STT GDC Thailand เปิดบริการ Data Center ระดับ Hyperscale รองรับอุตสาหกรรมดิจิทัลในไทยที่กำลังเติบโตสูง | Techsauce

STT GDC Thailand เปิดบริการ Data Center ระดับ Hyperscale รองรับอุตสาหกรรมดิจิทัลในไทยที่กำลังเติบโตสูง

เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) หรือ “STT GDC Thailand” ผู้นำด้านการให้บริการ Data Center ประกาศเปิดตัว “STT Bangkok 1” ดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลแห่งแรก (Hyperscale Data Center) ในกรุงเทพฯ ที่เปิดกว้างให้เชื่อมต่อแบบเสรี (carrier-neutral) และมาพร้อมกับมาตรฐานระดับโลก 

Data Center

STT Bangkok 1 เป็นหนึ่งในสองอาคารของดาต้าเซ็นเตอร์แคมปัส STT Bangkok ซึ่งตั้งอยู่บนถนนหัวหมาก หนึ่งในย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ ตัวอาคารมีความสูง 7 ชั้น บนพื้นที่ทั้งหมด 30,000 ตารางเมตร และมีกำลังไฟพร้อมใช้สูงถึง 20 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจของลูกค้า หลังจากพัฒนาทั้งสองอาคารจนเสร็จสมบูรณ์ ดาต้าเซ็นเตอร์แคมปัสแห่งนี้จะมีกำลังไฟรวมถึง 40 เมกะวัตต์ 

“การเปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แคมปัส STT Bangkok ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทและเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทย” นายศุภรัฒศ์ ศิวะเพ็ชรานาถ สิงหรา ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าว “ด้วยอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลที่คาดการณ์ไว้ที่ 26.5% เรามองเห็นความต้องการในบริการโคโลเคชั่นที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จากองค์กรและผู้ให้บริการคลาวด์ที่ต่างเร่งขยายขอบเขตการให้บริการของตัวเองเพื่อตอบรับความต้องการด้านดิจิทัลของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และด้วยศักยภาพที่เรามี เรามั่นใจว่าจะสามารถตอบรับความต้องการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น โดยเริ่มจากการปูรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อยกระดับให้ภาคธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมเติบโตอย่างมั่นใจเพื่ออนาคตดิจิทัลที่ชาญฉลาด รวมถึงสร้างความยั่งยืนทางด้านดิจิทัลอีกด้วย” 

“เป็นที่แน่ชัดว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เราจึงได้ตัดสินใจลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อรองรับกระแสของเทคโนโลยีที่กำลังมาอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเพื่อสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่ง ซึ่งเรามีความพร้อมที่จะเติบโตอย่างมาก ทั้งนี้ เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ ได้พิสูจน์ถึงความสามารถในการสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถดำเนินงานและขยายธุรกิจให้เติบโตได้ในหลากหลายตลาดที่เราเคยให้บริการในภูมิภาคเอเชียที่อุตสาหกรรมมีความซับซ้อนและเติบโตอย่างรวดเร็ว” นายเคลเมนท์ โกฮ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ กล่าว “เพื่อส่งมอบบริการที่ตรงตามความคาดหวังของลูกค้า เรามีความยืดหยุ่นและพร้อมปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าอยู่เสมอ รวมทั้งมีความสม่ำเสมอในการส่งมอบประสบการณ์และความเชี่ยวชาญให้กับลูกค้าในทุกๆ ตลาดที่เราได้เข้าไปให้บริการ” 

จากการเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลที่พร้อมให้บริการที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ และเปิดกว้างให้เชื่อมต่อแบบเป็นกลาง STT Bangkok 1 พร้อมที่จะส่งมอบบริการโคโลเคชั่นที่มีเอกลักษณ์และมีมาตรฐานระดับสูง ทั้งในด้านการออกแบบและการปฏิบัติการให้กับลูกค้าองค์กรในประเทศไทย 

Data Center แห่งแรกในประเทศไทยที่คว้ามาตรฐานด้านการออกแบบระดับสากลจาก TIA, Uptime Institute และ LEED 

STT Bangkok 1

STT Bangkok 1 นับเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลแห่งแรกของประเทศไทยที่คว้ามาตรฐานดาต้าเซ็นเตอร์จากทั้ง TIA-942 Certification Rated-3 และ Uptime Institute Tier III Certification ด้านการออกแบบและด้านการก่อสร้างจากสถาบัน The Telecommunications Industry Association (TIA) และ Uptime Institute ตามลำดับ ซึ่งเป็นองค์กรรับรองมาตรฐานดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลก โดยมาตรฐาน TIA-942 จะครอบคลุมในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานของระบบโทรคมนาคมและองค์ประกอบสำคัญของดาต้าเซ็นเตอร์ เช่น ทำเลที่ตั้ง การออกแบบสถาปัตยกรรม โครงสร้างอาคาร ระบบไฟฟ้า โครงสร้างระบบ ระบบป้องกันอัคคีภัย และความปลอดภัยทางกายภาพ เป็นต้น ส่วนมาตรฐาน Uptime Tier III ให้การรับรองว่า STT Bangkok 1 จะสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในระหว่างการบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ 

นอกจากนี้ STT Bangkok 1 ยังได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว LEED®  (Leadership in Energy and Environmental Design) ระดับ Gold version 4 จากองค์กร U.S. Green Building Council (USGBC) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลที่ใช้ประเมินอาคารด้านการประหยัดพลังงานและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมาตรฐาน LEED Gold ช่วยสร้างความมั่นใจว่า ดาต้าเซ็นเตอร์ STT Bangkok 1 มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงในเรื่องการใช้ทรัพยากรน้ำ พลังงาน คุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในอาคาร และการใช้วัสดุและทรัพยากร รวมถึงการบริหารจัดการสาธารณูปโภคและการคมนาคมที่มีผลต่อชุมชนที่ตั้งอยู่ สะท้อนถึงภารกิจสำคัญของ STT GDC ในการลดปริมาณการผลิตคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้เหลือศูนย์ภายในปี 2573

ที่สำคัญดาต้าเซ็นเตอร์ STT Bangkok 1 ยังออกแบบมาพร้อมกับมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด ประกอบด้วย ระบบป้องกันภัยหลายชั้น (multi-layer security) การควบคุมการเข้าออก กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมาตรฐาน Threat and Vulnerability Risk Assessment (TVRA) เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมของการปฏิบัติการที่มีความปลอดภัยสูงสุด  

ในขณะเดียวกันดาต้าเซ็นเตอร์ STT Bangkok 1 ยังได้รับการรับรองมาตรฐานในด้านความปลอดภัยข้อมูลและการบริหารความเสี่ยง ประกอบด้วยมาตรฐาน ISO27001 และมาตรฐาน PCI-DSS (Payment Card Industry Data Security Standard) ซึ่งช่วยตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัท ในการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของสภาพแวดล้อมในการเก็บข้อมูล เพื่อปกป้องข้อมูลที่มีค่าของลูกค้าจากการรั่วไหลทุกรูปแบบ รองรับด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าให้มากที่สุด 

ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการ Data Center ระดับ Hyperscale

STT GDC พร้อมนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่มีมายาวนานสู่ตลาดประเทศไทย ผ่าน STT Bangkok 1 ดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลที่ออกแบบมาพร้อมกับบริการโคโลเคชั่นที่มีความยืดหยุ่น และมีการเชื่อมต่อที่เป็นกลาง เปิดกว้างในการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการชั้นนำทุกค่ายภายในประเทศ โดยประสบการณ์ที่สั่งสมในการให้บริการในตลาดเอเชียและสหราชอาณาจักร ทำให้ STT GDC มีความเข้าใจในความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม และพร้อมส่งมอบบริการที่มีความยืดหยุ่น ตอบโจทย์ความต้องการในการขยายธุรกิจ มีโครงสร้างสัญญาที่ยืดหยุ่น อีกทั้งยังรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า และที่สำคัญมาพร้อมคุณภาพระดับโลก  

ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวทั้งหมด ผสานกับความเชี่ยวชาญและความเข้าใจในตลาดที่ STT GDC ให้บริการ ผลักดันให้บริษัทก้าวเข้ามายืนหยัดในตำแหน่งที่แข็งแกร่งในตลาด เพื่อตอบรับความต้องการในตลาดไฮเปอร์สเกล รวมถึงสนับสนุนธุรกิจและองค์กรในประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง  

ประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศไทย คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 53,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 มีอัตราเติบโต 25% ในปี 2563 และคาดการณ์ว่า จะมีมูลค่าเท่ากับ 1 ใน 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศไทยในปี 2570 ในขณะเดียวกันในปี 2563 จำนวนผู้บริโภคในตลาดดิจิทัลได้เติบโตถึง 30% ส่วนตลาดอีคอมเมิร์ซมีการเติบโตสูงถึง 81% ในช่วงระหว่างปี 2562-2563 ทั้งนี้ ดาต้าเซ็นเตอร์ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สำคัญของประเทศไทยในการเพิ่มขีดความสามารถและสนับสนุนให้องค์กรทั้งหลายสามารถส่งมอบบริการด้านดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Wavemaker และ กรุงศรี ฟินโนเวต ลงทุน Series B ใน 24X เดินหน้ายกระดับตลาดซ่อมบำรุง

24X ประกาศความสำเร็จครั้งใหม่ในการระดมทุนรอบซีรีส์ บี โดยสองกลุ่มนักลงทุนระดับชั้นนำอย่าง เวฟเมคเกอร์ เวนเจอร์สและกรุงศรี ฟินโนเวต ในเครือกรุงศรี ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ 24X ในการ...

Responsive image

ทีทีบี ยกระดับ "ยินดี-Yindee" ผู้ช่วย AI อัจฉริยะ ตอบทุกคำถามฉับไว บน Mobile Banking ด้วย Azure OpenAI ครั้งแรกในไทย

ทีทีบี มุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วย Digital Transformation โชว์ความสำเร็จการพัฒนาผู้ช่วยบนมือถือ “ยินดี-Yindee” เวอร์ชันใหม่ ถือเป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่นำ Generative AI ผ่าน Microsoft A...

Responsive image

สำรวจ KPMG เผย ซีอีโอพลังงานเดินหน้าลงทุนเทคโนโลยี แม้เศรษฐกิจผันผวน

การสำรวจ CEO Outlook ของเคพีเอ็มจี (KPMG) แสดงให้เห็นว่าซีอีโอร้อยละ 78 มั่นใจในการเติบโตทางเศรษฐกิจในสามปีข้างหน้า สะท้อนความเชื่อมั่นในระดับสูง แม้จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเ...