SEA Bridge และ CCG จับมือพัฒนาธุรกิจอีสปอร์ต มุ่งสร้างโอกาสและขยายตลาดสู่เวทีโลก

Really Corporation Co., Ltd. (SEA Bridge) และ Charoensook Corporate Group Co., Ltd. (CCG) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมมือกันสร้างและส่งเสริมระบบนิเวศผู้ประกอบการอีสปอร์ต (Esports Entrepreneurship Ecosystem) โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ การลงทุน และการเติบโตของอุตสาหกรรมอีสปอร์ตทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก

ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทย ไม่เพียงแต่เป็นผู้เล่นในตลาดโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางแห่งการพัฒนาธุรกิจ นวัตกรรม เพื่อสร้างผู้ประกอบการธุรกิจอีสปอร์ต และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ผ่านการให้ความรู้ การให้คำปรึกษา และช่วยระดมทุนสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่

4 เสาหลักยุทธศาสตร์สำคัญของความร่วมมือ

1. การเป็นผู้ประกอบการและการเติบโต (Entrepreneurship & Growth): สนับสนุนผู้ประกอบการอีสปอร์ตด้วยความรู้ คำแนะนำ และโอกาสในการระดมทุน
2. การขยายตัวระดับภูมิภาคและระดับโลก (ASEAN & Global Expansion): ผลักดันธุรกิจอีสปอร์ตไทยสู่ตลาดสากล
3. การพัฒนากิจกรรมเกี่ยวกับธุรกิจอีสปอร์ตเพื่อสร้างการมีส่วนร่วม (Esports Business Activities): จัดประชุม ฟอรั่ม และโครงการเพื่อสร้างเครือข่ายและความร่วมมือในอุตสาหกรรม
4. การส่งเสริมการลงทุนและพัฒนานวัตกรรม (Investment Promotion & Innovation Development): ศึกษาแนวทางการตั้งศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ (Incubators) และกลไกการลงทุนที่เน้นการพัฒนาธุรกิจอีสปอร์ตโดยเฉพาะ

กิจกรรมและโครงการสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้น

• โครงการ “101 Esports Sharing Session Onsite” – กิจกรรมออนกราวด์ 4 ครั้ง เพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างเครือข่ายในอุตสาหกรรมอีสปอร์ต
• การโรดโชว์ทั่วอาเซียน – สำรวจโอกาสทางธุรกิจในภูมิภาคและเปิดตลาดใหม่ ๆ สำหรับผู้ประกอบการไทย
• SEA Bridge NextGen 1967 – CCG จะเป็นพันธมิตรด้านองค์ความรู้ในการพัฒนาและให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ด้านธุรกิจอีสปอร์ต
• Esports Ecosystem & Partner Gathering – เวทีพบปะผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้นำอุตสาหกรรมเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศอีสปอร์ต
• โครงการบ่มเพาะธุรกิจและกองทุนอีสปอร์ต – ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนสนับสนุนธุรกิจอีสปอร์ตเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่เติบโตได้อย่างยั่งยืน

คำกล่าวจากผู้นำองค์กร

นายธนกฤษณ์ เสริมสุขสัน (Casper), Founder ของ SEA Bridge กล่าวว่า

เรารู้สึกตื่นเต้นกับความร่วมมือครั้งนี้ เพราะอีสปอร์ตเป็นได้มากกว่าเวทีแข่งขัน แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ได้ ปัจจุบันประเทศไทยมีนักกีฬาอีสปอร์ตที่ประสบความสำเร็จในเวทีโลกมาแล้ว เราจึงเห็นโอกาสที่จะต่อยอดและผลักดันผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้ใช้ธุรกิจอีสปอร์ตเป็นแพลตฟอร์มในการสร้างอาชีพในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

ทั้งนี้ ในกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอีสปอร์ตที่ผ่านมาของ ATHRON มีผู้เข้าร่วมรับฟังมากกว่า 1,000 คน ผนวกกับโครงการพัฒนาคนรุ่นใหม่ SEA Bridge NextGen โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมในโครงการกว่า 2,000 คน จาก 46 มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก เช่น New York University (NYU), University of Michigan, University of Southern California (USC), Imperial College London (ICL), London School of Economics (LSE), และ National University of Singapore (NUS) เป็นต้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะร่วมกับพัฒนาบุคลากรสู่อุตสาหกรรมแห่งโลกอนาคตครั้งนี้

นายเจษฎา ด่านปาน (Jade), Founder & Group CEO ของ CCG กล่าวเสริมว่า

ATHRON มีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอุตสาหกรรมอีสปอร์ตไทยให้เติบโตในระดับสากล เราเชื่อว่าการร่วมมือกับ SEA Bridge ในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยผลักดันระบบนิเวศอีสปอร์ตของไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สนใจในอุตสาหกรรมอีสปอร์ตสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง

โดยที่ผ่านมา ATHRON ได้จัด 101 Esports Sharing Session ซึ่งได้รับเกียรติจาก ผู้เล่นในระดับแถวหน้าของวงการอีสปอร์ตทั้งจากไทยและต่างประเทศกว่า 40 คน อาทิ Mr. Kevin Nutley จาก Global Esports Federation, Mr. Mathis Friesel จาก Team Liquid: Dota 2, และ Mr. Kim Jae-Hyun จาก DN Freecs: Tekke รวมถึง โค้ชเหน่ง ธนา ขำเรือง โค้ชทีม Free Fire จาก Team Falcons ที่นำทีมเยาวชนไทยคว้าโอกาสในการแข่งขันระดับโลก EWC2024 ที่ผ่านมา เข้าร่วมแชร์ประสบการณ์และองค์ความรู้ เพื่อช่วยให้เยาวชนไทยมีความรู้ที่จะแข่งขันได้ในระดับโลกต่อไป

การลงนามบันทึกข้อตกลงนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ และส่งเสริมอุตสาหกรรมอีสปอร์ตของไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีสากล โดยนำจุดแข็งของทั้งสององค์กร มาร่วมดำเนินงานตามข้อตกลงที่ได้รับความเห็นชอบร่วมกัน พร้อมเตรียมลงนามข้อตกลงเพิ่มเติมสำหรับโครงการในอนาคตต่อไป