ผลวิจัยคาด มหาเศรษฐีทั่วโลก ย้ายประเทศไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มากสุด ส่วนรัสเซียมีมหาเศรษฐีย้ายหนีมากที่สุด | Techsauce

ผลวิจัยคาด มหาเศรษฐีทั่วโลก ย้ายประเทศไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มากสุด ส่วนรัสเซียมีมหาเศรษฐีย้ายหนีมากที่สุด

รายงานพลเมืองโลกของเฮนลี่ย์ (Henley Global Citizens Report) ฉบับล่าสุด ซึ่งติดตามแนวโน้มการโยกย้ายความมั่งคั่งส่วนบุคคลและการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานทั่วโลก ระบุว่า เงินทุนส่วนบุคคลไหลออกจากรัสเซียและยูเครนอย่างมหาศาล ขณะที่สหราชอาณาจักรเสียตำแหน่งศูนย์กลางความมั่งคั่ง และสหรัฐอเมริกามีความน่าดึงดูดใจน้อยลงอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้มีความมั่งคั่งทั่วโลก ด้านสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) คาดว่าจะมีมหาเศรษฐีทั่วโลกไหลเข้าประเทศมากที่สุดในปี 2565

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

รายงานประจำไตรมาส 2 ที่เผยแพร่โดยเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส (Henley & Partners) บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนเพื่อขอสัญชาติและที่อยู่อาศัยระหว่างประเทศ ได้มีการคาดการณ์จำนวนมหาเศรษฐีผู้ถือครองสกุลเงินดอลลาร์ที่ย้ายเข้าและย้ายออกจากประเทศในปี 2565 (ความแตกต่างระหว่างจำนวนผู้มีความมั่งคั่งระดับสูง (HNWI) ที่ย้ายเข้าและย้ายออกประเทศใดประเทศหนึ่ง) โดยรวบรวมข้อมูลมาจากบริษัทนิวเวิลด์เวลท์ (New World Wealth)

ข้อมูลจากรายงานเป็นไปตามคาด โดยรัสเซียมีมหาเศรษฐีย้ายออกจากประเทศมากที่สุดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่ายอดไหลออกสุทธิจะอยู่ที่ราว 15,000 คน ณ สิ้นปี 2565 หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 15% ของผู้มีความมั่งคั่งระดับสูงทั้งหมดในประเทศ และมากกว่าปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดโควิดถึง 9,500 คน 

ขณะเดียวกัน การที่รัสเซียบุกยูเครนก็ทำให้ผู้มีความมั่งคั่งระดับสูงจำนวนมากย้ายออกจากยูเครน และคาดว่ายอดไหลออกสุทธิจะพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,800 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 42% ของผู้มีความมั่งคั่งระดับสูงทั้งหมดในประเทศ และมากกว่าปี 2562 ถึง 2,400 คน ทั้งนี้ ไม่มีข้อมูลรายประเทศในปี 2563 และ 2564 เนื่องจากมีการล็อกดาวน์และการจำกัดการเดินทางในสถานการณ์โควิด

ตัวเลขคาดการณ์จากรายงานสรุปข้อมูลการโยกย้ายความมั่งคั่งส่วนบุคคลของเฮนลี่ย์ (Henley Private Wealth Migration Dashboard) ได้เปิดเผยรายชื่อ 10 ประเทศที่คาดว่าผู้มีความมั่งคั่งระดับสูงจะไหลเข้าประเทศมากที่สุดในปี 2565 ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ อิสราเอล สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา โปรตุเกส กรีซ แคนาดา และนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ มหาเศรษฐีจำนวนมากยังมีแนวโน้มย้ายไปยังประเทศ "สาม ม." ได้แก่ มอลตา มอริเชียส และโมนาโก ส่วน 10 ประเทศที่คาดว่าผู้มีความมั่งคั่งระดับสูงจะไหลออกจากประเทศมากที่สุด ได้แก่ รัสเซีย จีน อินเดีย ฮ่องกง ยูเครน บราซิล สหราชอาณาจักร เม็กซิโก ซาอุดีอาระเบีย และอินโดนีเซีย

ดร. ยอร์ก สเตฟเฟน (Dr. Juerg Steffen) ซีอีโอของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า มหาเศรษฐีราว 88,000 คนจะย้ายประเทศภายในสิ้นปีนี้ น้อยกว่าปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดโควิดราว 22,000 คน "ในปีหน้า (2566) คาดว่าจำนวนมหาเศรษฐีที่ย้ายประเทศจะพุ่งสูงสุดแตะระดับ 125,000 คน เนื่องจากนักลงทุนผู้มั่งคั่งและครอบครัวมีการเตรียมพร้อมอย่างจริงจังเพื่อรับมือกับระเบียบโลกใหม่หลังยุคโควิด"

