บริการ dStatement (digital bank statement) เป็นการให้บริการรับส่งข้อมูลรายการเคลื่อนไหวบัญชีเงินฝาก (bank statement) ในรูปแบบดิจิทัลโดยตรงระหว่างสถาบันการเงิน ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนที่ต้องการใช้ข้อมูล bank statement เป็นหลักฐานประกอบการสมัครขอใช้บริการทางการเงิน 

โดยสามารถขอให้ธนาคารที่ตนเองมีบัญชีเงินฝากอยู่ ส่งข้อมูล bank statement ไปยังธนาคารแห่งอื่นได้โดยตรง ผ่านช่องทาง mobile banking application หรือช่องทางอื่นตามที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งกำหนด ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกในการใช้บริการทางการเงินยิ่งขึ้น จากเดิมที่ต้องขอข้อมูลดังกล่าวในรูปเอกสารกระดาษ 

โดยในระยะแรกของการให้บริการ dStatement จะเริ่มใช้สำหรับการสมัครขอสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัลและมีธนาคารที่เปิดให้บริการ dStatement ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2565 เป็นต้นไป จำนวน 6 ธนาคาร และจะทยอยเปิดให้บริการเพิ่มเติมอีก 5 ธนาคาร ภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 

รายชื่อธนาคารที่เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2565 เป็นต้นไป 

1. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
2. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
3. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
4. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
5. ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
6. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

รายชื่อธนาคารที่จะเริ่มทยอยให้บริการเพิ่มเติมในช่วงครึ่งแรกของปี 2565

1. ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
2. ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
3. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
4. ธนาคารออมสิน
5. ธนาคารอาคารสงเคราะห์

ซึ่งการให้บริการ dStatement ถือเป็นโครงการนำร่องโครงการแรกภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือ “การพัฒนามาตรฐานและใช้มาตรฐานข้อมูลดิจิทัลเพื่อส่งเสริมบริการทางการเงิน” ซึ่งธนาคารสมาชิกของสมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และสมาคมธนาคารนานาชาติ ได้ลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการทางการเงินสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลของตนเองที่มีอยู่กับสถาบันการเงินแต่ละแห่ง 

เพื่อเพิ่มโอกาสในการเลือกใช้บริการทางการเงินที่หลากหลายจากสถาบันการเงินแห่งอื่น ๆ ได้โดยสะดวก รวดเร็ว และตรงตามความต้องการของตนเองยิ่งขึ้น และถือเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่จะช่วยสนับสนุนการยกระดับบริการทางการเงินสู่บริการทางการเงินดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ  

คุณ รณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท.  ให้ความเห็นว่า พัฒนาการด้านเทคโนโลยีในช่วงที่ผ่านมาเป็นปัจจัยสำคัญในการเร่งให้ระบบการเงินของประเทศก้าวสู่โลกการเงินดิจิทัล ดังนั้นการสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างให้ทั้งผู้ใช้บริการทางการเงินและผู้ให้บริการทางการเงินสามารถใช้เทคโนโลยีและข้อมูลที่มีให้เกิดประโยชน์ เพื่อต่อยอดพัฒนานวัตกรรมในการให้บริการและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ได้หลากหลายอย่างเสรี จึงเป็นสิ่งสำคัญ 

และการเปิดตัวบริการ dStatement ในวันนี้ ถือเป็นการปักหมุดจุดเริ่มต้นของการสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างในการแบ่งปันข้อมูล (open data ecosystem) เพื่อวางรากฐานที่จำเป็นให้ภาคการเงินไทยพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งระบบนิเวศนี้จะช่วยปลดล็อกให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลของตนเองเพื่อเข้าถึงบริการทางการเงินที่ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากขึ้น

ลดต้นทุนกิจกรรมซ้ำซ้อน

ด้าน คุณผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย  เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก สนับสนุนการพัฒนาบริการ dStatement มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์การเข้าถึงสินเชื่อของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง สะดวก และเป็นธรรม โดยบริการ dStatement เป็นตัวอย่างการสร้างระบบนิเวศด้านข้อมูลของภาคการเงิน เอื้อให้เกิดนวัตกรรมบริการทางการเงิน บนช่องทางดิจิทัลเพิ่มเติม ส่งผลให้ประชาชนได้รับบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุดขึ้น มีความสะดวกรวดเร็ว 

และช่วยยกระดับการให้บริการของธนาคารแต่ละแห่งให้  สอดคล้องกับกับแผนยุทธศาสตร์ 3 ปีของสมาคมธนาคารไทย ในการนำระบบเทคโนโลยีมาสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมธนาคาร (Enable Country Competitiveness) ผ่านการสร้างแนวทางการเชื่อมโยงข้อมูลและการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน  ลดต้นทุนจากกิจกรรมที่ซ้ำซ้อนกันโดยไม่จำเป็น  สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม และรองรับการเปลี่ยนแปลงของภาคธนาคารในอนาคต เป็นเสาหลักที่แข็งแกร่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป 

ทางด้าน คุณฉัตรชัย ศิริไล ประธานสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ กล่าวว่า สถาบันการเงินของรัฐมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านบริการทางการเงินแก่ประชาชนด้วยฐานลูกค้าที่ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม และเชื่อมั่นว่าการเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากข้อมูลของตนเองได้มากยิ่งขึ้น จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้สะดวกขึ้น โดยมีภาระต้นทุนทางการเงินที่ลดลงเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งสมาคมสถาบันการเงินของรัฐและสมาชิกได้ให้การสนับสนุนความร่วมมือของโครงการนี้มาโดยตลอด

โดย บริการ dStatement นี้ จะช่วยให้ประชาชนได้รับประโยชน์และประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นในการใช้บริการการเงินดิจิทัล โดยในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า จะยังมีความร่วมมือในการขยายขอบเขตการให้บริการเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงบริการทางการเงินที่หลากหลายผ่านช่องทางดิจิทัลที่สะดวกและรวดเร็ว ขณะที่ผู้ให้บริการสามารถพัฒนาบริการทางการเงินที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ รายละเอียดและเงื่อนไขการใช้บริการ dStatement ของแต่ละธนาคาร สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก website หรือช่องทางการประชาสัมพันธ์อื่น ๆ ของแต่ละธนาคารที่ร่วมให้บริการ

ธนาคารกรุงเทพ เครื่องร้อนขานรับบริการ dStatemen

อย่างล่าสุด ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดให้บริการ dStatemen ด้วยเช่นกันในการรับ-ส่งข้อมูลรายการเดินบัญชีเงินฝากผ่านระบบดิจิทัล สะดวก ประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่าย ซึ่งคิกออฟไปเมื่อ 24 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา ตั้งเป้าหนุนคนไทยเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น  

คุณ ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เปิด “บริการเรียกขอและรับส่งข้อมูลรายการเคลื่อนไหวบัญชีเงินฝาก ในรูปแบบข้อมูลดิจิทัลระหว่างธนาคาร” หรือ dStatement นับเป็นทางเลือกใหม่ในการส่งข้อมูลและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ต้องการสมัครสินเชื่อ สามารถเรียกใช้เอกสารรายการเดินบัญชีเงินฝากจากต่างธนาคาร เพื่อนำมาประกอบการสมัครสินเชื่อ ซึ่งจะเป็นรูปแบบการส่งข้อมูลแบบดิจิทัลระหว่างธนาคารโดยตรง จึงช่วยลูกค้าลดขั้นตอน ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

“บริการ dStatement จะเป็นทางเลือกใหม่ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้มาก เปลี่ยนวิธีการจากเดิมที่เราต้องเดินไปสาขาธนาคารเพื่อขอเอกสารรายการเดินบัญชีเป็นรูปแบบกระดาษ เพื่อเอามายื่นสมัครสินเชื่อกับอีกธนาคาร แต่เมื่อใช้บริการ dStatement เราสามารถส่งข้อมูลเดียวกันนี้ในรูปแบบดิจิทัลระหว่างธนาคารกันโดยตรงเลย จึงรวดเร็วกว่า ลดความยุ่งยากและช่วยประหยัดเวลา ทั้งยังอุ่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยของเอกสาร หรือปัญหาเอกสารสูญหาย และที่สำคัญ ค่าธรรมเนียม dStatement ยังถูกกว่าการขอเอกสารรูปแบบเดิมอีกด้วย”

dStatement ให้บริการ 2 รูปแบบ

1. บริการการเรียกขอข้อมูลรายการเดินบัญชีเงินฝากจากต่างธนาคาร เพื่อใช้สำหรับประกอบการสมัครสินเชื่อกับธนาคารกรุงเทพ สามารถทำรายการได้โดยติดต่อสาขาธนาคารกรุงเทพ เพื่อสมัครสินเชื่อที่ต้องการ และแจ้งความประสงค์ใช้บริการ dStatement เจ้าหน้าที่สาขาของธนาคารกรุงเทพ จะดำเนินการส่งคำขอ dStatement ไปยังมือถือของลูกค้า จากนั้นเพียงยืนยันการทำรายการและชำระค่าธรรมเนียมให้แก่ธนาคารผู้ส่งข้อมูล (อัตราค่าธรรมเนียมตามที่ธนาคารผู้ส่งข้อมูลกำหนด) ระบบจะจัดส่งข้อมูลรายการเดินบัญชีเงินฝากดังกล่าวมายังธนาคารกรุงเทพทันที
   
   
2. บริการจัดส่งข้อมูลรายการเดินบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงเทพ ไปยังธนาคารผู้ขอข้อมูล กรณีสมัครสินเชื่อกับธนาคารอื่น โดยลูกค้าต้องการให้ธนาคารกรุงเทพส่งข้อมูลรายการเดินบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ หรือกระแสรายวันของตนเองไปยังธนาคารนั้น ๆ สามารถแจ้งความประสงค์ใช้บริการ dStatement กับธนาคารผู้ขอข้อมูล ระบบส่งคำขอมายังแอปพลิเคชัน ‘โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ’ เพื่อให้ลูกค้ายืนยันการส่งข้อมูล ซึ่งสามารถเลือกส่งได้สูงสุดถึง 5 บัญชี พร้อมชำระค่าธรรมเนียม ในอัตรา 75 บาท/บัญชี ระบบจะจัดส่งข้อมูลรายการเดินบัญชีเงินฝากดังกล่าวไปยังธนาคารผู้ขอข้อมูลทันที

“บริการนี้นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่ดีระหว่างสถาบันการเงินต่าง ๆ โดยมีธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นตัวกลางที่ช่วยประสานและสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือในครั้งนี้ขึ้นมา ซึ่งจะมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการเงิน โดยเฉพาะด้านสินเชื่อได้สะดวกยิ่งขึ้น ทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของธนาคารกรุงเทพที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริการผ่านช่องทางดิจิทัล"

และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมสร้าง Digital Ecosystem ด้านการเงินในประเทศไทยให้มีความแข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน ยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของธนาคารกรุงเทพ ในฐานะ ‘เพื่อนคู่คิด’ ที่พร้อมอยู่เคียงข้างและมอบประสบการณ์ที่ดีในทุกช่องทางบริการให้แก่ลูกค้า อันเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การเติบโต รวมถึงวิสัยทัศน์ของการเป็น ‘ธนาคารผู้นำระดับภูมิภาค’ อีกด้วย

ทั้งนี้ บริการ dStatement มีสถาบันการเงินในประเทศไทยที่จะเริ่มให้บริการในระยะแรกจำนวน 6 แห่ง ซึ่งครอบคลุมกว่าร้อยละ 98 ของบัญชีเงินฝากทั้งหมดของประชาชน โดยแต่ละธนาคารจะทยอยเปิดให้บริการ dStatement ทั้ง 2 รูปแบบ ภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565