บริษัท ทีทูพี จำกัด (T2P) ผู้ให้บริการ e-money อิสระรายใหญ่ที่สุดของไทย เผยความสำเร็จในการวางโมเดลการทำธุรกิจสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นแบบครบวงจรเพื่อธุรกรรมด้านการเงินในยุคดิจิตอลแก่ลูกค้าภาคองค์กรธุรกิจ ดันรายได้โตเป็น 138 ล้านบาทในปี 2561 ที่ผ่านมาเทียบกับ 30 ล้านบาทในปี 2560 พร้อมขยายธุรกิจเพื่อสร้างสรรค์บริการที่หลากหลายและนำนวัตกรรมพลิกโฉมวงการ eWallet และ Loyalty ให้องค์กรธุรกิจ
นายทวีชัย ภูรีทิพย์ ประธานบริหาร บริษัท ทีทูพี จำกัด เปิดเผยว่า "ทีทูพีได้พัฒนาโมเดลธุรกิจของบริษัทฯ และประสบความสำเร็จมาก โดยจากจุดเริ่มต้นในฐานะผู้ให้บริการ e-payment มาในวันนี้ บริษัทฯ กลายเป็นนักพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการเงิน (innovative financial technologist) และได้กลายเป็นบริษัท e-money company อิสระรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่เป็นผู้ดูแลการทำธุรกรรมเงินอิเล็คทรอนิคส์ให้แก่องค์กรขนาดใหญ่จำนวนมาก คิดเป็นจำนวนรวมปีละกว่า 30 ล้านครั้งรวมมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาทต่อปี"
“ปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จคือ วิสัยทัศน์และความสามารถในการมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจที่มีศักยภาพ ผสานกับความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับการพัฒนาของตลาดในประเทศไทย การมีเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูงและศักยภาพรองรับลูกค้าและการทำธุรกรรมที่มีความซับซ้อน หลากหลาย และมีขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และความเข้าใจความต้องการขององค์กรธุรกิจต่างๆ ที่เป็นลูกค้า ทำให้ทีทูพีมีลูกค้าที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่อันดับท็อปของหลายอุตสาหกรรมที่มีฐานลูกค้านับล้านคน รวมทั้งได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้สามารถให้บริการธุรกรรม e-payment และ e-money ใกล้เคียงกับธนาคาร และยังได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย PCI DSS ซึ่งเราเป็นเพียง 1 ใน 2 บริษัทที่ไม่ใช่ธนาคารที่ได้รับการรับรองมาตรฐานนี้ เราจึงช่วยองค์กรลูกค้ายกระดับความสำเร็จได้เป็นอย่างดีในขณะที่ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งสร้างนวัตกรรมบริการทางการเงินได้หลากหลายมากขึ้น”
โดยในปีที่ผ่านมา บริษัท ได้ก่อตั้งบริษัทในเครือคือ DeepSparks เพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญบริการทางการเงินที่ใช้เทคโนโลยี AI เป็นเครื่องมือหลัก เช่น การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เป็นต้น และ DeepSparks ได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก 500TukTuks กลุ่มจันวาณิชย์ และเจมาร์ทด้วย
ปัจจุบันบริษัทฯ ให้บริการโซลูชั่นด้านการทำธุรกรรมออนไลน์ครบวงจร โดยให้บริการแบบ B2B2C และมีธุรกิจหลัก 4 ด้านได้แก่
ให้บริการบัตรเติมเงินเพื่อทำธุรกรรมออนไลน์ อาทิเช่น เล่นเกมส์ ซื้อสินค้าออนไลน์ หรือแม้แต่โอนเงินให้เพื่อน และให้บริการการพัฒนาโซลูชั่นโปรแกรมสนับสนุนการตลาด Loyalty (เช่น สะสมคะแนน) สำหรับลูกค้าองค์กร
โดยกลุ่มลูกค้าปัจจุบันของ T2P ได้แก่ B2B : Central Restaurants Group (CRG) ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ร้านอาหารและขนม ชื่อดัง อย่าง Mister Donut, KFC, Auntie Anne’s, Pepper Lunch, Beard Papa’s, Chabuton, Cold Stone Creamery, Ryu Shabu Shabu, The Terrace, Yoshinoya, S&P และ BarBQ Plaza
ระบบการชำระเงินออนไลน์ครบวงจรสำหรับผู้ประกอบการร้านค้า ซึ่งสามารถรับชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ มากกว่า 50000 ช่องทางทั่วประเทศ โดยสามารถเติมเงินผ่านช่องทาง ATM, บริการธนาคารทางอินเตอร์เน็ต, เคาน์เตอร์ธนาคาร (ธ.กรุงเทพ, ธ.ไทยพาณิชย์, ธ.กสิกร, ธ.กรุงศรี, ธ.กรุงไทย และธ.ธนชาต), เคาน์เตอร์เซอร์วิส, Tesco lotus, BigC, mPay, Familymart, B2S และอื่นๆ
ผู้ประกอบการร้านค้าจะได้รับการแจ้งเตือนแบบ real-time เมื่อมีการชำระเงินในช่องทางต่างๆ รวมถึงยังสามารถชำระเงินจาก DeepPocket กระเป๋าเงินอิเล็กโทรนิคในโทรศัพท์ที่จะทำให้การชำระเงินสะดวกสบายยิ่งขึ้น ผู้ซื้อเพียงสแกน QR code ที่รูปสินค้าโดยไม่ต้องใส่รายละเอียดที่อยู่การส่งสินค้าใหม่ทุกครั้ง DeepPocket ก็จะทำการส่งข้อมูลต่างๆ สู่ผู้ประกอบการร้านค้าทันที ตัดขั้นตอนที่ยุ่งยากสำหรับผู้ซื้อ ลดจำนวนสินค้าที่ผู้ซื้อเลือกทิ้งไว้ในรถเข็นของร้าน ทำให้การขายของคุณง่ายยิ่งขึ้น
DeepPocket บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์รูปแบบใหม่ ให้คุณสามารถใช้จ่ายอย่างปลอดภัยได้ทุกที่ ที่รับชำระด้วยมาสเตอร์การ์ด พร้อมระบบตั้งกลุ่มเพื่อนสนิทเพื่อแชร์การใช้จ่ายอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกให้คุณใช้จ่ายด้วยเงินจากกลุ่มเพื่อนได้ก่อนในยามฉุกเฉินและเติมเงินทีหลังเมื่อคุณสะดวก
คุณณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ทีทูพี จำกัด กล่าวเสริมว่า “จากจุดแข็งของทีทูพีในการพัฒนาและนำเสนอโซลูชั่นด้านการเงินสำหรับองค์กร เรามองว่าในปัจจุบันองค์กรขนาดใหญ่มีความพร้อมแล้ว ผู้บริโภคเองก็เริ่มคุ้นเคยกับการทำธุรกรรมออนไลน์ เช่น การซื้อของออนไลน์ ชำระเงินผ่านแอพ เป็นต้น ซึ่งมีแนวโน้มจะเพิ่มปริมาณขึ้น ถึงเวลาที่ควรจะเปิดโอกาสให้องค์กรขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SME ได้มีโอกาสใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วย"
"ดังนั้น ทิศทางธุรกิจในปีนี้และในอนาคต เราจะเริ่มขยายตลาดในกลุ่ม SME ให้มากขึ้น โดยทีทูพีจะพัฒนาบริการใหม่ๆ อีกมากมาย ที่จะทำให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงคนที่ไม่มีเงินเดือนประจำ เช่น คนที่ทำงานอิสระหรือฟรีแลนซ์ และคนที่ไม่มีบัญชีบัตรเครดิต สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินต่างๆ ซึ่งนอกจากจะให้ความสะดวกในการทำธุรกรรมแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนการพัฒนาสังคมไร้เงินสดหรือ Cashless society ได้อีกด้วย”
เกี่ยวกับบริษัททีทูพี (T2P) จำกัด
ก่อตั้งในปี 2556 ปัจจุบันเป็นผู้พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำเพื่อองค์กร (Revolutionary Financial Solution for Corporations) ที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นบริษัทที่ให้บริการด้าน e-money อิสระที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา ทีทูพีเป็นผู้ให้บริการธุรกรรมออนไลน์รวมกว่า 30 ล้านครั้งรวมมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท ให้แก่องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ของไทยในหลายอุตสาหกรรม
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด