“Privacy or Security” วลีคุ้นหูที่เป็นที่ถกเถียงกันในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมาระหว่าง “ความเป็นส่วนตัว” กับ “ความปลอดภัย” อะไรสำคัญกว่ากันในยุคดิจิทัล เรื่องดังกล่าวเกิดจากการเกิดขึ้นของข้อมูลต่างๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทุกคนสามารถนำเสนอข้อมูลโดยไม่จำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบ และนำไปสู่การสร้างความเกลียดชังในสังคมผ่านการสร้างความเกลียดชังบนโลกอินเทอร์เน็ต (Hate Speech) หรือข่าวปลอม (Fake News) และการปลอมแปลงตัวตนบนโลกออนไลน์ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่ง ณ ปัจจุบันก็ยังเป็นเรื่องที่หลาย ฝ่ายต้องหาทางออกเพื่อให้ทั้งความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสามารถไปต่อได้แบบสมดุล
หลายประเทศพยายามที่จะสร้างความปลอดภัยในโลกออนไลน์ ทั้งการควบคุมการไหลเข้าออกของข้อมูล ผ่านระบบ Single Gateway หรือการสร้างเทคโนโลยีคัดกรองข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต (Internet Filter) หรือการสร้างระบบยืนยันตัวตน (Verified Account) ที่จะเป็นการยืนยันตัวบุคคลหรือองค์กรที่ติดต่อผู้ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งอีเมล และโซเชียลมีเดีย การยืนยันตัวบุคคล (Verified Account) ถือเป็นระบบสำคัญที่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบุคคล องค์กร หรือบริษัท ที่ติดต่อไปยังบุคคลต่างๆ เพื่อยืนยันได้ว่าบุคคลหรือองค์กรที่ติดต่อไปนั้น มีตัวตนอยู่จริง ข้อมูลที่เสนอผ่านแอคเคาท์ดังกล่าวได้รับการรับรองว่าเป็นความจริง และหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ก็จะมีผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
การยืนยันตัวตน หรือ Verified Account เป็นสิ่งที่รัฐบาลหลายประเทศสร้างเพื่อความปลอดภัยในโลกดิจิทัล บางประเทศมีการจัดตั้งหรือให้อำนาจหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้บริการด้านการรับรองข้อมูลและยืนยันตัวตนในโลกออนไลน์ของบุคคลและองค์กร ผ่านหน่วยงานความมั่นคงดิจิทัลของรัฐหรือเอกชนที่ได้รับการรับรอง นอกจากนี้หลายประเทศเลือกใช้โครงข่ายการติดต่อสื่อสารทางไปรษณีย์ที่มีอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศ พัฒนาบริการการรับรองตัวตนในโลกออนไลน์ ซึ่งสอดคล้องตามข้อปฏิบัติของสหภาพสากลไปรษณีย์ หรือ UPU สู่การยืนยันตัวตน (Verified Account) ในโลกออนไลน์ ปัจจุบันมีการรับรองข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ที่นิยมทำกันทั่วโลก แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
อย่างเช่นในประเทศอังกฤษ การไปรษณีย์อังกฤษ หรือ Royal Mail Group ถือเป็นหน่วยงานที่ให้บริการรับรองและยืนยันข้อมูลผ่านระบบดิจิทัล ที่นอกเหนือจากงานบริการด้านการสื่อสารและการขนส่งพัสดุสิ่งของ โดยได้ให้บริการรับรองเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับใบอนุญาตการขับขี่ เอกสารทางการเงินและภาษี รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทำงานอย่างครบวงจร จากความพร้อมในการเข้าถึงระบบฐานข้อมูลที่ครอบคลุมและครบวงจรด้วยจุดแข็งการมีเครือข่ายทั่วประเทศของเครือข่ายไปรษณีย์ สำหรับการพัฒนาระบบยืนยันตัวตน ในประเทศไทย จำเป็นจะต้องเข้าถึงข้อมูลที่ครอบคลุมและเข้าถึงประชาชนทั่วประเทศ เพื่อสร้างความปลอดภัย ในโลกดิจิทัล ซึ่งในเร็วๆ นี้ คนไทยน่าจะได้เห็นการนำระบบดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับระบบการบริหารจัดการเอกสารสำคัญ ผ่านการจัดเก็บข้อมูลในระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ควบคู่กับระบบยืนยันตัวตน หรือ Verified Account ที่จะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการรับหรือส่งเอกสารสำคัญ ที่อาจถูกปลอมแปลงได้ง่ายในโลกออนไลน์ และเป็นทางออกที่ดีของการพัฒนาความปลอดภัยบนโลกดิจิทัลของสังคมไทยอย่างยั่งยืน ในอนาคต
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด