มหิดล อินเตอร์ จับมือ SEAC ปั้นหลักสูตร Leading Smart SMEs เสริมศักยภาพธุรกิจไทย | Techsauce

มหิดล อินเตอร์ จับมือ SEAC ปั้นหลักสูตร Leading Smart SMEs เสริมศักยภาพธุรกิจไทย

SMEs ถือเป็นหน่วยธุรกิจที่สำคัญสำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยสัดส่วนมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของ SMEs ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) ที่มีมูลค่าเกือบ 40% โดยเฉพาะ SMEs ในภาคบริการ ซึ่งมีส่วนร่วมในการสร้าง GDP ในประเทศมากที่สุด 

Leading Smart SMEs

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่ทำให้ช่องทางในการเข้าถึงผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Digital Ecosystem ที่ช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจและเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภค ส่งผลให้ผู้ประกอบการ SMEs ต้องปรับตัวอย่างมาก เช่น การนำข้อมูลและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจและบริหารทรัพยากรบุคคล เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้ภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทาย

วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง SEAC (ซีแอค) ผู้นำด้านการพัฒนาองค์กร และบุคลากรทุกระดับ ที่มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ปั้นหลักสูตร Leading Smart SMEs เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและย่อม ได้มีโอกาสเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์เพื่อสานต่อธุรกิจของตนเองให้เติบโตได้ภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทาย ตามวิสัยทัศน์ขององค์กรในการยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านการเรียนรู้ (Empower Lives through Learning)

คุณอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC กล่าวว่า ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลและความท้าทายใหม่ต่างๆ ส่งผลให้สิ่งที่เคยทำให้องค์กรทำแล้วสำเร็จในอดีต กลับไม่ใช่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จขององค์กรในปัจจุบัน  องค์กรธุรกิจ SMEs จึงต้องปรับตัวอยู่เสมอ และปัจจัยที่จะทำให้องค์กรแข่งขันบนเวทีการค้าได้ คือ ‘คน’ เพราะถึงแม้ว่าองค์กรจะลงทุนเรื่องเทคโนโลยีและพัฒนาสินค้าดีๆ 

แต่หาก “คน” ที่เป็นรากฐานและกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรในวันนี้ไม่พร้อม ก็คงไม่สามารถดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของการทำงานในองค์กรให้ออกมาได้ ตลอดจนไม่อาจนำพาไปสู่ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้น เมื่อคนเก่งขึ้น องค์กรจะแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น โจทย์ใหญ่สำคัญที่ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ต้องมองในวันนี้ คือ การพัฒนาศักยภาพ “คน” ในการขับเคลื่อนธุรกิจขององค์กรให้เติบโตอย่างโดดเด่น เท่าทันสถานการณ์ ผ่านการ Reskill & Upskill ให้ตนเองเท่าทันโลกการทำงานยุคใหม่ และมีทักษะที่จำเป็นและสอดคล้องกับความต้องการในสถานการณ์ปัจจุบัน 

ซึ่ง SEAC (ซีแอค) เข้าใจและเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาหลักสูตรที่เสริมทักษะ ทั้งด้าน Hard Skill และ Soft Skill เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนให้เกิดทักษะแห่งอนาคต และยกระดับคุณภาพชีวิตสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน”

ศาสตราจารย์ พญ.จุฬธิดา โฉมฉาย คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์และร่วมกำหนดอนาคตที่สำคัญ ภายใต้แนวคิด “Enriching lives. Expanding potentials. Shaping futures” การร่วมมือกันครั้งนี้นับเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมายและความตั้งใจขององค์กรที่เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ซึ่งเป็นวิถีชีวิตที่จำเป็นอย่างยิ่งในโลกยุคปัจจุบัน ที่มีความซับซ้อน ผันผวน และเปลี่ยนแปลงตามพลวัต จึงเป็นที่มาครั้งสำคัญของความร่วมมือ ครั้งนี้ ซึ่ง SEAC จะเข้ามามีส่วนช่วยในการยกระดับองค์ความรู้ เสริมหลักสูตรการเรียนการสอนที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการ SMEs เพราะ “คน” คือ กลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ เช่นเดียวกับนักศึกษาและบุคลากรในสถาบันการศึกษา ที่เรียกได้ว่ามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติอย่างยิ่ง” 

คุณบุญชัย พงศ์รุ่งทรัพย์ ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ SEAC และผู้จัดการหลักสูตร Leading Smart SMEs กล่าวเสริมว่า “จากจุดแข็งของทั้งสององค์กร ไม่ว่าจะเป็นวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งมีเหล่าคณาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านการนำพาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้มีเครื่องมือ คอนเซ็ปต์ และวิธีการที่นำไปใช้ได้จริง รวมถึง SEAC ที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปีในการพัฒนาคนและองค์กร โดยนำเครื่องมือระดับโลกมาประยุกต์ใช้กับองค์กรในประเทศไทย จึงมั่นใจได้ว่าหลักสูตร จะเป็นหลักสูตรที่สามารถนำไปใช้ได้จริง และสามารถนำพาธุรกิจ SMEs ในประเทศไทยไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน”

หลักสูตร Leading Smart SMEs จึงมุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่องให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม โดยการติดอาวุธและทักษะที่ทันสมัยในการบริหารจัดการในมิติต่างๆ ซึ่งได้รับพลังความร่วมมือของทีมคณาจารย์จากภาควิชาบริหารธุรกิจของวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจของบริษัท SEAC 

สิ่งที่ทำให้หลักสูตร Leading Smart SMEs แตกต่างจากหลักสูตรทั่วไป คือ การเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended Learning) เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในหลักการและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงทันทีหลังเรียน โดยใช้เนื้อหาคุณภาพระดับสากล การันตีด้วยลิขสิทธิ์แท้จากสถาบันระดับโลก และมีทีมอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยถอดบทเรียนเพื่อเสริมความเข้าใจให้ตรงกับบริบทของประเทศไทย นอกจากนี้ ผู้เรียนยังจะได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งของผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้ห้องเรียนเสมือนจริงที่เรียกว่า “Virtual Beeline” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้เรียนสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมเรียนรู้จากบทเรียนความสำเร็จและความล้มเหลวของอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นเรียน 

หลักสูตร Leading Smart SMEs เริ่มเรียนตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2565 – 19 พฤศจิกายน 2565 (ทุกวันเสาร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ในรูปแบบ Virtual Class เรียนสดกับอาจารย์ผ่านโปรแกรม Zoom (อาจมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ของ COVID-19) ตลอดหลักสูตรนี้ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เครื่องมือ เคล็ดลับ และ Insight จากคนในแวดวง SMEs เพื่อเตรียมพร้อมขยายธุรกิจให้รอดและเติบโตจากร้อยสู่พันล้านสามารถอ่านรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ https://www3.seasiacenter.com/th/sme/ 

สอบถามรายละเอียดของโครงการเพิ่มเติมได้ที่ คุณเอม โทร. 080-042-3625 อีเมล [email protected] และ คุณกบ โทร: 080-042-3972 อีเมล [email protected]

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เตรียมพบกับงานสัมมนา Social Value thailand Forum 2024 เปลี่ยนผ่านประเทศสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน

งานสัมมนาเปลี่ยนผ่านประเทศสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยฐานความรู้ นวัตกรรม และความร่วมมือรัฐ เอกชน สังคม Accelerating Education and Partnership for the SDGs...

Responsive image

เปิดตัวโครงการนำร่อง "กำแพงพักใจ ที่พักใจให้เยาวชน" ภายใต้ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิ Wall of Sharing, Ooca และ สปสช.

โครงการนี้มีเป้าหมายในการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตสำหรับเยาวชน 2,500 คนในกรุงเทพฯ ด้วยบริการให้คำปรึกษาออนไลน์ฟรี และยังลดภาระในการเข้าถึงบริการสุขภาพจิต โดยที่เยาวชนจะได้รับก...

Responsive image

“Brother" ยกระดับมาตรฐานบริการรอบด้าน มุ่งสร้างความพึงพอใจลูกค้าพร้อมตั้งเป้าโต 6%

Brother พร้อมต่อยอดความสำเร็จจากปี 2566 มุ่งตอบโจทย์โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ยกระดับงานให้บริการสู่มาตรฐานขั้นสูง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด พร้อมเสริมแกร่งฐานลูกค้ากลุ่...