KBank จับมือ mtl ขายประกันผ่านแบงก์และบริษัทย่อย เป็นเวลา 10 ปี รับค่าตอบแทน 12,700 ล้านบาท | Techsauce

KBank จับมือ mtl ขายประกันผ่านแบงก์และบริษัทย่อย เป็นเวลา 10 ปี รับค่าตอบแทน 12,700 ล้านบาท

กสิกรไทยจับมือเมืองไทยประกันชีวิต

กสิกรไทยจับมือเมืองไทยประกันชีวิต เซ็นเป็นพันธมิตรใกล้ชิดขายประกันผ่านแบงก์และบริษัทย่อย 5 บริษัท เป็นเวลา 10 ปี รับค่าตอบแทน 12,700 ล้านบาท พร้อมร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางการขายใหม่ ๆ เพื่อก้าวเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดประกันชีวิตในไทย

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้พิจารณาข้อเสนอและเข้าทำสัญญาจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต (Bancassurance Agreement) ให้กับบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคารและบริษัทย่อยของธนาคาร 5 บริษัท แต่เพียงผู้เดียว ได้แก่ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด บริษัท หลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด บริษัท แฟคเตอรี แอนด์ อีควิปเมนท์ กสิกรไทย จำกัด บริษัท โพรเกรส มัลติ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด และบริษัทย่อยอื่นที่อาจจะจัดตั้งขึ้นในอนาคตจากการปรับโครงสร้างธุรกิจหลักของธนาคาร ในช่องทางการจำหน่ายของธนาคารและบริษัทย่อยทั้งในปัจจุบันและในอนาคต อาทิ สาขา พนักงานสาขา เอทีเอ็ม พนักงานประจำและชั่วคราว และบุคคลอื่น เช่น ตัวแทน รวมถึง ช่องทางดิจิทัล การตลาดทางตรง (Direct Marketing) และการตลาดผ่านทางโทรศัพท์ (Telemarketing)

ทั้งนี้ สัญญาจะมีระยะเวลา 10 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 และจะมีผลบังคับใช้เมื่อได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของธนาคาร พร้อมให้ยกเลิกและแทนที่สัญญาจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคารฉบับเดิม ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2552 โดยธนาคารจะได้รับค่าตอบแทนจากการให้สิทธิในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแก่ลูกค้าผ่านช่องทางธนาคารและบริษัทย่อยแก่เมืองไทยประกันชีวิตเป็นมูลค่า 12,700 ล้านบาท นอกจากนั้นยังจะได้รับค่าตอบแทนตามผลการดำเนินการขาย และค่านายหน้าในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตอีกด้วย โดยสัญญาอาจสิ้นสุดลงก่อน 10 ปีได้ หากผลการดำเนินธุรกิจถึงเกณฑ์ที่กำหนด และสามารถต่ออายุได้ไม่เกิน 2 ปี ในกรณีที่ผลการดำเนินธุรกิจไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด

นางสาวขัตติยา กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำสัญญาในครั้งนี้ เนื่องจากธนาคารมีความมั่นใจว่า เมืองไทยประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันชีวิตชั้นนำของประเทศ มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เชี่ยวชาญในตลาดประกันชีวิต และผลิตภัณฑ์ได้รับการยอมรับจากลูกค้าทุกกลุ่มของธนาคาร เห็นได้จากเมืองไทยประกันชีวิตสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งและอันดับสองจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านช่องทางการจำหน่ายผ่านธนาคารในช่วงปี 2561 – 2563

ดังนั้น การเป็นพันธมิตรระยะยาวอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้การพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ต้องลงทุนร่วมกันระยะยาว เช่น การลงทุนด้านไอทีเพิ่มมากขึ้น จะนำไปสู่การให้บริการผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่สะดวกขึ้นสำหรับลูกค้าและได้รับผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการมากขึ้น รวมทั้งมีแนวโน้มที่จะสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังลูกค้าของธนาคารตามช่องทางต่าง ๆ ที่ปัจจุบันยังเข้าไม่ถึงได้ในอนาคต

ปัจจุบัน ธนาคารกสิกรไทยมีสัดส่วนการถือหุ้นนับรวมแบบสัดส่วนผลประโยชน์สุทธิ (Effective Shareholding) ในเมืองไทยประกันชีวิตคิดเป็น 38.25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยในปี 2563 ธนาคารมีรายได้จากการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและส่วนแบ่งในกำไรของเมืองไทยประกันชีวิตทั้งหมด รวมประมาณ 9,000 ล้านบาท

นายสาระ ล่ำซำ

ด้านนายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมืองไทยประกันชีวิตมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้สานต่อความร่วมมืออันแน่นแฟ้นที่มีกันมาอย่างยาวนานกับธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเรามีความตั้งใจที่จะต่อยอดความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับธนาคารกสิกรไทยให้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดยความร่วมมือระยะยาวครั้งนี้ เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ร่วมกันของทั้งสององค์กรในการวางเป้าหมายและพร้อมเป็นผู้นำที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตรวมถึงความคุ้มครองสุขภาพอย่างเป็นเลิศ

นอกจากนี้ ยังเล็งเห็นถึงโอกาสในการร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการในรูปแบบใหม่   รวมไปถึงการพัฒนาความรู้และทักษะใหม่ของบุคลากรให้พร้อมรองรับกับโลกยุคดิจิทัล  ตลอดจนเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มของธนาคาร

ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารที่มีความมั่นคงแข็งแกร่งเสมอมา และตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยบริการด้านการเงินที่ครบวงจร สำหรับความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทสามารถใช้ศักยภาพที่มีอยู่เสริมการให้บริการทางการเงินของธนาคารได้อย่างครบถ้วนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าของธนาคาร

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แอดวานซ์เทค ครบรอบ 20 ปีในไทย ย้ำจุดยืนผู้นำ AI-IoT และ “Edge AI” ยกระดับ Smart Manufacturing, Smart City และ ESG สู่ความยั่งยืน

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม บริษัท แอดวานซ์เทค คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชัน AI, IoT และคอมพิวเตอร์เฉพาะทาง ได้จัดงานฉลองครบรอบ 20 ปีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ...

Responsive image

ยกระดับบริการลูกค้าด้วย AI BOTNOI Voice บน AWS ช่วยองค์กรไทยสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

AWS ประกาศในวันนี้ว่า BOTNOI สตาร์ทอัพด้าน Generative AI ของไทยที่เชี่ยวชาญในการสร้างผู้ช่วยเสมือนจริงสำหรับการสนทนา ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม BOTNOI Voice ขึ้นบนคลาวด์ของ AWS...

Responsive image

ดีอี ผนึก ‘อว.- ศธ.’ ร่วมมือ UNESCO นำเวที UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025

ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพงาน “UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ภายใต้แนวคิด “Ethical Governance of AI in Motion” ย้ำบทบาทผู้นำจริยธรรม AI ระดั...