Ananda UrbanTech จับมือ Drone Academy Thailand จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “Road to International Drone Competition 2019 powered by Ananda UrbanTech: เส้นทางช้างเผือกโดรนไทยสู่การเป็นจ้าวเวหาระดับโลก” มุ่งส่งเสริมให้นักกีฬาโดรนตัวแทนจากประเทศไทยทุกรุ่นได้มีโอกาสแสดงความสามารถในเวทีโลกและช่วงชิงความเป็นจ้าวแห่งโดรน โดยในปี 2562 นี้ จะมีการแข่งขันระดับโลก 4 รายการ คือ 1. Singapore Amazing Flying Machine Competition (สิงคโปร์) 2. Drone Odyssey Challenge (สิงคโปร์) 3. Alpha Pilot by Lockheed Martin (สหรัฐอเมริกา) และ 4. International Drone Sports (เกาหลีใต้) โดยจะมีนักกีฬาโดรนตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันทั้ง 4 รายการนี้จำนวน 20 คน
ดร.จอห์น มิลลาร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเชิงกลยุทธ์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “Ananda UrbanTech เชื่อว่าการสนับสนุนให้เยาวชนรุ่นใหม่มีความกระตือรือร้นและความสนใจในเทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญสำหรับอนาคตและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไทย โดรนได้เข้ามามีบทบาทที่สำคัญอย่างกว้างขวาง โดยเริ่มจากแวดวงการศึกษาไทย และขยายไปยังวงการธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ เราเชื่อว่าความร่วมมือและสนับสนุนพันธกิจกับ Drone Academy Thailand ที่มุ่งส่งเสริมนักกีฬาโดรนไทยในเวทีการแข่งขันระดับโลกเพื่อชิงแชมป์โลก จะช่วยนำพาประเทศไทยไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในอนาคต นอกจากนี้ เรายังต้องการสนับสนุนนักกีฬาโดรนที่เป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เป็นแบบอย่างที่ดีและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยคนอื่นๆ ให้เกิดความสนใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ”
คุณประยุทธ์ มณีโชติ นายกสมาคมอากาศยานไร้คนขับแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สมาคมอากาศยานไร้คนขับเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร แต่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีโดรนในประเทศไทย เพื่อรองรับการเติบโตของโลกในอนาคต โดยมีการส่งเสริมและพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าให้แก่สังคม บุคลากร และชุมชน ให้เกิดความสนใจและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาทักษะและเหมาะสมตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่ผ่านมาทางสมาคมฯ ได้ผลิตนักกีฬาโดรนเป็นตัวแทนประเทศไทย ที่มีฝืมือและมากด้วยทักษะออกไปแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติ และได้สร้างผลงานได้เป็นอย่างดี สามารถสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย และทำให้คนทั่วไปรู้จักโดรนในฐานะการแข่งขันกีฬามากขึ้น ในฐานะสมาคมอากาศยานไร้คนขับแห่งประเทศไทย ผมรู้สึกยินดีที่กีฬาโดรนของประเทศไทยจะได้รับการพัฒนาไปอีกระดับหนึ่ง ซึ่งสำหรับโครงการ “Road to International Drone Competition 2019 powered by Ananda UrbanTech: เส้นทางช้างเผือกโดรนไทยสู่การเป็นจ้าวแห่งโดรนระดับโลก” นี้ ทางสมาคมฯ ก็หวังว่าจะเป็นบันไดสู่ก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศในหลายๆ ด้าน”
คุณจรรยวรรธน์ ชาติอนุลักษณ์ ผู้อำนวยการ Drone Academy Thailand กล่าวว่า “Drone Academy Thailand รู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจาก อนันดา เออร์เบินเทค ในโครงการ “Road to International Drone Competition 2019 powered by Ananda UrbanTech: เส้นทางช้างเผือกโดรนไทยสู่การเป็นจ้าวแห่งโดรนระดับโลก” ตลอดทั้งปีนี้ เพราะในปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้ส่งตัวแทนนักกีฬาโดรนไปเข้าร่วมการแข่งในระดับนานาชาติ โดยได้รับชัยชนะและมีผลงานที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก จึงทำให้การแข่งขันกีฬาโดรนระดับโลกในปีนี้มีความสำคัญต่อนักกีฬาโดรนและต่อประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น เมื่อมีผู้ใหญ่ใจดียื่นมือเข้ามาช่วยสน้บสนุนจึงทำให้เหล่านักกีฬาโดรนได้ฝึกซ้อมและเตรียมตัวเพื่อเข้าแข่งขันแต่ละรายการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ในปีนี้นักกีฬาโดรนตัวแทนประเทศไทยจะเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 4 รายการ สำหรับการแข่งขันรายการแรก ซึ่งจะจัดในวันที่ 14-15 มีนาคม นี้ ที่ประเทศสิงคโปร์ คือรายการ Singapore Amazing Flying Machine Competition (SAFMC 2019) เป็นการแข่งขันประกอบโดรนและประกวดทักษะการแข่งขันการบินที่จัดมานาน 15 ปี รายการถัดมาในวันที่ 5-7 กรกฎาคม คือรายการ Drone Odyssey Challenge เป็นการแข่งขันสำหรับเยาวชนระดับชั้นประถมศึกษา-มัธยมศึกษาตอนต้น ด้วยการแข่งขันเขียนโปรแกรมสั่งโดรน ซึ่งรายการนี้ถือเป็นรายการแข่งขันโดรนสำหรับเยาวชนรายการแรกๆ ของโลก จัดที่ประเทศสิงคโปร์เช่นเดียวกัน รายการแข่งขันที่ 3 คือ ALPHA PILOT by Lockheed Martin เป็นการแข่งขันโดยให้ผู้เข้าแข่งขันเขียนโค้ดโปรแกรมเพื่อให้โดรนบินเอง โดยรายการนี้เป็นรายการที่มีเงินรางวัลมากที่สุดในโลก จำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 31 ล้านบาท) กำหนดจัดในวันที่ 1 สิงหาคม ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา และรายการสุดท้ายของปี ณ ประเทศเกาหลีใต้ รายการแข่งขันที่ 4 คือ International Drone Sports งานแข่งขันโดรนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นการแข่งขันบังคับโดรนให้ทำเวลาให้เร็วที่สุด โดยจะทำการแข่งขันกันในวันที่ 15-16 กันยายน ศกนี้ ทั้งนี้ จะมีนักกีฬาตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันทั้ง 4 รายการ จำนวน 20 คน ซึ่งมีทั้งรุ่นเยาวชนจนถึงบุคคลทั่วไป”