Ericsson จับมือกับทรูคอร์ปอเรชั่น (True Corporation) นำเทคโนโลยี 5G Hologram มาจัดแสดงโชว์เคส ‘Connected Music’ ด้วยประสิทธิภาพของเครือข่าย 5G เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ระหว่างการจัดงาน True 5G World ที่สยามสแควร์ กรุงเทพฯ เป็นเวลา 4 วันเต็ม
โดยในช่วงการสาธิตได้มีการเชื่อมต่อการแสดงโชว์เคสสด ๆ ของดนตรีสองรายการเข้าเป็นหนึ่งเดียวด้วยเครือข่าย 5G เพื่อมอบประสบการณ์ความสนุกให้กับผู้ชมแบบเรียลไทม์จากสองสถานที่จัดงาน
การควบคุม สั่งการ และทำงานร่วมกันเพื่อจัดแสดงดนตรีในสถานที่ที่ต่างกันแบบเรียลไทม์คือวิวัฒนาการของวงการศิลปะการแสดง ที่สามารถช่วยลดเวลาและต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือ รวมทั้งการเตรียมการแสดง การฝึกซ้อมและการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มมูลค่าและลูกเล่นให้กับผลงานเพลงของนักดนตรีมืออาชีพในอุตสาหกรรมรวมถึงผู้ผลิต ผู้จัดงานและอาจารย์ผู้ฝึกสอนอีกด้วย ซึ่งการแสดงโชว์เคสในครั้งนี้จะเน้นย้ำถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยี 5G ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงอารมณ์ ความรู้สึกและการมีส่วนร่วมของผู้คนกับงานดนตรี พร้อมเปิดโลกใหม่ให้กับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
“อีริคสันคือผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมรายแรกของโลกที่มีการนำเครือข่าย 5G มาปรับใช้ในสี่ทวีป วันนี้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการทำข้อตกลงและสัญญาทางการค้ากับลูกค้ามากถึง 78 ราย โดยมีถึง 24 ราย เปิดใช้งานเครือข่าย 5G แล้วใน 14 ประเทศทั่วโลก เรามุ่งมั่นที่จะแบ่งปันประสบการณ์การใช้เทคโนโลยี 5G และการเรียนรู้ให้กับประเทศไทยเพื่อให้ได้รับอรรถประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G แบบเต็มประสิทธิภาพ” นาดีน กล่าวเพิ่มเติม
คุณสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการพาณิชย์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “เราไม่เคยหยุดพัฒนานวัตกรรมและบริการต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับทุกเทรนด์เทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในโลกแห่งอนาคต และเทคโนโลยีที่คนทั่วทั้งโลกรวมถึงชาวไทยต่างกำลังจับตามอง ก็คือ เทคโนโลยี 5G ที่จะมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในทุกมิติ กลุ่มทรูพร้อมเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงนี้ ที่ผ่านมาเราได้พัฒนา และเตรียมความพร้อมในการส่งสัญญาณเครือข่าย 5G มาโดยตลอด เพื่อนำไปสู่การใช้งานที่สร้างสรรค์ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทุกคน”
จากรายงาน ConsumerLab ของอีริคสัน ผู้บริโภคชาวไทยกำลังรอใช้งานเครือข่าย 5G อยู่ มีข้อมูลเจาะลึกเฉพาะของประเทศไทย ที่ระบุว่าผู้บริโภคชาวไทย 1 ใน 2 คนจะเปลี่ยนเครือข่ายสัญญาณมือถือไปสู่ผู้ให้บริการรายใหม่ที่รองรับ 5G ภายในหกเดือน หากผู้ให้บริการรายเดิมนั้นไม่มีระบบ 5G ให้บริการ นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าผู้บริโภคในประเทศไทยจะใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกสามชั่วโมงในการชมวิดีโอบนอุปกรณ์มือถือต่าง ๆ โดยช่วงเวลาที่เพิ่มขึ้นนั้นจะเป็นการใช้แว่นตา AR / VR ถึงหนึ่งชั่วโมง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด