกรรมสันทนาการที่เด็กๆ ชื่นชอบ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการ และความสามารถพิเศษของเด็กๆ เช่น นำมาใช้สอนร้องเพลง สอนเต้น หรือเปิดวิดิโอต่างๆ อีกทั้งครูก็สามารถใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการสอนให้ดียิ่งขึ้น เช่น นำคอมพิวเตอร์มาใช้สร้างสื่อการสอนรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่นักเรียน”
“การลงพื้นที่ในปีนี้ เราต้องขอขอบคุณสำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่อำนวยความสะดวกให้เราเป็นอย่างดี โดยตลอดระยะเวลา 4 ปี เราช่วยให้โรงเรียนที่ขาดแคลนไฟฟ้าได้มีแสงสว่างใช้ ไปแล้วถึง 68 โรงเรียน
ด้วยความเชื่อว่า “พลังงานการเรียนรู้ คือ พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา” ซึ่ง Banpu Next จะสานต่อโครงการนี้ไปอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีโรงเรียนที่ขาดแคลนไฟฟ้า และอุปกรณ์การเรียน รวมถึงจะเดินหน้าผลักดันให้ทุกพื้นที่ในประเทศไทยสามารถเข้าถึงพลังงานสะอาด และเทคโนโลยีได้อย่างทั่วถึง ตลอดจนส่งเสริมการนำพลังงานสะอาด และเทคโนโลยีพลังงานต่างๆ ไปพัฒนาทุกภาคส่วนให้ยั่งยืน” นางสมฤดี กล่าวสรุป
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด