ในปี 2567 นี้ ประเทศไทยกำลังได้รับความสนใจจากวงการเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก ด้วยการเป็นสถานที่จัดงานสำคัญระดับนานาชาติถึง 2 งาน ได้แก่ SEA Blockchain Week (SEABW) ในวันที่ 22-28 เมษายน (งาน Main Conference 24-25 เมษายน) และ Devcon ในวันที่ 12-15 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงเทพมหานคร
การได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันนโยบายและกฎระเบียบที่เอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากร ตลอดจนการสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสม ซึ่งการสนับสนุนจากภาครัฐในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ได้แก่ การที่กระทรวงการคลังได้ประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ เรื่องยกเว้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อส่งเสริมการระดมทุนในเศรษฐกิจดิจิทัล และกระทรวงการคลังและสำนักงาน ก.ล.ต. ก็อยู่ระหว่างการดำเนินงานเพื่อแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่จะจัดให้โทเคนดิจิทัลบางประเภทมีลักษณะเป็นหลักทรัพย์ เป็นต้น
โดยงาน SEA Blockchain Week ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22-28 เมษายนนี้ เป็นงานด้านบล็อกเชนระดับภูมิภาค ซึ่งตลอดสัปดาห์จะประกอบไปด้วยกิจกรรมมากมาย ได้แก่ Main Conference หรือเวทีงานหลัก ในวันที่ 24-25 เมษายน 2567 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ True ICON HALL ชั้น 7 ICONSIAM ที่ได้ผู้ทรงคุณวุฒิและแขกรับเชิญในแวดวงบล็อกเชน และ Web3 ทั้งจากในประเทศไทยและทั่วโลก มาร่วมแลกเปลี่ยนพูดคุย อาทิ Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum (เข้าร่วมแบบออนไลน์), ดร. อารักษ์ สุธีวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCBX, Yat Siu ประธานคณะกรรมการ Animoca Brands, Avery Ching CTO และผู้ร่วมก่อตั้ง Aptos และผู้เชี่ยวชาญอีกกว่า 100 คน และนอกจากงานในเวทีหลักแล้ว SEABW ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น Side Event, สัมมนา, Workshop กว่า 40 งานตลอดทั้งสัปดาห์ พร้อมรองรับผู้เข้าร่วมงานกว่า 3,000 คน
ส่วนงาน Devcon ในเดือนพฤศจิกายน จะเป็นเวทีรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญ นักพัฒนา และผู้สนใจเกี่ยวกับ Ethereum จากทั่วโลก โดยในปีก่อน ๆ ที่จัดที่ต่างประเทศนั้น มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน
ซึ่งทั้ง 2 งานนี้ จัดว่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่ให้คนไทยได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เจรจาความร่วมมือทางธุรกิจ และนำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีล่าสุด ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมบล็อกเชนไทย พร้อมผลักดันให้ไทยเป็นผู้นำในเวทีโลก เราจึงมองว่าคนไทยที่สนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและเศรษฐกิจดิจิทัล จึงควรให้การสนับสนุน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในครั้งนี้
สำหรับผู้ที่สนใจงาน SEA Blockchain Week สามารถซื้อบัตรเข้างานได้แล้ววันนี้ที่: https://www.seablockchainweek.org/ ใช้โค้ด TECHSAUCE30 เพื่อลด 30%
และมีราคาพิเศษสำหรับนักเรียนนักศึกษา โดยบัตรเข้างานทุกใบมาพร้อมคูปองอาหารใน ICONSIAM มูลค่า 300 บาท
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด