อสังหาฯ พลิกเกมสู่ 'Sustainable Living' เทรนด์ ESG มาแรง Gen Z พร้อมจ่ายเพื่ออนาคตสีเขียว | Techsauce

อสังหาฯ พลิกเกมสู่ 'Sustainable Living' เทรนด์ ESG มาแรง Gen Z พร้อมจ่ายเพื่ออนาคตสีเขียว

ในยุคที่ความใส่ใจสิ่งแวดล้อมกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต การปรับตัวสู่แนวคิด Sustainable Living ผ่านกรอบ ESG (Environmental, Social, Governance) ที่เน้นความยั่งยืน การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสีเขียวนั้นกลายเป็นเรื่องที่สำคัญ ในบทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงการเปลี่ยนแปลงของวงการอสังหาฯ สู่การอยู่อาศัยแบบรักษ์โลก แนวทางการปรับตัวเพื่ออนาคต และกลยุทธ์สำคัญที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม 

อสังหาริมทรัพย์ปล่อยคาร์บอนสูงถึง 40% ของการปล่อยคาร์บอนทั้งหมด

อสังหาริมทรัพย์เป็นภาคธุรกิจที่มีสัดส่วนในการปล่อยคาร์บอนสูงถึง 40% ของการปล่อยคาร์บอนโดยรวม โดยเฉพาะในช่วงเข้าอยู่อาศัย การนำแนวคิด ESG (Environmental, Social, and Governance) เข้ามาพัฒนารูปแบบการอยู่อาศัยแบบยั่งยืนจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสีเขียวไม่เพียงช่วยให้เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ แต่ยังส่งผลดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อ

ย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังคงต้องสร้างความตระหนักให้ผู้บริโภคเห็นความจำเป็นของที่อยู่อาศัยสีเขียวในวงกว้าง ท่ามกลางความท้าทายด้านต้นทุนและมาตรฐานระดับสากล ปัจจุบันทั้งในไทยและต่างประเทศ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้นำแนวคิด ESG เข้ามาเป็นกรอบการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่กระบวนการสร้างจนถึงช่วงการอยู่อาศัย ดังนี้:

  • ก่อนเข้าอยู่อาศัย: ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบตั้งแต่จุดเริ่มต้น ผ่านการออกแบบและก่อสร้างที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ลดการเกิดของเสียและเริ่มใช้การก่อสร้างสำเร็จรูป (Precast/Prefabrication/Modular) ที่เน้นการจัดการของเสียและใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างที่ช่วยให้ประหยัดทรัพยากร
  • ระหว่างเข้าอยู่อาศัย: ผู้ประกอบการมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานและน้ำ รวมทั้งการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการอยู่อาศัย โดยให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัย

Gen Z พร้อมจ่ายเพื่ออนาคตสีเขียว

สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Association of Home Builders: NAHB) ระบุว่าการพัฒนาโครงการบ้านสีเขียวจะมีต้นทุนสูงกว่าโครงการทั่วไป แต่หากมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสีเขียวมากขึ้น ต้นทุนจะไม่สูงมากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการจะมีความเชี่ยวชาญที่เพิ่มขึ้นและการประหยัดจากการผลิตที่มากขึ้น (Economies of Scale)

จากผลสำรวจ Residential Real Estate Survey 2567 โดย SCB EIC เกี่ยวกับมุมมองของผู้บริโภคต่ออสังหาริมทรัพย์ พบว่า กลุ่ม Gen Z มีความสนใจและยินดีจ่ายเพิ่มเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการที่ให้ความสำคัญกับ ESG มากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ซึ่งสะท้อนถึงความตื่นตัวของคนรุ่นใหม่ที่เห็นความสำคัญของการอยู่อาศัยแบบรักษ์โลก โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อม และจะมีบทบาทในการขับเคลื่อนตลาดอสังหาริมทรัพย์ในระยะต่อไป

SCB EIC มองว่าผู้ประกอบการควรมุ่งเน้นการดำเนินงานที่ยั่งยืนเพื่อลดผลกระทบจากธุรกิจต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในกระบวนการภายในองค์กรและการร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก ทั้งก่อนและระหว่างการอยู่อาศัย แม้จะมีความท้าทายด้านต้นทุนและมาตรฐานระดับสากลที่ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญ รวมถึงต้องสร้างความเข้าใจและความตระหนักถึงความสำคัญของที่อยู่อาศัยสีเขียวแก่ผู้ซื้อ แต่ในระยะยาว การลงทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยสีเขียวจะสร้างความคุ้มค่า ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

แนวทางการดำเนินงานเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยสีเขียว ได้แก่:

  1. การลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ผู้ประกอบการควรลงทุนปรับใช้เทคโนโลยี เช่น เทคโนโลยีก่อสร้างสำเร็จรูป, Building Information Modelling (BIM), และ Smart Construction Equipment เพื่อช่วยลดการใช้ทรัพยากรและเวลาในการก่อสร้าง นอกจากนี้ควรใช้วัสดุก่อสร้างและเครื่องจักรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อลดมลภาวะในระหว่างการก่อสร้าง
  2. การใช้มาตรฐานรับรองที่อยู่อาศัยสีเขียว: ผู้ประกอบการ ภาครัฐ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องควรส่งเสริมให้มีการใช้มาตรฐานรับรองที่อยู่อาศัยสีเขียว เช่น มาตรฐาน TREES for Home ของไทย เพื่อยกระดับคุณภาพโครงการ และอาจต่อยอดไปใช้มาตรฐานสากลอย่าง LEED for Homes เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค และขยายฐานลูกค้าสำหรับที่อยู่อาศัยสีเขียว
  3. การขยายตลาดที่อยู่อาศัยสีเขียวทั้งอุปสงค์และอุปทาน: ภาครัฐและผู้ประกอบการควรส่งเสริมให้ผู้บริโภคหันมาสนใจที่อยู่อาศัยสีเขียวเพิ่มมากขึ้น โดยอาจมีมาตรการจูงใจทั้งผู้ซื้อและผู้ประกอบการ เช่น ลดหย่อนภาษีจากการลงทุน หรือผ่อนชำระดอกเบี้ยพิเศษสำหรับโครงการสีเขียว รวมถึงให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ที่ซื้อหรือพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสีเขียว เพื่อกระตุ้นให้เกิดความต้องการซื้อ และจูงใจให้ผู้ประกอบการหันมาพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบยั่งยืน

อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่: https://www.scbeic.com/th/detail/product/sustainable-living-221024

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

LINE SCALE UP เปิดรับสตาร์ทอัพทั่วโลก ต่อยอดธุรกิจกับ LINE ก้าวสู่ระดับสากล

LINE SCALE UP เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน LINE Thailand Developer Conference 2024 ที่ผ่านมา เฟ้นหาสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ และพร้อมต่อยอดธุรกิจร่วมกับ LINE สู่เป้าหมายยกระดับธุรกิจสตา...

Responsive image

MarTech MarTalk 2024 EP.3 จากต้นกล้าสู่ความสำเร็จ ด้วยการพัฒนาคนและ MarTech

ChocoCRM จัดงานใหญ่ส่งท้ายปีกับงาน MarTech MarTalk 2024 EP.3 From Seeds to Success: Driving Business Growth with People and Marketing Technology ได้รับการตอบรับดีอย่างต่อเนื่องเป็น...

Responsive image

ทีทีบี เปิดตัว ttb smart shop พร้อม “ปังปัง” มังกรน้ำเงินมงคล ผู้ช่วยร้านค้าแบบครบวงจร

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี นำโดย นายศรัณย์ ภู่พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ พร้อมด้วย นางกนกพร จูฑา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารผลิตภัณฑ์ธุรกิจ เปิดตัวฟีเจอร...