STelligence ผลักดันองค์กรไทยสู่ยุค AI ด้วย 5 โซลูชันใหม่ | Techsauce

STelligence ผลักดันองค์กรไทยสู่ยุค AI ด้วย 5 โซลูชันใหม่

STelligence บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation ของไทย เปิดตัว 5 โซลูชัน AI ใหม่ มุ่งตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจไทยและช่วยให้องค์กรไทยสามารถนำ AI มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นAI ดร.สันติสุข ลิ้มปิติเจริญโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด (STelligence) กล่าวว่า โซลูชันเหล่านี้พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์กว่า 10 ปีของบริษัท เพื่อยกระดับองค์กรไทย ให้ก้าวข้ามไปสู่โลก AI ได้อย่างไร้รอยต่อ โซลูชันต่างๆ จึงถูกออกแบบมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพการใช้งานของโซลูชันด้านข้อมูล (Data) ระบบอัตโนมัติ (Automation) และความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) ที่องค์กรต่างๆ ใช้งานอยู่แล้ว ให้ตอบโจทย์ยิ่งขึ้น และเชื่อมั่นว่าโซลูชันของเราจะช่วยเสริมศักยภาพให้องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนพัฒนาได้อย่างมั่นคง พร้อมขับเคลื่อนศักยภาพเพื่อก้าวสู่ การเป็นผู้นำในเวทีระดับสากล 

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 บริษัท เอสเทลลิเจนซ์ จึงได้จัดงานสัมมนา AI Solution Day 2024 ณ โรงแรม JW Marriott Bangkok Hotel เพื่อเปิดตัว 5 โซลูชัน AI พร้อมใช้ขึ้นเป็นครั้งแรก ร่วมกับพันธมิตรอย่าง Neo4j และ Gemini Data 

โซลูชันใหม่ทั้ง 5 ประกอบด้วย

  • Enterprise Risk Management Platform: แพลตฟอร์ม ผู้ช่วย AI ประเมินความเสี่ยงภายในองค์กร แพลตฟอร์มนี้จะรับข้อมูลจากผู้ใช้งานในรูปแบบ text, google sheet และอื่นๆ  เพื่อนำมาตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI จากนั้นระบบจะให้คำแนะนำ โดยเสนอแนะสิ่งที่ควรเพิ่มเติม โดยขั้นตอนสุดท้ายเมื่อได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ แพลตฟอร์มจะทำการสร้างรายงานในรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับทีมที่เกี่ยวข้องในลำดับถัดไป 
  • AI Market Insight: แพลตฟอร์ม AI วิเคราะห์ข้อมูลตลาดและข่าวสาร เป็นความสามารถที่เหนือขั้นกว่า Chatbot โดยแพลตฟอร์มนี้ออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนในการใช้งาน ด้วยการตัด Interface แบบแชทออกไป ซึ่งจะช่วยลดปัญหาด้านการใช้งาน และทำให้แพลตฟอร์มนี้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่มีระดับความเชี่ยวชาญ ทางเทคนิคที่หลากหลาย ความสามารถหลักคือการดึงข้อมูลข่าวสารที่ต้องการจากแหล่งข่าวตามที่ผู้ใช้งานกำหนด และทำการแปลภาษา สรุปบทความ รวมถึงวิเคราะห์ข้อมูลว่าข่าวสารเหล่านี้มีทิศทางอย่างไร (Sentiment) ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปวิเคราะห์ต่อยอดได้ว่าจะส่งผลอย่างไรกับธุรกิจ  โดยที่แพลตฟอร์มนี้รองรับหลายภาษา เช่น ไทย จีน อังกฤษ ญี่ปุ่นอาหรับ และอื่นๆ  
  • Conversation Assessment System: ระบบ AI ตรวจสอบข้อมูลเสียงการสนทนา พัฒนาขึ้นเพื่อลดความซับซ้อนในการใช้งาน โดยออกแบบให้สามารถอัปโหลดไฟล์เสียงเข้าสู่ระบบได้อย่างง่ายดาย จากนั้น ระบบจะทำการวิเคราะห์เสียงและค้นหาคำสำคัญที่ต้องการภายในไฟล์เสียงนั้นๆ ผ่านการค้นหาคำหลักแบบหลายคำ (Multi-keywords Search) นอกจากนี้ ระบบยังมาพร้อมกับแดชบอร์ดที่แสดงผลการตรวจสอบ Compliance และประสิทธิภาพของตัวแทน  (Agent Performance) รวมทั้งสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน เหมาะสำหรับการนำไปใช้ใน Contact Center เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบและวิเคราะห์การสนทนา 
  • Graph-driven Knowledge Management: ระบบ AI บริหารจัดการความรู้องค์กร แพลตฟอร์มนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับข้อมูลหลากหลายประเภท และสร้าง Knowledge Graph ที่ตอบโจทย์ตามคำถามของผู้ใช้ โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Multi-Agent เพื่อรองรับการขยายระบบในองค์กรขนาดใหญ่ ทำให้สามารถ จัดการคำขอและการสืบค้นที่ซับซ้อนได้หลายรายการพร้อมกัน นอกจากนี้ยังผสาน AI ที่อธิบายได้ เพื่อนำเสนอคำตอบที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ และสามารถตรวจสอบได้ ผู้ใช้สามารถเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังคำตอบแต่ละข้อ เพิ่มความมั่นใจและสอดคล้องกับ ข้อกำหนดต่างๆ เช่น ใน process เดิมเรามีการหาข้อมูลตามแหล่งต่างๆ ซึ่งอาจจะทำให้รับข่าวสารที่ไม่ครบถ้วนหรือไม่อัพเดท เนื่องจากว่าการหาข้อมูลมีหลายขั้นตอน แต่หากใช้ Graph-driven Knowledge Management จะทำให้องค์กรมีระบบรองรับ การจัดเก็บข้อมูลอย่างถูกต้อง และอัพเดทล่าสุด ดังนั้นจึงสามารถจัดการกับปัญหาที่พบในข้างต้นได้ 
  • Supply Chain Intelligence: ระบบ AI วิเคราะห์ข้อมูล Supply Chain เชิงลึก เป็นโซลูชัน AI ที่ช่วยองค์กร ในการวิเคราะห์ข้อมูล เชิงลึกเกี่ยวกับ Supply Chain ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลสำคัญผ่านการเชื่อมต่อกับ Gemini Enterprises ข้อได้เปรียบที่สำคัญของโซลูชันนี้คือการลดปัญหา “hallucination” หรือการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และยังเพิ่มความแม่นยำ ของข้อมูล ทำให้การวิเคราะห์เป็นไปอย่างถูกต้องและเชื่อถือได้ โดย ทาง Gemini ได้ยกตัวอย่างการใช้งานจริงของโซลูชันนี้ ในหลากหลายบริบท เช่น การจัดการ Supply Chain, การค้าปลีก และการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งแสดงให้เห็น ถึงความสามารถของระบบในการปรับใช้ในสถานการณ์จริง ช่วยให้องค์กรสามารถใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างกลยุทธ์ และการตัดสินใจที่แข็งแกร่งขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความแม่นยำของข้อมูล 

โซลูชันเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละองค์กร โดย STelligence มุ่งหวังที่จะช่วยให้องค์กรไทย ทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถนำ AI ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มศักยภาพ และก้าวสู่ความสำเร็จในระดับสากล

นายสรุจ ทิพเสนา CTO ของ STelligence เน้นย้ำว่า โซลูชันเหล่านี้ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงปัญหาเฉพาะของคนไทย และบริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจไทยอย่างแท้จริง

การเปิดตัวโซลูชัน AI ใหม่ของ STelligence ถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้องค์กรไทยเข้าสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการช่วยให้องค์กรไทยประสบความสำเร็จในโลกดิจิทัล

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ม.มหิดล ชูความสำเร็จผลงานนวัตกรรมวัคซีนไข้เลือดออกเดงกี ชนิดเข็มเดียว เตรียมผลักดันออกสู่ตลาดโลก

โรคไข้เลือด เป็นหนึ่งในโรคประจำถิ่นในทุกประเทศเขตร้อนของโลกรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี มียุงลายหรือยุงรำคาญเป็นพาหะนำโรคมาสู่คน และในปัจจุบันมีประชากรประม...

Responsive image

ททท. ประกาศผู้ชนะ TAT Travel Tech Startup 2024 ทีม HAUP คว้าชัย ร่วมผลักดัน ท่องเที่ยวไทยกับ 11 ทีม Travel Tech

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศผลผู้ชนะโครงการ TAT Travel Tech Startup 2024 กิจกรรมบ่มเพาะและโจทย์ด้านการท่องเที่ยวสุดท้าทาย ร่วมกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้แนวคิด WORLD...

Responsive image

ทำความรู้จักกับซิม IoT จาก SoftBank และ 1NCE จ่ายครั้งเดียว ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 10 ปี

รู้จักซิมการ์ด IoT จาก 1NCE เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ทั่วโลกใน 173 ประเทศ ด้วยค่าใช้จ่ายครั้งเดียวใช้งานได้นาน 10 ปี เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันคุ้มค่าและจัดการง่าย...