BrandThink เปิดตัว 5 ธุรกิจใหม่ ชูแนวคิด 'Synergy for Change' ขับเคลื่อนอนาคตวงการครีเอทีฟ

BrandThink ผู้นำด้านคอนเทนต์ครีเอเตอร์ จัดงาน Open House & Synergy Talk: Creative Change 2025 ประกาศจุดยืนการเป็น Hybrid Creator Company พร้อมนำเสนอวิสัยทัศน์ ‘Creative Change’ ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง เมื่อผสานกับความเชื่อที่ว่าการสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่เกิดจากการผสานจุดแข็งที่แตกต่าง BrandThink จึงมุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงผ่านแนวคิด ‘Synergy for Change’ ด้วยการเชื่อมโยงความเชี่ยวชาญจากพาร์ตเนอร์ในหลากหลายด้าน เพื่อยกระดับผลงานให้มีคุณค่าและสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนมากขึ้น

ตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมา BrandThink ได้พัฒนาและปรับตัวจาก Production House สู่การเป็น Publisher และขยายบทบาทสู่การเป็น End-to-End Solution ที่ครอบคลุมทุกมิติของการสร้างสรรค์คอนเทนต์ พร้อมสร้างพื้นที่ที่รวบรวมเหล่าครีเอเตอร์ (Creator Community) และต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่อย่าง BrandThink Cinema และ IP Experience

ภายในงานได้มีการเปิดตัวโปรเจกต์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในปี 2025 ได้แก่ ‘Think Day: Out of the Loop’ งาน Experience Talk & Space ที่จะสร้างพื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ ชวนเราทุกคนไปค้นหาคำตอบของการออกจากลูป รวมถึง ‘Mind Day 2025’ ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จของงานอีเวนต์ฮีลใจที่ชวนให้ทุกคนได้สร้างความเข้มแข็งจากภายใน รวมถึงเปิดตัวอย่างภาพยนตร์ ‘HalaBala ป่าจิตหลุด’ ที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 3 เมษายนนี้ เป็นครั้งแรกอีกด้วย

นอกจากนี้ BrandThink ยังประกาศความพร้อมในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมครีเอทีฟผ่าน 5 ธุรกิจใหม่ภายใต้แนวคิด ‘Synergy for Change’ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่และผลักดันศักยภาพของครีเอเตอร์ในทุกแพลตฟอร์ม

1. Wild BrandT

พร้อมที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรในทุกๆ แขนง รวมถึงพาร์ตเนอร์และแบรนด์ต่างๆ สู่ความสำเร็จ ในฐานะ Marketing Communication & Business Solution Agency โดยมีจุดแข็งด้าน Insight Driven จากการจับมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารการตลาดที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จขององค์กรและแบรนด์ชั้นนำมาอย่างยาวนาน ผสานกับจุดแข็งด้าน Hybrid Creativity ของ BrandThink จนกลายเป็น 3 กลยุทธ์หลัก:

1. Intelligence: ยกระดับการวางแผนการสื่อสารแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้ง Communication Planning, Media Planning and Optimization รวมถึงการบริหารจัดการ Media Buying และ KOL Strategy
2. Data Driven Marketing: มุ่งเน้นการค้นหาโอกาสทางการตลาดผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ทั้ง Marketing Discovery, Target Discovery and Insights และการวัดประสิทธิภาพแคมเปญ
3. Business Development: สร้างโมเดลธุรกิจใหม่ผ่านการร่วมลงทุนในรูปแบบ Co-own, Co-Investment และ Profit Sharing พร้อมพัฒนาระบบจัดการข้อมูลส่วนกลางเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ

2. FUME HOUSE  

แพลตฟอร์มแรกในประเทศไทยที่เป็น KOL Brandtertainment House อย่างแท้จริง มุ่งสร้าง ‘House of Possibility’ โดยรวบรวม KOLs ที่มีความถนัดเฉพาะตัว หวังสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการ KOLs ด้วยการทำงานที่เข้าใจทั้งความต้องการของแบรนด์และจุดแข็งของ KOLs แต่ละคน รวมถึงสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในผลงานให้กับเหล่า KOLs เพื่อกระตุ้นการสร้างสรรค์ผลงานที่แตกต่าง สร้างทุกความเป็นไปได้ให้กับแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

3. Mars Definition  

แพลตฟอร์มที่จะมาปฏิวัติวงการอินฟลูเอนเซอร์ด้วยแนวคิด ‘ทุกคนเท่าเทียมกัน’ มุ่งสร้างพื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพให้ครีเอเตอร์ทุกระดับ โดย Mars Definition เชื่อว่าในยุค Creative Economy ความสำเร็จไม่ได้วัดกันที่ยอดติดตามเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การพัฒนาศักยภาพรอบด้าน ทั้ง Hard Skills และ Soft Skills ควบคู่ไปกับการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคม

โดยโปรเจกต์แรกที่จะเกิดขึ้นคือ ‘Mars Class’ หลักสูตรพัฒนาศักยภาพที่รวบรวมประสบการณ์จากอินฟลูเอนเซอร์ชั้นนำ อย่าง เทพลีลา, 9Arm, Go Went Go, และ Gluta Story เป็นต้น เพื่อให้ความรู้ครอบคลุมทั้งการสร้างคอนเทนต์ การพัฒนาแบรนด์ส่วนตัว และการบริหารธุรกิจ พร้อมด้วยการพัฒนาโปรเจกต์พิเศษ ‘Mars Film’ ที่กำลังวางแผนการผลิตภาพยนตร์เรื่องแรกจาก BrandThink Cinema และเทพลีลา

4. Count Up

นับเป็นครั้งแรกของ BrandThink ในการลุยตลาด Silver-aging Communication & Business Solution เพื่อสร้างความเข้าใจและโอกาสใหม่ในการสื่อสารกับกลุ่ม Silver Age ในปัจจุบัน ที่มีความแตกต่างจากภาพ Baby Boomers หรือ Grandparent แบบเดิมๆ ที่เคยเห็น พวกเขามีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านกายภาพและจิตใจ และให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า มากกว่าการมองอายุที่ล่วงเลยไป

Count Up จึงเป็นผู้บุกเบิกในการนำเสนอโซลูชันที่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่การปรับวิธีการสื่อสาร แต่ยังรวมถึงการพัฒนาโอกาสทางธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของ Silver Age ยุคใหม่ ต้อนรับสังคมผู้สูงวัย ที่มองหาการเตรียมพร้อม การพัฒนาตนเอง และการใช้ชีวิตให้เต็มประสิทธิภาพ แทนที่จะเป็นเพียงการแก้ปัญหาด้านอายุ หรือการดูแลสุขภาพแบบที่ผ่านมา เพื่อสร้าง Silver’s Community ที่เข้าใจ แข็งแรง และส่งต่อประสบการณ์ในชีวิตหลากแง่มุมไปด้วยกัน

5. Chamade  

เปิดตัวในฐานะผู้ผลิตซีรีส์คุณภาพที่เชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ซีรีส์ Boys Love และ Girls Love โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ผลงานที่ตอบโจทย์ผู้ชมยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย ความเท่าเทียม และคุณภาพของเนื้อหา โดยทีมงานที่มีประสบการณ์และเคยคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย พร้อมส่งมอบความบันเทิงคุณภาพในปี 2025 ด้วยซีรีส์ที่น่าสนใจถึง 5 เรื่อง ได้แก่ ‘Burnout Syndrome’ เรื่องราวของคนหมดไฟ, ‘Only Friends 2: Dream On’, ‘คุณวาฬ ร้านชำ Whale Store xoxo’, ‘That Summer พบเจอเจ้าชายที่ชายหาด’ และ ‘A Dog and a Plane หมาเห่าเครื่องบิน’

ในงานยังมีไฮไลต์สำคัญคือ Synergy Talk ในหัวข้อสำคัญอย่าง Creative Change 2025 จากผู้เชี่ยวชาญในวงการครีเอทีฟ พาร์ตเนอร์ และแบรนด์ ที่ได้มาแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในปัจจุบัน ทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านความหลากหลายในวงการภาพยนตร์ พลังแห่งอินฟลูเอนเซอร์ในยุคดิจิทัล และการพูดถึงไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้สูงวัย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อแบรนด์และนักการตลาดในการทำความเข้าใจทิศทางของแต่ละอุตสาหกรรมที่กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง 

การเปิดบ้านแลกเปลี่ยนความคิดและเปิดตัวธุรกิจทั้ง 5 แขนงนี้ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ BrandThink ในการสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์สำหรับครีเอเตอร์และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงพลังของ Creative Change ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน (Synergy for Change) เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย ยกระดับมาตรฐาน และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับวงการครีเอทีฟไทย บนความเชื่อที่ว่าเมื่อเราร่วมมือกัน ผลลัพธ์ที่ได้จะยิ่งใหญ่กว่าการทำงานเพียงลำพัง