Tencent Cloud กลุ่มธุรกิจคลาวด์ภายใต้เทนเซ็นต์ ผู้นำบริการด้านอินเตอร์เน็ตของโลก ประกาศความร่วมมือกับ “แชร์ริง” (ShareRing) แพลตฟอร์มพร้อมใช้สำหรับองค์กร ที่มาพร้อมระบบนิเวศเพื่อการเดินทาง และการท่องเที่ยวแบบครบวงจร จับมือพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการเอกสาร และการยืนยันตัวตน (Identity and document management platform) ด้วยระบบคลาวด์ระดับเวิลด์คลาส และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อัจฉริยะจากเทนเซ็นต์ และพร้อมเปิดให้บริการแอปพลิเคชันแชร์ริงในแถบอาเซียน และประเทศไทยภายในปีนี้
รองรับดีมานด์ด้านเทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยว (Travel Technology) ในยุค New Normal หลังอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง โดยการร่วมมือกันครั้งนี้ มุ่งมอบประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งาน รวมถึงเพิ่มความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือให้กับระบบ อีกทั้งสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทย และนานาชาติในการดำเนินธุรกิจภายใต้ระบบนิเวศของแชร์ริงที่มีเครือข่ายผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านรายทั่วโลก
มร. ชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “เทนเซ็นต์ คลาวด์ มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุน และผลักดันองค์กรต่างๆ ให้สามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนในยุคที่เป็นการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมต้องเร่งปรับตัวเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงในยุค New Normal ซึ่งหนึ่งในอุตสาหกรรมที่น่าจับตามองหลังจากที่หลายประเทศเริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์จากสถานการณ์โควิด-19 คือ ‘อุตสาหกรรมท่องเที่ยว’ ที่เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งภายใต้มาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยที่เข้มงวด ประกอบกับเทรนด์การใช้เทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยวที่มีกระแสมาตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดวิกฤติโควิด-19 เช่น การจองที่พัก การจองตั๋วเครื่องบิน การเช็คอินบริการต่างๆ หรือบริการรถเช่าผ่านแอปพลิเคชัน ดังนั้นเทคโนโลยีคลาวด์ และเอไอ จึงกลายเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในยุคปัจจุบันมากขึ้นเรื่อยๆ”
“ล่าสุด เทนเซ็นต์ คลาวด์ ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับแชร์ริง ผู้นำด้านระบบนิเวศสำหรับการท่องเที่ยว และธุรกิจแบบแบ่งปัน โดยเราได้นำความเชี่ยวชาญด้านระบบปฏิบัติการคลาวด์ และเอไออัจฉริยะมาพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการเอกสาร และการยืนยันตัวตนให้กับแชร์ริงด้วยเทคโนโลยี Optical Character Recognition (OCR) ที่สามารถแปลงภาพตัวอักษรทั้งตัวพิมพ์ และลายมือให้เป็นข้อความเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการ์ด ใบรับรอง และเอกสารต่างๆ และรองรับเทมเพลทที่สร้างขึ้นเอง (Self-customized template) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้อนข้อมูล และลดต้นทุนการใช้งานลงด้วย และเทคโนโลยีด้านการจดจำใบหน้า หรือ Face Recognition (FR) ให้คุณสมบัติในการพิสูจน์ตัวตนซึ่งทำงานคู่กับเทคโนโลยี Liveness Detection โดยเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ นอกจากจะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับบริการที่สะดวก และปลอดภัยแล้ว ยังช่วยมอบประสบการณ์ในการจัดการเรื่องต่างๆ ในการท่องเที่ยวได้แบบครบวงจร สะดวกสบาย และไร้รอยต่อ อีกทั้งยังช่วยลดความยุ่งยาก เพิ่มความรวดเร็วให้กับขั้นตอนงานเอกสารต่างๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย” มร. ชาง กล่าว
มร. ทิม บอส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้งแชร์ริง กล่าวว่า “แอปพลิเคชันแชร์ริงเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการแบบครบวงจร ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ เกี่ยวกับการเดินทาง และท่องเที่ยวได้ครอบคลุมทุกมิติ เช่น การจองโรงแรม การเช่ารถ การซื้อแพคเกจทัวร์ต่างๆ ไปจนถึงการซื้อประกันต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ดำเนินธุรกิจด้วยเป้าหมายที่จะมอบความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการเข้าถึงบริการและผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ ระบบนิเวศของเราพัฒนาขึ้นบนเทคโนโลยี ‘Distributed Ledger Technology’ (DLT) หรือที่เรียกว่า Blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การบริหารจัดการข้อมูล รวมถึงการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยสูง”
มร. ทิม กล่าวต่อว่า “แชร์ริงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับเทนเซ็นต์ คลาวด์ในการร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการเอกสาร และการยืนยันตัวตน ซึ่งแชร์ริงเชื่อมั่นในศักยภาพของเทนเซ็นต์ที่เป็นผู้ให้บริการคลาวด์แพลตฟอร์มประสิทธิภาพสูงที่มีความน่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับในระดับโลก อีกทั้งยังดำเนินธุรกิจอยู่ในแถบอาเซียน และประเทศไทย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เราให้ความสำคัญ โดยเราวางแผนที่จะเปิดให้บริการแอปพลิเคชันในแถบอาเซียนเป็นพื้นที่แรก และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยภายในปีนี้”
ด้วยความแข็งแกร่งของเทนเซ็นต์ คลาวด์ แชร์ริงจะช่วยยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวในยุค New Normal ที่นักท่องเที่ยวต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ลดความยุ่งยากในการยืนยันตัวตน ลดการสัมผัส หรือการยื่นเอกสารสำคัญประกอบการทำธุรกรรมต่างๆ เพื่อซื้อบริการจากแพลตฟอร์ม โดยสามารถทำได้บนสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้แชร์ริงแตกต่างจากแอปพลิเคชันท่องเที่ยวรายอื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
แชร์ริงตั้งเป้าว่าจะขยายเครือข่ายพันธมิตร พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการทั้งในประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ทั่วโลกภายใต้ระบบนิเวศของแชร์ริงที่มีเครือข่ายครอบคลุมผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านรายทั่วโลก
“ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของเทนเซ็นต์ ประเทศไทยที่มุ่งมั่นนำความก้าวล้ำของบริการคลาวด์ระดับเวิลด์คลาส และความเชี่ยวชาญในการให้บริการแพลตฟอร์มขนาดใหญ่เข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนพันธมิตรอย่างแชร์ริงสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจพร้อมร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เข้าสู่ยุคดิจิทัลในยุค New Normal” มร. ชาง กล่าวทิ้งท้าย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด