เผย 10 ประเด็นทางเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นสุดในรอบทศวรรษคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2020 โดย Telenor | Techsauce

เผย 10 ประเด็นทางเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นสุดในรอบทศวรรษคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2020 โดย Telenor

Telenor Research เผย 10 แนวโน้มสำคัญทางเทคโนโลยี ปี 2020 ชี้การเกิดขึ้นของ 5G เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญแห่งโลกเทคโนโลยี ดันนวัตกรรมที่เกี่ยวเนื่องอย่าง AI และ IoT เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย ผู้บริโภคสัมผัสและได้ใช้งานจริง เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้บริโภคอย่างสิ้นเชิง ขณะที่ประเด็นด้านความยั่งยืนจะถูกยกระดับความสำคัญ แก้ปัญหาผ่านเทคโนโลยีและกลไกความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชนและประชาชน

คุณบียอน ทาล แซนเบิร์ก หัวหน้าศูนย์วิจัยเทเลนอร์ หน่วยงานวิจัยภายใต้เทเลนอร์กรุ๊ป กล่าวว่า “ในทศวรรษที่มา เทคโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตผู้คนและสังคมอย่างมาก และในปี 2020 วาระสำคัญของโลกเทคโนโลยีก็คือการให้บริการเชิงพาณิชย์แก่ประชาชนของเทคโนโลยี 5G ซึ่งจะไม่ใช่เพียงเรื่องความเร็วของการรับ-ส่งดาต้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความหน่วงที่ลดลง ทำให้นวัตกรรมที่เกี่ยวเนื่องจะได้รับการพัฒนาอย่างแพร่หลาย ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็น AI และ IoT ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี 5G เป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างมากในปี 2020 ที่จะถึงนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโลกเทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแพร่หลาย ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางภูมิทัศน์ของแพลทฟอร์ม สังคมตลอดจนการเมือง” 

ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคได้เริ่มตระหนักถึงบทบาทและการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น AI, Machine learning และ IoT 

10 ประเด็นทางเทคโนโลยีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2020 ซึ่งจะเป็นปีที่น่าตื่นเต้นที่สุดในรอบทศวรรษ

1. 5G เปลี่ยนโฉมหน้าพฤติกรรม พลิกโฉมเศรษฐกิจในปี 2020 

ในประเทศพัฒนาแล้วจะมีการให้บริการเทคโนโลยี 5G กันอย่างแพร่หลาย ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะนำเทคโนโลยี 5G มาเป็นหัวใจในการพัฒนาสินค้าและบริการ โดยคาดว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อพฤติกรรมผู้บริโภคและสังคมอย่างสิ้นเชิง โดยนวัตกรรมที่เกิดขึ้นรวมไปถึง “นวัตกรรมหลังบ้าน” ที่จะเป็นตัวแปรสำคัญในการก่อให้เกิดสินค้าและบริการที่พัฒนามาจาก 5G ซึ่งนวัตกรรมที่ว่านี้คือ Network Slicing นับว่าเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างเชิงสถาปัตย์ของเน็ตเวิร์คให้เป็นระบบเสมือน ซึ่งจะทำให้ความหน่วง (Latency) ของการรับส่งข้อมูลลดลง มีความแม่นยำในการควมคุมจากระยะไกล ทำให้เกิดการใช้ประโยชน์จาก IoT ได้เต็มศักยภาพ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้ เช่น สาธารณสุข การขนส่ง และความมั่นคง ซึ่งปัจจุบัน ดีแทค ได้ปรับโครงสร้างเน็ตเวิร์คหรือระบบชุมสายเป็นระบบเสมือนแล้ว ทำให้พร้อมต่อการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยี 5G อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ปี 2020 จะเป็นปีแห่งการเริ่มต้น “ถนนสายนวัตกรรม” อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากไม่เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและอุตสาหกรรมต่างๆ แม้เทคโนโลยีจะได้รับการพัฒนามาแล้วก็ตาม

2. eSIM จะมีการใช้อย่างแพร่หลาย

ในปี 2020 เทคโนโลยี eSIM จะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคสัมผัสได้ในชีวิตประจำวันในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้กันอยู่ทุกวัน ไม่จำกัดแค่เพียงโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือแท็บเล็ต แต่จะมากับของใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี IoT และ 5G ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า eSIM จะมีการใช้อย่างแพร่หลายในปี 2020 และจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ได้รับความสะดวกสบายและสามารถจัดเก็บข้อมูลการใช้งานจริง

3. นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม

กระแสความตื่นตัวประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมจะเป็นมากกว่าการสร้างความตระหนักรู้ เพราะนวัตกรรมจะเข้ามามีบทบาทในการจัดการสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นไอโอที บิ๊กดาต้าและปัญญาประดิษฐ์ เพื่อลดการใช้ปริมาณการใช้ทรัพยากร อันเป็นส่วนหนึ่งของการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ทั้งนี้ ภายในปี 2030 ภาคธุรกิจในยุโรปได้ร่วมมือกันทำปฏิญญาในการใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ครอบคลุมห่วงโซ่ทางธุรกิจ เพื่อเป็นการตระหนักรู้และลงมือปฏิบัติเพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมต่างๆ จนทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง ขณะที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคผ่านเครื่องมือทางดิจิทัลอย่างโมบายแอปพลิเคชัน

4. พัฒนาเทคโนโลยีด้วยเทคโนโลยี

ด้วยความต้องการที่สูงขึ้นของ AI แต่บุคลากรผู้พัฒนา AI ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้น ในปี 2020 จะได้เห็นการพัฒนาแพลทฟอร์ม Machine learning ที่สามารถสร้าง AI ได้ตามความต้องการ ทำให้องค์กรธุรกิจหรือบุคคลทั่วไปสามารถพัฒนา AI ใช้งานได้เอง เรียกได้ว่าเป็นการนำเทคโนโลยีสร้างเทคโนโลยีอีกทอดหนึ่ง

5. ร่างกายจะคอนเน็คกับอินเทอร์เน็ตกว่าที่เคย

เทคโนโลยี IoT ส่วนมากได้รับการพูดถึงในวงจำกัดอย่างอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ภาคการผลิต และเกษตรกรรม ซึ่งยังนับว่าไกลตัวกับผู้บริโภค แต่ในปี 2020 ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะได้สัมผัสเทคโนโลยี IoT มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านสุขภาพและการแพทย์ โดยเทคโนโลยี IoT จะถูกผนวกเข้าไปอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้สามารถจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับร่างกายได้อย่างเรียลไทม์ เช่น ความดันเลือด ปริมาณออกซิเจนในเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ หรือแม้แต่การกรน ตัวอย่างเช่น การแก้ปัญหาระดับอินซูลินในเลือด ซึ่งอุปกรณ์ IoT ที่ได้รับการพัฒนาจะลดเวลาระหว่างการอ่านค่าอินซูลินและการฉีดยาเข้าร่างกาย เพราะกรณีนี้ผู้ป่วยรอไม่ได้  ซึ่งเป็นบทบาทของ IoT ที่ผู้บริโภคสามารถสัมผัสได้ในปีหน้านี้

6. ปรากฏการณ์ “Dirty Data” รูปแบบใหม่ของข่าวปลอม

ปัจจุบัน ข้อมูลบนออนไลน์เกิดขึ้นอย่างมหาศาลในทุกวินาที ขณะเดียวกัน ปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีบทบาทในการคัดกรองข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ไม่เพียง fake news หรือข่าวปลอมที่เป็นภัยบนโลกออนไลน์ แต่ยังรวมไปถึง Dirty Data ซึ่งได้รับการนิยามว่าเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และจะปะปนอยู่ในฐานข้อมูลของระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้การประมวลผลข้อมูลผิดพลาดตั้งแต่แรกเริ่ม ส่งผลต่อการประมวลผลข้อมูลต่างๆ ผ่าน AI หรือ machine learning ทำให้การตัดสินใจผิดพลาด

อย่างไรก็ตาม เหล่านักวิทยาศาสตร์ข้อมูลในสหภาพยุโรปมองเห็นถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นและกำลังร่วมมือกัน เพื่อแก้ปัญหาและทำให้มั่นใจว่าข้อมูลที่อยู่บนโลกออนไลน์และระบบคอมพิวเตอร์ถูกต้องและมีคุณภาพ

7. “ความน่าเชื่อถือ” ถูกยกระดับความสำคัญ

“ความน่าเชื่อถือ” เรียกได้ว่าเป็นตัวกลางของการใช้บริการทางออนไลน์ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีข่าวคราวที่บริษัทผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียนำข้อมูลของผู้ใช้บริการออกสู่ระบบไปยัง third party เช่น บริษัทโฆษณา ทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจของผู้ใช้บริการต่อผู้ให้บริการ “ลดลง” ดังนั้น ในปี 2020 จะเห็นแนวโน้มที่ว่า ผู้บริโภคจะตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น และนั่นทำให้ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียต่างปรับปรุงและเสริมความแข็งแกร่งด้าน “ความน่าเชื่อถือ”

8. ปีแห่งสนามรบของ Streaming TV

หลังจากที่ Netflix ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบความบันเทิงของผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง ผ่านรูปแบบ “สตรีมมิ่ง” ทำให้ผู้ผู้คอนเทนท์และเจ้าของแพลทฟอร์มรายอื่นอย่าง AppleTV และ Disney เข้ามาขอแชร์ส่วนแบ่งในตลาด ซึ่งในปี 2020 จะได้สนามรบทั้งคอนเทนท์ที่หลากหลายและราคาจากผู้เล่นเหล่านี้อย่างแน่นอน

9. เกณฑ์ใหม่คุมบิ๊กเทค

ปี 2020 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ “บิ๊กเทค” ที่จะถูกควบคุมด้วยกฎเกณฑ์ใหม่ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการจัดเก็บภาษี ข้อมูลส่วนบุคคล ความมั่นคง ตลอดจนข้อห้ามที่เกี่ยวกับการโฆษณาเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง  หลังจากเหตุการณ์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนในสังคมตั้งคำถามถึงประเด็นปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากบริการของบิ๊กเทคเหล่านี้

10. ป้องกัน Phone scam ด้วย Machine learning

ในปีที่ผ่านมา Phone scam หรือภัยที่เกิดจากการหลอกหลวงผ่านโทรศัพท์มีจำนวนเพิ่มขึ้นทั่วโลก ซึ่งมาในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทิ้งมิสคอล การโทรออกผ่านหุ่นยนต์ ซึ่งวิธีการเหล่านี้ต่างมีเล่ห์กลในการหลอกล่อเอาเงินจากเหยื่อ แต่เพื่อลดและป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น ในปี 2020 Machine learning จะเข้ามามีบทบาทและเป็นเครื่องมือในการป้องกัน Phone scam ที่เกิดขึ้น

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

AIS คว้ารางวัล Creative Equality Award ยกระดับชีวิต ส่งต่อพลังสร้างสรรค์เพื่อสังคม

AIS ตอกย้ำความเป็นเลิศทางความคิดสร้างสรรค์ คว้ารางวัล Creative Equality Award Creative ประเภท Social Impact Awards จากเวที Creative Excellence Awards 2024 ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จขอ...

Responsive image

กรุงศรีตั้ง ปาลิดา อธิศพงศ์ นั่งรักษาการกรรมการผู้จัดการของ Krungsri Finnovate เดินหน้าสตาร์ทอัปไทย

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประกาศแต่งตั้ง นางสาวปาลิดา อธิศพงศ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการกรรมการผู้จัดการ Krungsri Finnovate...

Responsive image

ทีทีบี จับมือ databricks ผสานพลัง Data และ AI สร้างอนาคตการเงินที่ดีขึ้นให้คนไทย

ทีทีบี ตอกย้ำความมุ่งมั่นผลักดันดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับวงการธนาคารไทย จับมือพันธมิตร databricks พร้อมเดินหน้าสร้าง Data-driven Culture ปักธงก้าวสู่ธนาคารที...