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า สหราชอาณาจักรซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลก ยังคงมีมหาเศรษฐีไหลออกอย่างต่อเนื่อง และคาดว่ายอดไหลออกสุทธิจะอยู่ที่ราว 1,500 คนในปี 2565 โดยแนวโน้มดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว นับตั้งแต่มีการลงประชามติให้อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และมีการประมาณการว่าสหราชอาณาจักรมีมหาเศรษฐีไหลออกสุทธิราว 12,000 คนนับตั้งแต่ปี 2560

ด้านสหรัฐอเมริกาก็ได้รับความนิยมน้อยลงอย่างชัดเจนในหมู่มหาเศรษฐีที่ต้องการย้ายประเทศ โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะการขึ้นภาษีคนรวย แต่ก็ยังมีมหาเศรษฐีไหลเข้ามากกว่าไหลออก และคาดว่าจะมียอดไหลเข้าสุทธิ 1,500 คนในปี 2565 แม้ว่าจะร่วงลงถึง 86% จากปี 2562 ซึ่งมีมหาเศรษฐีไหลเข้าสุทธิ 10,800 คน

ในทางตรงกันข้าม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กลายเป็นจุดสนใจอย่างมากในหมู่นักลงทุนผู้มีความมั่งคั่ง และคาดว่าจะมีมหาเศรษฐีไหลเข้าสุทธิมากที่สุดในโลกในปี 2565 ที่ระดับ 4,000 คน หรือพุ่งขึ้นถึง 208% จากปี 2562 ซึ่งมีมหาเศรษฐีไหลเข้าสุทธิ 1,300 คน และถือเป็นสถิติสูงสุดของประเทศ

คุณมิชา เกลนนี (Misha Glenny) ผู้สื่อข่าวมือรางวัล ได้แสดงความคิดเห็นในรายงานพลเมืองโลกของเฮนลี่ย์ โดยระบุว่า ชาวรัสเซียผู้มีความมั่งคั่งจำนวนมากกำลังย้ายประเทศไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอิสราเอล "ก่อนที่จะมีการคว่ำบาตรระบบธนาคารของรัสเซีย ก็มีการไหลออกของเงินทุนมหาศาลแล้ว โดยเหตุผลสำคัญเป็นเพราะการบริหารประเทศตามอำเภอใจของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน รวมถึงการที่เขาเรียกร้องความจงรักภักดีจากชนชั้นกลางและผู้ที่มีความมั่งคั่งในรัสเซีย"

ศาสตราจารย์เทรเวอร์ วิลเลียมส์ (Prof. Trevor Williams) อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของลอยด์ส แบงก์ คอมเมอร์เชียล (Lloyds Bank Commercial) กล่าวว่า บรรดาประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่จะมีมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นมากในช่วงทศวรรษหน้า "จำนวนผู้มีความมั่งคั่งระดับสูงในศรีลังกาคาดว่าจะพุ่งขึ้น 90% ภายในปี 2574 ด้านจำนวนมหาเศรษฐีในอินเดียและมอริเชียสคาดว่าจะทะยานขึ้น 80% ส่วนจีนคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 50% ขณะที่สหรัฐอเมริกาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 20% ส่วนฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสหราชอาณาจักร คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 10% เท่านั้น"

อ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่ https://www.henleyglobal.com/newsroom/press-releases/henley-global-citizens-report-june-2022-millionaires-on-the-move

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

อว.-บพข. ร่วมผลักดัน Deep Tech Startup ไทยเจาะตลาดนอร์ดิก

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำโดยหน่วยงานบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) จัดงาน "OKRs Workshop: From Epicenter to Th...

Responsive image

Wavemaker และ กรุงศรี ฟินโนเวต ลงทุน Series B ใน 24X เดินหน้ายกระดับตลาดซ่อมบำรุง

24X ประกาศความสำเร็จครั้งใหม่ในการระดมทุนรอบซีรีส์ บี โดยสองกลุ่มนักลงทุนระดับชั้นนำอย่าง เวฟเมคเกอร์ เวนเจอร์สและกรุงศรี ฟินโนเวต ในเครือกรุงศรี ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ 24X ในการ...

Responsive image

ทีทีบี ยกระดับ "ยินดี-Yindee" ผู้ช่วย AI อัจฉริยะ ตอบทุกคำถามฉับไว บน Mobile Banking ด้วย Azure OpenAI ครั้งแรกในไทย

ทีทีบี มุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วย Digital Transformation โชว์ความสำเร็จการพัฒนาผู้ช่วยบนมือถือ “ยินดี-Yindee” เวอร์ชันใหม่ ถือเป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่นำ Generative AI ผ่าน Microsoft A...