‘เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์’ ส่งหุ้น ONEE เข้าซื้อขายวันแรก ขึ้นแท่นเป็นหุ้น IPO มูลค่าสูงสุดในหมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ | Techsauce

‘เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์’ ส่งหุ้น ONEE เข้าซื้อขายวันแรก ขึ้นแท่นเป็นหุ้น IPO มูลค่าสูงสุดในหมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์

‘บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)’ ผู้นำธุรกิจสื่อและความบันเทิงแบบครบวงจรพร้อมด้วยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มากว่า 30 ปี ได้ฤกษ์ส่งหุ้น ONEE เข้าทำการซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันนี้ (5 พฤศจิกายน 2564) ขึ้นแท่นเป็นหุ้น IPO ที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในหมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ของประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทย โดยมีมูลค่าเสนอขายรวม 4,218 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO ที่ประมาณ 20,241 ล้านบาท 

ONEE

ตอกย้ำปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจากความเป็นผู้นำด้านการผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพและมีความหลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนการมีช่องทางเผยแพร่ที่ครอบคลุมทั้งสื่อออฟไลน์และออนไลน์ ที่สามารถสร้างรายได้จากทุกที่และทุกเวลา พร้อมต่อยอดความสำเร็จหลังการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยแผนการลงทุนเพื่อยกระดับการผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพ สามารถสร้างความแปลกใหม่และแตกต่างที่สอดรับกับรสนิยมและพฤติกรรมของกลุ่มผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการลงทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันและประสิทธิภาพในการให้บริการ ผ่านการพัฒนาศิลปินและบุคลากร การพัฒนาช่องทางออนไลน์หรือแพลตฟอร์ม OTT ตลอดจนการมุ่งมั่นที่จะนำคอนเทนต์ไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลกให้มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มั่นคง และยั่งยืนในระยะยาวท่ามกลางยุค Digital Disruption

นายถกลเกียรติ

นายถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชนหรือ ONEE เปิดเผยว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในโอกาสที่ The One Enterprise ได้นำหุ้น ‘ONEE’ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในหมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์เป็นวันแรกในวันนี้ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญและเป็นความภาคภูมิใจของทีมผู้บริหาร ทีมงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จของการเสนอขายหุ้น IPO และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ โดย The One Enterprise ดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นในการก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจสื่อและความบันเทิงแบบครบวงจร ด้วยโมเดลธุรกิจที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ จากรากฐานการเป็น Content Creator ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพที่มีความหลากหลายทั้ง ละคร ซิทคอม ซีรีย์ รายการวาไรตี้ เกมส์โชว์ และรายการข่าว ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ชมเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Premium Mass กลุ่ม Family กลุ่ม New Generation และกลุ่ม Edgy เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่และเป็นที่นิยม และการมีช่องทางเผยแพร่ที่ครอบคลุมทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น ช่อง ONE31 ที่เราเป็นเจ้าของ ช่อง GMM25 ที่เราทำหน้าที่เป็นตัวแทนการตลาด ช่องทางวิทยุ ช่องทาง Social Media และแพลตฟอร์ม OTT ของพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนการให้บริการในธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เช่น การจัดงานอีเวนต์ งานคอนเสิร์ต การบริหารและพัฒนาศิลปินหรือนักแสดงในสังกัด การขายสินค้าที่ระลึก และการให้เช่าสถานที่ถ่ายทำ ที่เสริมสร้างความสามารถในการสร้างรายได้จากทุกที่และทุกเวลา ผ่านการบริหารงานโดยทีมผู้บริหารที่มากด้วยประสบการณ์ และทีมงานคนรุ่นใหม่ พร้อมด้วยทัพนักแสดงและศิลปิน ที่ร่วมเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้ The One Enterprise สามารถก้าวข้ามผ่านกระแส Digital Disruption และพร้อมสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มั่นคง และยั่งยืนในระยะยาว”

ทั้งนี้ The One Enterprise ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ “การเป็นผู้นำในการสร้างความบันเทิง ความรู้ แรงบันดาลใจ เพื่อส่งมอบความสุขให้ผู้ชมทุกเพศ ทุกวัย ภายใต้คุณภาพระดับสากลที่ผสานความเป็นไทยสู่เวทีโลก” โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เป็นที่นิยมและสามารถสร้างประสบการณ์การรับชมแปลกใหม่สอดรับกับรสนิยมในทุกยุคทุกสมัย ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลและความเข้าใจในพฤติกรรมของกลุ่มผู้ชมอย่างลึกซึ้ง ทำให้สามารถครองใจผู้ชมคนไทยมาอย่างยาวนาน โดยมีส่วนแบ่งการตลาดของเม็ดเงินโฆษณาผ่านช่องทางทีวีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการพัฒนาและต่อยอดไปยังช่องทางออนไลน์ทั้ง Social Media และ OTT Platforms ทั้งในและต่างประเทศ เช่น Netflix LineTV Viu WeTV iQiYi Disney+ Hotstar เป็นต้น เพื่อนำคอนเทนต์คุณภาพของคนไทย ก้าวไกลสู่ระดับสากล

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2561-2563 มีอัตราเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้รวม 4,199 ล้านบาท  4,818 ล้านบาท และ 4,875 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR)  7.7% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 73 ล้านบาท  228 ล้านบาท และ 658 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR)  201.0% โดยมีปัจจัยมาจากโมเดลธุรกิจแบบครบวงจรที่สามารถสร้างรายได้จากทุกช่องทาง ตลอดจนการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ The One Enterprise ที่ก้าวข้ามผ่าน Digital Disruption จากพฤติกรรมการรับชมรายการผ่านทางโทรทัศน์สู่ช่องทางออนไลน์ ส่วนรายได้รวมในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา (งวด 6 เดือน 2564) อยู่ที่ 2,783 ล้านบาท เติบโต 29.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 455 ล้านบาท เป็นการเติบโตกว่า 151.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยจากการเติบโตของรายได้รวม การเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น การบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 

การเสนอขายหุ้น IPO ของ The One Enterprise ในครั้งนี้นับเป็นหุ้น IPO ที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในหมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ในประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทย โดยมีมูลค่าเสนอขายรวม 4,218 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ (Market Capitalization) ณ ราคา IPO ที่ประมาณ 20,241 ล้านบาท พร้อมด้วยกระแสตอบรับที่ดีจากทั้งนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดา ที่ให้กระแสตอบรับที่ดีและให้ความสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

ทั้งนี้ ONEE มีแผนนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปสร้างศักยภาพในการแข่งขันและพัฒนาประสิทธิภาพในการให้บริการในอนาคต ทั้งจากแผนการเพิ่มศักยภาพในการผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพในระดับสากล โดยมุ่งเพิ่มศักยภาพของฝ่ายผลิตทางด้านทีมงานประพันธ์บทละคร การถ่ายทำ การตัดต่อและเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์กราฟฟิก (Computer Graphic) ให้มีคุณภาพสมจริง การพัฒนาประสิทธิภาพของบุคลากร ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง การพัฒนาสถานที่ถ่ายทำรวมทั้งระบบและอุปกรณ์ ตลอดจนการลงทุนพัฒนาศักยภาพในการผลิตรายการเพิ่มอรรถรสการรับชมและดึงดูดผู้ชมทุกเพศทุกวัย ด้วยงบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาทภายในปี 2567 และแผนการพัฒนาขีดความสามารถระบบสารสนเทศ (Information Technology) เพื่อสร้างฐานเทคโนโลยีให้มีความแข็งแกร่งสนับสนุนการนำ Big Data มาช่วยการวิเคราะห์พฤติกรรมการรับชมสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ตรงกับรสนิยม รวมทั้งเสริมศักยภาพให้บริการช่องทางออนไลน์ของตนเองให้เป็นศูนย์กลางบริการรับชมรายการที่หลากหลายตอบโจทย์การรับชมทุกช่วงเวลา ด้วยงบลงทุนประมาณ 130 ล้านบาท ภายในปี 2566 รวมทั้งการปรับโครงสร้างเงินทุนจากการเข้าซื้อกิจการกลุ่ม GMM Channel Holding ประมาณ 2,200 ล้านบาท ภายหลัง IPO และจะนำเงินส่วนที่เหลือไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับโอกาสในการสร้างการเติบโตในอนาคต

“เรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ในวันนี้ The One Enterprise มีความพร้อมแล้วที่จะก้าวสู่การเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนชั้นนำของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเราจะยึดมั่นการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี เพื่อให้ ONEE เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นทุกท่าน ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายที่พร้อมมาร่วมเดินทางและเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนไปด้วยกันกับเรา” นายถกลเกียรติ กล่าวปิดท้าย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ม.มหิดล ชูความสำเร็จผลงานนวัตกรรมวัคซีนไข้เลือดออกเดงกี ชนิดเข็มเดียว เตรียมผลักดันออกสู่ตลาดโลก

โรคไข้เลือด เป็นหนึ่งในโรคประจำถิ่นในทุกประเทศเขตร้อนของโลกรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี มียุงลายหรือยุงรำคาญเป็นพาหะนำโรคมาสู่คน และในปัจจุบันมีประชากรประม...

Responsive image

ททท. ประกาศผู้ชนะ TAT Travel Tech Startup 2024 ทีม HAUP คว้าชัย ร่วมผลักดัน ท่องเที่ยวไทยกับ 11 ทีม Travel Tech

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศผลผู้ชนะโครงการ TAT Travel Tech Startup 2024 กิจกรรมบ่มเพาะและโจทย์ด้านการท่องเที่ยวสุดท้าทาย ร่วมกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้แนวคิด WORLD...

Responsive image

ทำความรู้จักกับซิม IoT จาก SoftBank และ 1NCE จ่ายครั้งเดียว ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 10 ปี

รู้จักซิมการ์ด IoT จาก 1NCE เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ทั่วโลกใน 173 ประเทศ ด้วยค่าใช้จ่ายครั้งเดียวใช้งานได้นาน 10 ปี เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันคุ้มค่าและจัดการง่าย...