เปิดผลสำรวจ 10 ธุรกิจ-สายงานดาวรุ่ง ในตลาดงานหลังยุคโควิด | Techsauce

เปิดผลสำรวจ 10 ธุรกิจ-สายงานดาวรุ่ง ในตลาดงานหลังยุคโควิด

JobsDB สรุปภาพรวมแนวโน้มตลาดงานยุคหลังโควิด-19 เจาะผลสำรวจ 10 ธุรกิจ-สายงานดาวรุ่งพร้อมแนะแรงงานปรับตัวเสริมทักษะดิจิทัล รองรับคลื่นความต้องการตลาดงาน 

10 ธุรกิจ-สายงานดาวรุ่งจ๊อบส์ดีบี (JobsDB) เปิดผลสำรวจสรุปภาพรวมและแนวโน้มตลาดงานปี 2565 (SURVEY TO SURVIVE : เจาะ INSIGHT แนวโน้มตลาดงาน ทักษะอะไรที่คนทำงานยุคใหม่ต้องมี) โดยอ้างอิงจากจำนวนประกาศงานและข้อมูลการสมัครงาน พบว่า เศรษฐกิจภาพรวมยังคงชะลอตัว ส่งผลให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2% ส่วนในด้านตำแหน่งงานว่างปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 30% ผันแปรไปตามจำนวนที่มากขึ้นของประชากรที่ได้รับวัคซีน โดยเหล่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในช่วงเฝ้าระวังและจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด  

ในปี 2564 ที่ผ่านมา ธุรกิจที่มีจำนวนตำแหน่งที่เปิดรับสมัครงานสูงสุด ได้แก่ 

1) ธุรกิจไอที คิดเป็น 11.3%  

2) ธุรกิจขายส่ง ขายปลีก คิดเป็น 10.8%  

3) ธุรกิจธนาคารและการเงิน คิดเป็น 8.4% 

ส่วนสายงานที่มีจำนวนใบสมัครสูงสุด ได้แก่ 

1) สายงานขาย งานบริการลูกค้า งานพัฒนาธุรกิจ คิดเป็น 14.3%  

2) สายงานการตลาด งานประชาสัมพันธ์ คิดเป็น 11.7%  

3) สายงานธุรการและทรัพยากรบุคคล คิดเป็น 10.9% 

ทั้งนี้ หากพูดถึงธุรกิจที่มีการฟื้นตัวกลับมาอยู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาดได้อย่างรวดเร็ว ได้แก่ ธุรกิจสารเคมี พลาสติก กระดาษ และปิโตรเคมี, ธุรกิจไอที, ธุรกิจการผลิต และธุรกิจการแพทย์และเภสัชกรรม  แม้ว่าสถานการณ์ตลาดงานจะค่อย ๆ ปรับตัวอย่างช้า ๆ ไปตามสภาพเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบัน จ๊อบส์ดีบี ยังคงยึดมั่นในปณิธานที่ตั้งใจเป็นแพลตฟอร์มหางานที่ดีที่สุดให้แก่ผู้หางาน ล่าสุด เปิดตัวแคมเปญ Up level รวบรวมแหล่งความรู้ ข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับทักษะดิจิทัลขั้นพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูงสุด นำเสนอในรูปแบบออนไลน์คอนเทนต์ เพื่อให้ผู้หางานได้บ่มเพาะ ฝึกฝน และเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติม พร้อมพัฒนาศักยภาพขึ้นเป็นแรงงานคุณภาพในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง  

คุณดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด

คุณดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากฐานข้อมูลและผลสำรวจภาพรวมและแนวโน้มตลาดงานของจ๊อบส์ดีบี พบว่า ภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ธุรกิจที่สามารถพลิกฟื้นกลับมาได้อย่างรวดเร็วมี 4 ธุรกิจ คือ ธุรกิจสารเคมี พลาสติก กระดาษ และปิโตรเคมี ซึ่งได้รับผลพวงเชิงบวกมาจากการใช้พลาสติกที่เพิ่มขึ้นสูงมากจากการจัดส่งอาหารในช่วงโรคระบาด, ธุรกิจไอที ที่เติบโตจากพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป 

อีกทั้งการสนับสนุนของรัฐบาลที่ผลักดันการนำเอาอุปกรณ์ไอทีมาประยุกต์ใช้, ธุรกิจการผลิต จากดัชนีการผลิตที่เพิ่มขึ้นหลังจากมาตรการควบคุมโรคระบาดเริ่มผ่อนปรนลง  และธุรกิจการแพทย์และเภสัชกรรม ที่ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในช่วงวิกฤตโรคระบาดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งธุรกิจที่กลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดดเหล่านี้ ส่งผลให้ความต้องการแรงงานที่มีทักษะเกี่ยวข้องดีดตัวกลับมา โดยธุรกิจไอที, ธุรกิจขายส่ง ขายปลีก และธุรกิจการเงินและการธนาคาร ถือเป็น 3 ธุรกิจที่มีการเปิดรับสมัครงานสูงสุดคิดเป็น 11.3%, 10.8%, 8.4% ตามลำดับ   

ในส่วนของการฟื้นตัวของแต่ละสายงาน พบว่า สายงานที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด ได้แก่  

1) สายงานไอที คิดเป็น 19.1%  

2) สายงานขาย บริการลูกค้า และพัฒนาธุรกิจ คิดเป็น 19.0%  

3) สายงานวิศวกรรม คิดเป็น 13.9%  

โดยกลุ่มสายงานที่มีจำนวนประกาศงานเติบโตขึ้นมากที่สุด ได้แก่  

1) สายงานอีคอมเมิร์ซ คิดเป็น 71.7% 

2) สายงานขนส่ง คิดเป็น 43.8%  

3) สายงานการเงินและการธนาคาร คิดเป็น 26.2%  

ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์โควิด-19 มีบทบาทส่งเสริมและผลักดันการดำเนินธุรกิจ การซื้อขาย และการทำธุรกรรมบนโลกออนไลน์ ช่วยกระตุ้นให้สายงานเหล่านี้พลิกกลับขึ้นมาเป็นสายงานสำคัญและเป็นฟันเฟืองช่วยขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์

ทั้งนี้ จ๊อบส์ดีบี ได้ร่วมมือกับ บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (Boston Consulting Group) และ เดอะ เน็ตเวิร์ก (The Network) จัดทำแบบสำรวจระดับโลก “ถอดรหัสลับ จับทิศทางความต้องการคนที่มีทักษะดิจิทัล” (Decoding Digital Talent Survey) จากผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 2 แสนคน ใน 190 ประเทศ เพื่อศึกษาความต้องการที่เปลี่ยนไปของแรงงานที่มีทักษะดิจิทัลทั่วโลก ซึ่งจากผลสำรวจ พบว่า แรงงานที่มีทักษะดิจิทัลมีความกระตือรือร้นที่จะเปลี่ยนงานภายใต้สายงานเดิม โดยมีปัจจัยด้านความต้องการแสวงหาโอกาสในการก้าวหน้าอัตราค่าตอบแทนที่สูงขึ้น และความท้าทายใหม่ ๆ เป็นแรงจูงใจหลัก 

นอกจากนี้ แรงงานยุคดิจิทัลจำนวนไม่น้อยตระหนักถึงความสะดวกสบายจากการทำงานระยะไกลในช่วงวิกฤตโรคระบาด โดยเกือบ 70% ของคนทำงานทั่วโลกยินดีที่จะทำงานแบบระยะไกลให้กับองค์กรที่อยู่ต่างพื้นที่ โดย 5 ประเทศที่แรงงานในยุคนี้สนใจต้องการทำงานระยะไกลให้ด้วยมากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน และสิงคโปร์  

ผลสำรวจยังได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจอีกหนึ่งประเด็นด้วยว่า การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดงานและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่อาจเข้ามาแทนที่แรงงาน ส่งผลให้ผู้ที่มีทักษะดิจิทัลประมาณ 42% มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของระบบอัติโนมัติ รวมถึงความเป็นไปได้ของอัลกอริธึม หุ่นยนต์ หรือซอฟต์แวร์ขั้นสูง ที่อาจเข้ามาแทนที่ความสามารถและทักษะต่าง ๆ ของพวกเขา 

ทั้งนี้ ผู้มีทักษะดิจิทัลส่วนใหญ่จำเป็นต้องติดตามและเข้าใจเทคโนโลยีที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลาเพื่อฝึกทักษะใหม่ ๆ ที่มีความสำคัญและจำเป็นในการทำงาน เพื่อให้มั่นใจว่าความสามารถของพวกเขาจะนำไปสู่การจ้างงานที่มั่นคงและยั่งยืน  

ล่าสุด จ๊อบส์ดีบี ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์มหางานชั้นนำของเอเชีย เปิดตัวแคมเปญ UpLevel นำเสนอออนไลน์คอนเทนต์ครอบคลุมความรู้ทางดิจิทัลตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง ทักษะทางสังคม (Soft Skill) ที่จำเป็นสำหรับคนทำงานยุคใหม่ รวมถึงเทคนิคการเขียนเรซูเม่ และการสัมภาษณ์งานให้โดนใจ HRรวมกว่า 30 คอร์ส โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน  เพื่อติดอาวุธและอัปเลเวลคนทำงานยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

KBank-Orbix Tech จับมือ ptt พัฒนานวัตกรรมใหม่บน Blockchain สำหรับออกตราสารหนี้

KBank-Orbix Tech จับมือ ptt ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาและประยุกต์ใช้นวัตกรรมรูปแบบใหม่บนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) สำหรับธุรกรรมทางการเงินในการออกตราสารหนี้...

Responsive image

KCE เปิดบ้านรับ BOI และคณะผู้ประกอบการกว่า 36 องค์กร ชมการผลิตแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์

KCE จัดเปิดบ้านต้อนรับบีโอไอและคณะผู้ประกอบการ 36 องค์กร เยี่ยมชมกระบวนการผลิตแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์...

Responsive image

ICONSIAM x TikTok ดัน Thai Soft Power สู่เวทีโลก

ไอคอนสยาม ผนึกกำลัง TikTok สร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมาย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผลักดัน Thai Soft Power สู่เวทีโลก...